วันพุธ ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2568 10:50 น.

ภูมิภาค

อธิบดีกรมโยธาฯ ร่วมคิกออฟกำจัดผักกระฉูด วัชพืชน้ำในบึงมอ พร้อมดันเป็นแหล่งท่องเที่ยว พรานเบ็ดได้จุดล่าปลาแห่งใหม่แล้ว

วันจันทร์ ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2566, 14.31 น.

วันที่ 24 กรกฎาคม 2566 เวลาประมาณ 10.00 น. บริเวณแหล่งน้ำบึงมอ เขตพื้นที่เทศบาลตำบลท่าอุเทน อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง เดินทางมาร่วมพิธีเปิดกิจกรรมโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ ตามผังภูมิสังคม เพื่อการบริหารจัดการน้ำหมู่บ้าน/ชุมชน แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน (Geo-social Map) ให้เป็นไปตามนโยบายกระทรวงมหาดไทย เรื่องการแก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง อย่างเป็นรูปธรรม

ครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ได้แก่ กรมการปกครอง กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัย กรมการพัฒนาชุมชน และ กรมที่ดิน จับมือกับจังหวัดนครพนม องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม (อบจ.ฯ) อำเภอท่าอุเทน เทศบาลตำบลท่าอุเทน หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 22 (นพค.22) หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครพนม สภ.ท่าอุเทน รพ.ท่าอุเทน รวมถึง คณะกรรมการจัดทำผังภูมิสังคมฯ ระดับจังหวัด,อำเภอ,ตำบลและหมู่บ้านในท้องที่ ข้าราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน 7 ภาคีเครือข่าย โดยเฉพาะด้านการศาสนา ประชาชนจิตอาสา ที่เข้าร่วมดำเนินการอย่างคับคั่ง โดยทางมณฑลทหารบกที่ 210 (มทบ.210) นอกจากส่งกำลังพลช่วยแล้ว ยังได้จัดรถครัวสนามทำอาหารแจกผู้ร่วมกิจกรรมอีกด้วย

นายวันชัย จันทร์พร ผวจ.นครพนม กล่าวต่ออธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง ว่า การบริหารจัดการน้ำฯ แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำไปใช้เป็นข้อมูลในการกำหนดโครงการหรือกิจกรรม เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง พัฒนาคุณภาพชีวิตให้ประชาชน และพัฒนาเมือง โดยน้อมนำต้นแบบการจัดการทรัพยากรน้ำ และลดความเสี่ยงจากการเกิดภัยพิบัติของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 เกี่ยวกับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และน้อมนำพระราชดำรัส “อารยเกษตร” ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 มาใช้ดำเนินการ ภายใต้กลไกการทำงานในรูปแบบของโครงการอำเภอ”บำบัดทุกข์ บำรุงสุขแบบบูรณาการ

“ทั้งนี้ มีการประสานงานและคัดเลือกโครงการ ที่ได้รับการสนับสนุนจากเทศบาลตำบลท่าอุเทน ในการดำเนินโครงการ และอาศัยความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐ จิตอาสา ภาคีเครือข่าย ประชาชนในพื้นที่ และภาคเอกชน อันจะก่อให้เกิดพลังในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล ไปสู่การปฎิบัติในพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม” ผวจ.นครพนม กล่าว

ทางด้าน นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยได้ประชุมติดตามนโยบายผู้บริหารระดับสูงหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ครั้งที่ 4/2565 เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 ปลัดกระทรวงมหาดไทยได้มีข้อสั่งการให้กรมโยธาธิการและผังเมือง ร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทย เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม และน้ำแล้ง และจัดทำแผนการปฏิบัติงาน (Action Plan) ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนฤดูฝนช่วงเดือนพฤษภาคม

 โดยการจัดทำผังภูมิสังคมเพื่อการบริหารจัดการน้ำหมู่บ้าน/ชุมชน แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน (Geo – social Map) และเน้นย้ำให้มีการนำแผนไปสู่การปฏิบัติแก้ไขปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง และพัฒนาคุณภาพชีวิตในทุกมิติให้กับประชาชนในพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม โดยกำหนดระยะเวลาการดำเนินการ 31 สัปดาห์ (ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2565 ถึง มิถุนายน 2566) ในทุกจังหวัด

อธิบดีกรมโยธาฯ กล่าวต่อว่า กลไกการทำงานของโครงการจัดทำผังภูมิสังคมเพื่อการบริหารจัดการน้ำหมู่บ้าน ชุมชน แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน (Geo-social Map) สรุปเป็นบันได 5 ขั้น โดยบันไดขั้นแรกจะอาศัยการบอกเล่าสภาพภูมิสังคมจากชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ ให้พวกเขาถ่ายทอดออกมาเป็นแผนผัง แผนที่ พร้อมบอกเล่าปัญหาที่ประสบภัยอยู่ในปัจจุบัน

จากนั้นก็เข้าสู่บันไดขั้นที่ 2 กรมโยธาฯจะนำแผนผังที่เขียนด้วยมือของชาวบ้านจากการลงพื้นที่ประชุม สแกนเข้าโปรแกรมคอมพิวเตอร์ โดยเจ้าหน้าที่จะสามารถทราบปัญหา ทางกายภาพของพื้นที่นั้น ๆ และให้เป็นไปตามความต้องการของชาวบ้าน เช่น พื้นที่ลุ่มชาวบ้านอยากได้สะพานหนีน้ำ หรือพื้นที่ดอนชาวบ้านอยากให้สร้างถนนเพื่อเพิ่มทางสัญจร

เมื่อมาถึงบันไดขั้นที่ 3 ประชุมพิจารณาโครงการที่ได้การสนับสนุนจากภาครัฐ โดยขั้นตอนนี้ทางอำเภอต้องพิจารณากลั่นกรองโครงการมาก่อน เรียงจากโครงการขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ และเร่งด่วนจากมากไปหาน้อย กระทั่งบันไดขั้นที่ 4 การประชุมพิจารณาโครงการสำคัญขนาดใหญ่ ที่จำเป็นต้องใช้งบประมาณมาก ทางจังหวัดจะพิจารณามอบหมายให้แต่ละหน่วยงานที่รับผิดชอบ เข้าแผนพัฒนา และถ้ามีโครงการที่สามารถทำได้โดยไม่ต้องใช้งบประมาณ สามารถบูรณาการหน่วยงาน ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคีเครือข่าย ทำให้สามารถดำเนินการได้ทันที

และบันไดขั้นสุดท้าย การนำโครงการที่ได้ไปดำเนินการให้แล้วเสร็จ ผลจากการพัฒนาจากโครงการผังภูมิสังคมเพื่อการบริหารจัดการน้ำหมู่บ้าน ชุมชน แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน (Geo – social Map) ก็จะได้โครงการที่มาจากความเดือดร้อนของชาวบ้านในพื้นที่จริง ทำให้ได้โครงการที่ตรงใจตามความต้องการของชาวบ้าน ส่งผลให้เป็นการใช้งบประมาณ ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด

“ฉะนั้นเป็นการพัฒนาจากรากหญ้าขึ้นสู่ปลายยอด และถ้าหากเราทำแบบนี้ทั่วประเทศ จะทำให้สังคมไทยเข้มแข็งยั่งยืนตามแบบ SDGs (Sustainable Development Goals) หรือเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน” นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาฯ กล่าว

บึงมอมีเนื้อที่ 86 ไร่ ตั้งอยู่ระหว่าง หมู่ 4 และ 5 ต.ท่าอุเทน อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เป็นแหล่งน้ำสาธารณะขนาดใหญ่ ที่มีความสำคัญต่อวิถีชีวิตของคนในชุมชนท่าอุเทน สามารถรองรับปริมาณน้ำได้ประมาณ  343,400 ลูกบาศก์เมตร มีสัตว์น้ำอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก จึงเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญในการดำรงชีวิตและทำกิจกรรมของประชาชนในพื้นที่  รวมถึงเป็นแหล่งน้ำที่ใช้ในการอุปโภคและการเกษตร เพราะบึงแห่งนี้มีน้ำตลอดทั้งปี

ปัจจุบันบึงมอมีความตื้นเขิน เกิดจากวัชพืชน้ำเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากและขยายพันธุ์อย่างรวดเร็ว วัชพืชดังกล่าวคือผักกระฉูดหรือผักกระเฉดบก มีลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ใกล้เคียงกับผักกระเฉดทุกอย่าง จะมีข้อแตกต่างกันที่ผักกระเฉดมีทุ่นสีขาวหุ้มลำต้น แต่ต้นของพักกระฉูดไม่มี และไม่มีสรรพคุณทางยาสมุนไพรใดๆ และอาจเกิดกระทบต่อระบบนิเวศน์ในระยะยาว เพราะผักกระฉูดสามารถขยายพันธ์ได้รวดเร็ว และเป็นพืชที่กำจัดยากมาก

เดิมบึงมอมีความลึกอยู่ที่ 3 เมตร ต่อมาเกิดการทับถมของตะกอนดิน ส่งผลให้แหล่งน้ำตื้นเขิน เหลือความลึกแค่ 1.8 เมตรเท่านั้น คาดว่าปริมาณวัชพืชน้ำมีประมาณ 1,360 ตัน อาจต้องใช้เวลาประมาณ 2 วันจึงจะแล้วเสร็จ หลังกำจัดวัชพืชน้ำเรียบร้อย ทางเทศบาลตำบลท่าอุเทนจะเดินหน้าพัฒนาปรับปรุงภูมิทัศน์และสภาพพื้นที่โดยรอบ เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศน์แหล่งน้ำ นำพันธุ์ปลามาปล่อยเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนเอาเบ็ดมาตกพักผ่อนหย่อนใจ โดยห้ามใช้แหหรืออวน รวมถึงใช้รองรับการทำกิจกรรมของชุมชน  เพื่อส่งเสริมการประกอบอาชีพ และเพิ่มรายได้ให้แก่ประชาชนในท้องถิ่น

หน้าแรก » ภูมิภาค