วันเสาร์ ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2568 12:59 น.

ภูมิภาค

เขตการศึกษาจะเล่นงานเด็กให้ครูยืมเงิน โวยห้ามถ่ายภาพสถานที่ราชการ

วันพุธ ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2566, 18.42 น.

เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์เขต 4 ขู่เอาเรื่องเด็กฐานเก็บดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด พร้อมจะสอบสวนถึงที่มาของเงิน หลังครูยืมเงินเด็กพิการ 14 ปีไป 2 หมื่น ล่าสุดเอาเงินมาคืนเด็กแล้วหลังเป็นข่าว ขณะรอง ผอ.เขตการศึกษาโวยวายกลัวเสียชื่อ ห้ามถ่ายภาพในสถานที่ราชการเด็ดขาด ต้องขออนุญาต แม่งง ตอนยืมไปยืมที่บ้าน ตอนคืนให้ไปเอาที่เขตฯ


วันที่ 16 ส.ค.66 กรณีครูสาวอายุ 27 ปีโรงเรียนในพื้นที่ ต.ปะเคียบ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ สังกัดเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์เขต 4 ได้ยืมเงินเด็กหญิงอายุ 14 ปี ซึ่งเป็นเด็กพิการทางการเคลื่อนไหว (เดินขาเขย่ง) ชาว อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ ไปเป็นจำนวนเงิน 20,000 บาท ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2566


ซึ่งจากคำบอกเล่าของเด็กก่อนหน้านี้ ครูสาวคนนี้มาถึงบ้านพักแล้วพยายามมาคาดคั้นขอยืมเงินจากนางสุภาพร พันธุ์ทูล อายุ 48 ปี แม่ของเด็ก แต่ไม่มีให้ จึงหันมาขอยืมเงินน้อง เอ (นามสมมุติ) พร้อมกับเสนอจะให้ดอกเบี้ยกับเด็กร้อยละ 20 จนกระทั่งเด็กยอมให้ยืมเงิน และสัญญาจะยืมเงินแค่ 2 เดือน


แต่สุดท้ายไม่ยอมคืนเงินให้ ทวงถามหลายครั้งได้กลับมาเพียง 5,000 บาท ที่เหลือบล็อคโทรศัพท์ ไลน์ ไม่สามารถติดต่อได้ ก่อนจะมาร้องขอเพื่อขอความเป็นธรรมผ่านสื่อ เพราะเงินดังกล่าวเด็กจะเอาไปผ่าตัดรักษาตัวเอง


ความคืบหน้าล่าสุดผู้สื่อข่าว ได้รับแจ้งจากแม่เด็ก ว่านิติกรของสำนักงานเขตฯได้นัดหมายให้ครูมาจ่ายเงินจำนวนที่ค้างไว้ 15,000 บาทที่สำนักงานเขตฯ เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปถึง ถูก รอง ผอ.เขต มาโวยวายว่า “ห้ามบันทึกภาพ” เพราะบริเวณนี้เป็นสถานที่ราชการ จะต้องทำหนังสือขออนุญาตเป็นลายลักอักษรก่อน แล้วปิดประตูห้ามผู้สื่อข่าวเข้าไปในภายในอาคาร พร้อมกับให้ รปภ.มายืมคุมนักข่าวเอาไว้ เพื่อป้องกันการถ่ายภาพ


โดยหลังจาก มีการชำระเงินกันเรียบร้อยแล้ว นางสุภาพร แม่เด็ก ได้ออกมากล่าวว่า ได้พาลูกสาวมาที่เขตพื้นที่การศึกษาฯตามนัดหมาย ส่วนฝ่ายครู 27 ปี เดินทางมาพร้อมกับ ผอ.โรงเรียน


จากนั้นทางสำนักงานเขต ได้กล่าวหาเด็กว่า “เก็บดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด” ทำให้ลูกสาวตกใจคิดว่าจะต้องเป็นคดีความ หันหน้ามาหาแม่พร้อมกับจับขาแม่ไว้แน่น และยังจะสอบสวนหาที่มาของเงินลูกสาวว่าเอาเงินมาจากไหน ทำไมเด็กตัวแค่นี้จึงมีเงินเก็บ


จึงต้องค้นหาภาพถ่ายในเฟชบุ๊คของลูกสาวมาเป็นหลักฐานว่า ลูกสาวหาเงินเองด้วยการขายของตามตลาดนัด รับจ้างทั่วไปทั้งซักผ้า รีดผ้า ทำความสะอาดบ้าน หลังจากนั้น จนท.จึงยอมให้ครูจ่ายเงิน 15,000 บาทให้ ส่วนหนึ่งก็อยากจะถามครู ตอนยืมไปยืมถึงในบ้าน ตอนคืนให้ไปเอาที่เขตพื้นที่การศึกษาฯ และมีการสอบสวนเหมือนตำรวจ


ตนก็มีอาชีพเป็นครูเหมือนกัน มักจะสอนลูกเสมอเรื่องการทำมาหากินเพื่อให้ตัวเองอยู่ได้ ส่วนสาเหตุที่ลูกสาวมีความมุมานะ เพราะคิดว่าจะต้องหาเงินรักษาตัวเอง เนื่องจากเคยคุยกับลูกว่าการผ่าตัดขาไม่สามารถใช้สิทธิ์การเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ เพราะเป็นการศัลยกรรม  


ขณะที่ ด.ญ.เอ บอกว่า ตนเป็นคนชอบค้าขาย ขายทุกอย่างที่พอขายได้ รับจ้างทุกอย่างที่พอได้เงิน เพื่อเก็บเงินไว้หวังจะไปรักษาความพิการของตัวเอง และจะเก็บเงินไว้เป็นทุนการศึกษา หลังจากนี้จะไม่กล้าให้ใครยืมเงินอีกแล้ว ถ้าเจอคนแบบนี้ จะตั้งใจเรียนและทำมาหากินดีกว่า

หน้าแรก » ภูมิภาค