วันที่ 16 สิงหาคม 2566 ที่ลานพญาศรีสัตตนาคราช ริมแม่น้ำโขงถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม พลโท สวราชย์ แสงผล แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) พร้อมด้วย นายวันชัย จันทร์พร ผวจ.นครพนม พลตรี สถาพร บุญชู ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 210 (ผบ.มทบ.210) พล.ต.ต.ธวัชชัย ถุงเป้า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม (ผบก.ภ.จว.นครพนม) พลเรือตรี สมาน ขันธพงษ์ ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (ผบ.นรข.) นายนิวัต เจียวิริยบุญญา นายกเทศมนตรีเมืองนครพนม ร่วมกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์น้ำโขงหนุนสูง ในพื้นที่ชายแดน จ.นครพนม

หลังในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีฝนตกหนักในพื้นที่ กระทั่งน้ำโขงขึ้นสูงต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่ระดับประมาณ 10.50 เมตร ห่างจากจุดล้นตลิ่ง ราว 1.50 เมตร คือที่ 12 เมตร ส่งผลให้ลำน้ำสาขาสายหลัก มีมวลน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร ได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง

โดยในครั้งนี้ มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานสสถานการณ์น้ำ ประกอบด้วย นายเสกสันต์ ไชยบูลย์ อุตุนิยมวิทยานครพนม นายศาสตรา พรหมรักษ์ ผอ.โครงการชลประทานนครพนม พ.อ.อรรถพล แก้วคำแสน หน.กองกิจการพลเรือน มทบ.210 น.ท.วรภัทร แสงสุวรรณ หัวหน้าสถานีเรือนครพนม และ เกษตรจังหวัดนครพนม ปศุสัตว์จังหวัดนครพนม ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองนครพนม ร่วมสรุปสถานการณ์ผลกระทบจากน้ำโขงหนุน

โดยทุกหน่วยยืนยันยังต้องเฝ้าระวังต่อเนื่อง เพราะมีแนวโน้มฝนตกหนักอีกรอบ รวมถึงยังมีมวลน้ำจากภาคเหนือไหลมาสมทบ บวกกับปีนี้ระดับน้ำโขงเพิ่มรวดเร็ว ทำให้ลำน้ำสาขาสายหลัก ระบายลงน้ำโขงไม่ทัน โดยเฉพาะพื้นที่ ลำน้ำอูน ลำน้ำสงคราม ที่รองรับน้ำมาจากพื้นที่ จ.สกลนคร ยังมีปริมาณเกินความจุที่ประมาณ 40 -50 เปอร์เซ็นต์ โดยทางชลประทานยังต้องวางแผนระบายลงน้ำโขงต่อเนื่อง ส่วนภาพรวมผลกระทบจากน้ำท่วม ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่การเกษตร นาข้าว คาดมีพื้นที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วม เกือบ 40,000 ไร่ และรอสำรวจความเสียหายหลังน้ำลด

ทั้งนี้ทางด้าน พลโท สวราชย์ แสงผล แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ เพื่อรับฟังสรุปสถานการณ์น้ำโขงหนุน รวมถึงผลกระทบต่างๆ จากน้ำท่วม ในพื้นที่ จ.นครพนม เพื่อสร้างความร่วมมือกับภาครัฐ หน่วยงานเกี่ยวข้อง ในการวางแผนดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยทางจังหวัดนครพนม ร่วมกับหน่วยงานทหาร มทบ.210 นรข. ตำรวจภูธรนครพนม ได้มีการเตรียมพร้อมดูแลรับมือให้การช่วยเหลือทุกด้าน ซึ่งต้องยังเฝ้าระวังต่อเนื่อง เกี่ยวกับสถานการณ์น้ำ จนกว่าจะพ้นวิกฤติ  ในส่วนของหน่วยงานทหารทุกจังหวัดในความรับผิดชอบ กองทัพภาคที่ 2 ได้ตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ให้การดูแลช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งจังหวัดชายแดนติดน้ำโขง รวมถึงจังหวัดตอนใน หากประชาชนได้รับผลกระทบ หรือต้องการขอรับการช่วยเหลือสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่หน่วยงานทหารทุกจังหวัด

ในเวลาเดียวกัน มทภ.2 ได้สอบถามชาวบ้านที่ตั้งแผงขายของอยู่บริเวณนั้น ว่าได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมอย่างไร ซึ่งกลุ่มผู้ค้ากล่าวชื่นชมการทำงานของจังหวัดนครพนม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จากนั้น มทภ.2 ก็เดินทางไปยัง มทบ.210 เพื่อเป็นประธานประชุมความคืบหน้า การช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน