ถ้ากล่าวถึงอาชีพฅนตีเหล็กในจังหวัดนครพนม เดิมทีมีกระจัดกระจายอยู่หลายอำเภอ ตามภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ ปัจจุบันอาชีพดังกล่าวค่อยๆเลือนหายไป ตามยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลง จะเหลืออยู่เพียงแห่งเดียว ที่ยังสืบทอดภูมิปัญญา ถ่ายทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นนานร่วม 100 ปี และสามารถสร้างรายได้ สร้างอาชีพให้กับคนในชุมชน ต.นาถ่อน อ.ธาตุพนม จ.นครพนม อย่างเป็นกอบเป็นกำ

ทั้งนี้ ต้นตำรับอาชีพฅนตีเหล็กที่มีชื่อเสียง การันตีคุณภาพมายาวนาน วัตถุดิบสำคัญที่สุดต้องเป็นเหล็กแหนบรถยนต์เท่านั้น ขึ้นรูปผลิตเป็นของมีคมทุกชนิด อาทิ มีดทำครัว มีดโต้ มีดพร้า จอบ เสียม และเครื่องมือการเกษตร ต้องผลิตจากโรงงานตีเหล็กปรีชาเหล็กกล้า กลุ่มวิสาหกิจชุมชน ต.นาถ่อน อ.ธาตุพนม ถือเป็นวิสาหกิจชุมชนที่ได้มาตรฐาน ต่อยอดมาจากอาชีพบรรพบุรุษ ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น โดยนำเหล็กแหนบ ชิ้นส่วนสำคัญที่ใช้ยืดหยุ่นช่วงล่างของรถยนต์จำพวกบรรทุกหนัก ในสภาพเศษเหล็กที่ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้แล้ว มาแปรรูปตีเป็นมีด และของใช้ในครัวเรือน และยังคงใช้แรงงานคนเป็นหลัก กระทั่งได้ของมีคมที่มีคุณภาพ ภายหลังพัฒนาจากงานในครอบครัว กลายเป็นโรงงานตีเหล็ก รวมตัวตั้งเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ส่งสินค้าออกสู่ท้องตลาด สร้างงาน สร้างรายได้ ให้ชุมชนครบวงจร

นอกจากนี้ สิ่งที่โรงงานตีเหล็กปรีชาเหล็กกล้า วิสาหกิจชุมชนตำบลนาถ่อน รักษาคุณภาพคงไว้ซึ่งมาตรฐาน คือ เหล็กที่นำมาแปรรูป ต้องมาจากเหล็กแหนบรถยนต์เท่านั้น เพราะทำมาจากเหล็กกล้า เมื่อนำมาแปรรูปจะมีคุณสมบัติพิเศษ คมนาน ใช้งานได้หลายปี จึงเป็นที่ต้องการของตลาด

ล่าสุดมีการยกระดับพัฒนาฝีมือ แปรรูปเป็นมีดสวยงาม เอาใจสายลุยป่า สายแอดเวนเจอร์ และกลุ่มชอบสะสมมีดสวยงาม เพิ่มมูลค่าอีกหลายเท่าตัว สร้างรายได้เงินหมุนเวียนสะพัด ปีละหลายล้านบาท เพราะมีออเดอร์สั่งมาจากทั่วประเทศ

ด้าน นายธนากรณ์ ปราณีนิตย์ หรือ สจ.เจ ทายาทปรีชาเหล็กกล้า วิสาหกิจชุมชน ต.นาถ่อน เปิดเผยว่า อาชีพฅนตีเหล็ก ถือเป็นอาชีพที่สืบทอดจากบรรพบุรุษจากรุ่นสู่รุ่น ยาวนานกว่า 100 ปี โดยตนสืบทอดมาจากคุณพ่อ เป็นที่รู้จักในชื่อ ปรีชาเหล็กกล้า วิสาหกิจชุมชนตำบลนาถ่อน เริ่มจากรับซื้อแหนบรถยนต์ ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ ในราคาเศษกิโลกรัมละ 15-20 บาท การใช้เหล็กแหนบ มีการพิสูจน์แล้วมีคุณสมบัติเรื่องความคม เพราะเป็นเหล็กที่ผ่านการชุบหลอมเป็นเหล็กกล้า หลังการแปรรูปออกมาเป็นของมีคม จะคงทนใช้งานได้นานหลายปี คมไม่เสียเมื่อฟันของแข็ง และยังสามารถลับคมใช้งานได้ต่อเนื่อง จึงเป็นจุดเด่นของมีดพร้า ของมีคมจากโรงงานตีเหล็ก ปรีชาเหล็กกล้า เป็นที่ยอมรับของตลาดทั่วประเทศ ถือเป็นตำนานคนตีเหล็ก ที่มีชื่อเสียงมายาวนาน

สำหรับโรงงานตีเหล็ก ปรีชาเหล็กกล้าถือเป็นวิสาหกิจชุมชน ที่สร้างงาน สร้างรายได้ให้ชุมชน ปีละหลายล้านบาท ทำให้คนในชุมชนมีงานทำตลอดปี กรรมวิธีการผลิตเริ่มจากนำเหล็กแหนบ ตัดเป็นขนาดตามแบบที่ต้องการ นำไปเผาไฟด้วยความร้อนสูง จนเหล็กแดงฉานจึงดึงไปตีขึ้นรูปทรงให้เป็นมีดพร้า จอบ เสียม ของใช้ในการเกษตร หลากหลายรูปแบบ จนกระทั่งสู่กระบวนการขึ้นรูปให้มีคม และหลอมด้วยความร้อนอีกครั้ง ให้เกิดความคงทน จากภูมิปัญญาชาวบ้านที่สืบทอดมายาวนาน ถึงแม้ปัจจุบันจะใช้เครื่องทุ่นแรงในการตีมีดพร้า แต่ยังต้องใช้ความชำนาญจากคนในการควบคุม รวมถึงการลับคมต้องใช้แรงงานคน ทุกขั้นตอนไม่ได้ใช้แบบพิมพ์สำเร็จรูป ถือเป็นงานแฮนด์เมดที่ต้องใช้ความชำนาญ จากเศษเหล็กกลายเป็นสินค้าในครัวเรือนและการเกษตร ราคาเริ่มจากหลัก 100-1,000 บาท แล้วแต่ความยากง่ายของรูปแบบ

 ปัจจุบันเป็นที่ยอมรับของตลาด มีพ่อค้า แม่ค้า สั่งซื้อไปขายทั่วประเทศ สำคัญที่สุดเหล็กที่นำมาแปรรูปจะต้องเป็นเหล็กแหนบรถยนต์เท่านั้น นอกจากนี้มีการยกระดับเพิ่มมูลค่า มีดพร้าแปรรูปออกมาเน้นความสวยงาม ตามออเดอร์ สายลุยป่า สายแอดเวนเจอร์ รวมถึงนำไปโชว์เพื่อความสวยงาม สนนราคาเล่มละ 1,000-2,000 บาท ถือเป็นการยกระดับเพิ่มมูลค่าสินค้า อย่างไรก็ตาม โรงงานตีเหล็กปรีชาเหล็กกล้า การันตีความคมและคงทน ใช้งานคุ้มค่า สามารถสอบถาม สั่งซื้อได้ที่ โทร. 061-0528170 พร้อมจัดส่งทั่วประเทศ

มีประวัติที่ได้บันทึกไว้อย่างชัดเจน ว่า อาชีพตีเหล็กของชาวบ้าน ต.นาถ่อน สืบทอดกันมานานไม่น้อยกว่า 100 ปี เริ่มต้นจากปี พ.ศ.2466 สมัยขุนพินิจอักษร แสนเสร็จ เป็นกำนันตำบลนาถ่อน ได้ไปติดต่อบาทหลวงซาเวียร์ ชาวฝรั่งเศสสอนศาสนาเมืองเชียงขวาง แขวงคำม่วน สปป.ลาว มาเป็นผู้ฝึกสอนการตีเหล็กให้กับชาวบ้าน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทำดาบ มีดพร้า และจอบเสียม สำหรับใช้ในการเกษตรกรรม โดยสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน