ตามที่ นายดิฐพงศ์ (พี่ยศ) ท้าวคว้าง อายุ 45 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน บ้านปงแท่น หมู่ที่ 1 ตำบลจางเหนือ อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง และเป็นเจ้าของช้างพลายบุญชู อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นช้างงาเดียว ได้ประกาศขายพลายบุญชูราคา 1 ล้านบาทลงในออนไลน์  จนกลายเป็นประเด็นที่คนให้ความสนใจ กระทั่งต่อมามีผู้ใจบุญติดต่อขอรับซื้อพลายบุญชู เพื่อนำมาอุปการะเลี้ยงดูต่อจากพี่ยศ ซึ่งผู้ใจบุญท่านนี้คือ พระญาณวิกรม หรือ พระอาจารย์อุเทน สิริสาโร เจ้าอาวาสวัดท่าไม้ จ.สมุทรสาคร และท่านยังได้เดินทางจากจังหวัดสมุทรสาคร ไปรับพลายบุญชู กลับมาที่วัดฯ ด้วยตนเอง โดยมีนายดิฐพงศ์ หรือพี่ยศ ตามมาส่งและอยู่เป็นเพื่อนพลายบุญชูด้วยในระยะหนึ่ง จนกว่าพลายบุญชู จะคุ้นถิ่น จึงจะเดินทางกลับไปที่บ้านปงแท่น จ.ลำปาง ซึ่งคณะของพระอาจารย์อุเทน และพลายบุญชู นั้นก็เดินทางกลับมาถึงวัดท่าไม้ จ.สมุทรสาคร เป็นที่เรียบร้อยและปลอดภัยโดยสวัสดิภาพ ตั้งแต่เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. ของวันที่ 06 กันยายนที่ผ่านมา
    
ต่อมาเมื่อเวลา 09.00 น.ของวันที่ 07 กันยายน 2566 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดท่าไม้ เลขที่ 51 หมู่ที่ 11  ต.ท่าไม้ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ซึ่งเบื้องต้นทางท่านเจ้าอาวาสวัดท่าไม้ ได้นำพลายบุญชูมาพักผ่อนอารมณ์ที่บริเวณลานธรรมเขาวงกต เพื่อให้พลายบุญชู ได้อยู่กับต้นไม้ใบหญ้า มีความร่มรื่นสภาพคล้ายคลึงกับป่าที่พลายบุญชูเคยอยู่ โดยมีพี่ยศ เจ้าของพลายบุญชู นั่งดูแลอยู่ไม่ห่างมากนัก ซึ่งโดยภาพรวมของพลายบุญชูนั้น ก็ไม่มีอาการตื่นตกใจต่อที่อยู่ใหม่แต่อย่างใดทั้งสิ้น ไม่ตื่นคน ไม่หงุดหงิด สามารถกินได้ นอนหลับตามปกติ เดินเล่นไปมา อารมณ์ดี พอมีคนมาให้อาหารก็กินอย่างเอร็ดอร่อย  สร้างความสบายใจให้กับเกิดต่อผู้ที่รับมาอุปการะเลี้ยงดู ผู้ที่เป็นเจ้าของเดิม ตลอดจนผู้ที่มาเยี่ยมชมพลายบุญชูที่วัดท่าไม้ 
     
นายดิฐพงศ์ (พี่ยศ) ท้าวคว้าง เจ้าของพลายบุญชู บอกว่า หลังจากที่เจ้าอาวาสวัดท่าไม้ เป็นผู้ขอรับซื้อเพื่ออุปการะเลี้ยงดูพลายบุญชูต่อจากตนนั้น ทางตนก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่พลายบุญชูได้เจ้าของใหม่ที่มีจิตใจเมตตาต่อสัตว์อย่างแท้จริง และจะได้กินอิ่มกินเต็มมีที่อยู่ที่ดีมากกว่าตอนที่อยู่กับตน ประกอบกับเมื่อมาถึงวัดท่าไม้แล้ว ได้เห็นทั้งสภาพของวัด รวมถึงความเอาใจใส่ของเจ้าอาวาส และผู้ที่รับหน้าที่ดูแลหาอาหารให้พลายบุญชูนั้น ก็ยิ่งเชื่อมั่นและมั่นใจเป็นอย่างมากว่า พลายบุญชูจะต้องมีความสุขอย่างแน่นอน ทั้งนี้สำหรับผู้ที่ต้องการจะมาเยี่ยมชมพลายบุญชู ก็สามารถมาหาได้ที่วัดท่าไม้ ส่วนอาหารที่พลายบุญชูชอบ ก็เป็นผลไม้หลากหลายชนิดทั้ง กล้วย อ้อย สับปะรด และ แตงโม แต่สิ่งที่ทำให้พลายบุญชู มักจะเกิดความตกใจได้ง่ายก็คือ เสียงรถยนต์ดังๆ นั่นเอง
     
ทางด้านพระวัดท่าไม้ บอกว่า เหตุที่เจ้าอาวาสวัดรับพลายบุญชูมาอุปการะนั้น มาจากความเมตตาและความสงสารเป็นสำคัญ แต่อีกส่วนหนึ่งท่านยังเห็นว่าพลายบุญชูเป็นช้างที่มีลักษณะบางประการที่ดีและเด่นตรงตามตำราอีกด้วย ขณะที่ขั้นตอนของการดำเนินการเพื่อพาพลายบุญชู มาที่วัดท่าไม้แห่งนี้ ก็ได้ทำทุกอย่างตามกฎหมายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งทำเรื่องแจ้งทางอำเภอ ปศุสัตว์ เพื่อเปลี่ยนชื่อผู้ครอบครองเจ้าของช้าง และมีการตรวจสุขภาพของช้างก่อนออกเดินทาง พอมาถึงที่วัดท่าไม้ ก็ได้แจ้งให้ปศุสัตว์จังหวัดรับทราบแล้ว คงเหลือให้ทางเจ้าหน้าที่ฯ เข้ามาตรวจสุขภาพช้างอีกครั้งหนึ่ง ส่วนบริเวณที่อยู่ใหม่ของพลายบุญชูนั้น ท่านเจ้าอาวาสได้สั่งให้มีการสร้างที่อยู่ในพื้นที่เดียวกันกับตรงที่เลี้ยง วัว ควาย และกระทิง แต่ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างขั้นตอนการสร้างที่อยู่ใหม่ คาดว่าอีกไม่กี่วันก็จะแล้วเสร็จ พลายบุญชูก็จะได้บ้านหลังใหม่เป็นที่อยู่ของตัวเองภายในวัดท่าไม้