ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า จากกรณีที่นายอุดม สุวรรณจันทร์ อายุ 40 ปี ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ที่ 3 ต.ทุ่งนารี อ.ป่าบอน จ.พัทลุง ได้พบเห็นจระเข้ ขนาดความยาวประมาณ 1 เมตรอยู่ในคลองหลงในหมู่บ้านดังกล่าวในขณะออกหาปลา โดยเหตุเกิดวันที่ 5 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา ต่อมาในตอนสายวันที่ 6 กันยายน 2566 นายภูษิต จันทร์เพชร ประมงจังหวัดพัทลุง ประมงอำเภอป่าบอน  และเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและปราบปรามประมงน้ำจืดพัทลุง ร่วมกันค้นหาจระเข้ตัวดังกล่าวแต่ไม่พบตัว จนนายสุชีพ รุ่นกลิ่น นายก อบต.ทุ่งนารี อ.ป่าบอน ได้นำรถแม็กโฮเข้ามาตักต้นผักตบชวา วัชพืช ท่อนไม้ใหญ่ในคลองดังกล่าว ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 14.30 น.รถแม็กโฮที่เข้ามาตักวัชพืชก็สามารถตักจระเข้ได้แล้ว โดยจระเข้ดังกล่าวมีอายุประมาณ 3-4 ปี แต่จระเข้ตัวดังกล่าวมีแผลที่ลำตัวเนื่องจากได้ถูกฟันของโพงแมคโฮกระแทก จนเสียชีวิตในเวลาต่อมา ตามข่าวที่เสนอมาแล้วนั้น
 

ล่าสุดเวลาประมาณ 15.20 น. วันที่ 11 กันยายน 66  ที่บริเวณข้างบ้านพักประมงอำเภอเมืองพัทลุง ตรงข้ามกับสำนักงานสหกรณ์จังหวัดพัทลุง นายภูษิต จันทร์เพชร ประมงจังหวัดพัทลุง และ จนท.สำนักงานประมงจังหวัดพัทลุง ได้นำซากจระเข้ตัวดังกล่าวที่แช่แข็งไว้ ณ สำนักงานประมงจังหวัดพัทลุง ต.ลำปำ อ.เมืองพัทลุง ไปฝังกลบในพื้นที่ดังกล่าว โดยได้รับการสนับสนุนรถแมคโฮจากเทศบาลเมืองพัทลุง โดยมีผู้สื่อข่าวเข้าร่วมในการฝังกลบด้วย

ทางด้าน นายภูษิต จันทร์เพชร ประมงจังหวัดพัทลุง เผยว่า การนำ จระเข้ตัวดังกล่าวมาฝังในพื้นที่ดินว่างข้างบ้านพักประมงอำเภอในครั้งนี้ เพื่อเป็นการยืนยันว่าจระเข้ตัวดังกล่าวมีการนำซากมาฝังกลบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้นำซากจระเข้ตัวดังกล่าวมาชำแหละเนื้อเพื่อนำไปแจกจ่ายแก่ จนท.ประมงจังหวัดพัทลุง และแจกจ่ายแก่ชาวบ้าน เพื่อนำไปปรุงเป็นอาหารตามที่ชาวบ้านได้กล่าวขานแต่อย่างใด ล่าสุดพบว่าจระเข้ดังกล่าวมีความยาว 190 ซ.ม. มีน้ำหนัก 27.5 กิโลกรัม พร้อมกันนั้นก็ได้เน้นย้ำให้ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ที่ 3 ต.ทุ่งนารี อ.ป่าบอน จ.พัทลุง และพื้นที่ใกล้เคียง ห้ามลงจับสัตว์น้ำในคลองดังกล่าวเพราะเกรงว่าน่าจะมีจระเข้ยังอาศัยอยู่อีก 1 ตัว ตามที่ชาวบ้านเขาเล่าลือกัน ในขณะเดียวกันทางสำนักงานฯและผู้นำท้องถิ่น ก็ได้ร่วมกันเฝ้าระวังจระเข้ในคลองดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง