เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสั่งการของ พ.ต.อ.ยุทธวัฒน์ โชคชัย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเลย ให้ พ.ต.อ.ตรีกฤช จงวิไล ผกก.สภ.ปากชม พร้อมด้วย พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ ปราบคนชั่ว สว.สส.สภ.ปากชม รวมทั้งทหาร ตชด. 246 เชียงคาน และฝ่ายปกครองในพื้นที่ สนธิกำลังตรวจเข้มตามริมน้ำโขง บริเวณบ้านโคกไผ่ จนถึงบ้านห้วยพิชัย หลังจากสืบทราบว่า ในพื้นที่อำเภอปากชม หมู่บ้านติดริมน้ำโขง จะมีเครือข่ายยาเสพติดใช้เป็นที่ลำเลียงยาเสพติด นำมาจาก สปป.ลาว จึงให้เจ้าหน้าที่นำกำลังตรวจสอบตามริมน้ำโขง และสามารถจับยาบ้าจำนวน 4 กระสอบ รวมประมาณ 1,400,000 เม็ด พร้อมผู้ต้องหาอีก 5 ราย

พ.ต.อ.ยุทธวัฒน์ โชคชัย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเลย เผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่า จะมีเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ นำยาเสพติดมาจากประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามาในราชอาณาจักร ในพื้นที่อำเภอปากชม จ.เลย เป็นพื้นที่จะใช้ในการลำเลียงยาเสพติด จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงระหว่างชายแดนเฝ้าระวัง โดยเฉพาะบริเวณริมแม่น้ำโขง ต่อมา เจ้าหน้าที่พบว่า มีรถแท็กซี่ ทฬ-406 กทม. ขับในช่วงกลางคืน มุ่งหน้าบ้านห้วยนา ต.เชียงกลม อ.ปากชม ได้ขับรถด้วยความเร็วสูง เจ้าหน้าที่เชื่อว่าอาจจะมีสิ่งของอยู่ภายในรถเป็นสิ่งผิดกฎหมาย จึงได้ติดตามและทำการสกัดกั้นจนกระทั่งเจ้าหน้าที่สกัดกั้นไว้ได้ พร้อมกับตรวจค้นภายในรถพบของกลางเป็นยาบ้าจำนวน 4 กระสอบ รวมประมาณ 1,400,000 เม็ด และพบว่าขบวนการยังมีรถแท็กซี่อีกคันทะเบียน ทฬ.3843 กทม.ใช้เป็นการเป็นรถนำทาง เจ้าหน้าที่ได้ไล่ล่าและจับกุมได้ โดยได้ผู้ต้องหาทั้งหมด 5 ราย

โดยผู้ต้องหาทั้ง 5 รายได้สารภาพว่า ได้ขนยาเสพติดเพื่อไปส่งเครือข่ายในจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยได้ทำมาแล้ว 3 ครั้ง และครั้งที่ 4 ถูกจับกุม และครั้งที่ 1-3 ก็จะเช่าแท็กซี่จากกรุงเทพฯมาขนยาเสพติดตามแนวชายแดน โดยจะได้ค่าจ้างครั้งละ 100,000 บาท และจากการจับกุมทางเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลและกำลังออกหมายจับตัวการของเครือข่ายของขบวนการนี้ต่อไป