เมื่อเวลา 05.40 น.วันที่ 15 ต.ค.ผู้สื่อข่าวรายงนว่า ที่สนามบินอู่ตะเภา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง พล.ร.อ.สิทธิชัย ต่างใจ ผอ.ท่าอากาศยานอู่ตะเภา พล.ร.ต.เดือน พร้อมมณี ผู้บัญชาการกองการบินทหารเรือ นายรุธ ธรรมมงคล อธิบดีกรมการกงสุล นายสิบหมื่น โพธิสินธุ์ รองอธิบดีกรมการจัดหางาน นายอนันต์ นาคนิยม รอง ผวจ.ระยอง พล.ต.ต.พงษ์พันธ์ วงษ์มณีเทศ ผบก.ภ.ระยอง พร้อม หน.ส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับแรงงานไทยที่หนีการสู้รบจากอิสราเอล โดยเดินทางมาจากโดยสายการบิน Fly Dubai เที่ยวบิน FZ1550 ออกเดินทางจากกรุงเทลอาวีฟ อิสราเอลในวันที่ 14 ต.ค.66 เวลา 11.00 น.เปลี่ยนเครื่องที่นครดูไบ เพื่อโดยสารต่อโดยเที่ยวบิน FZ1837 ออกจากนครดูไบ เวลา 20.00 น.และถึงสนามบินอู่ตะเภาอย่างปลอดภัย เมื่อเวลา 05.40 น.ของวันนี้ จำนวน 90 คน เป็นชาย 88 คน เป็นหญิง 2 คน โดยทันทีที่เดินทางมาถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ตรวจคัดกรองโรค และตรวจคัดกรองผู้บาดเจ็บ ก่อนที่แรงงานไทยทั้ง 90 คน ซึ่งมี 2 ราย ได้รับบาดเจ็บจากการถูกสะเก็ดระเบิดที่ขานั่งรถเข็น 1 ราย และแผลที่ขาอักเสบ 1 ราย เจ้าหน้าที่ได้รักษาพยาบาลเบื้องต้น โดยแรงงานทั้งหมดได้ทยอยเดินออกมาพร้อมสัมภาระกระเป๋าผ่านประตูผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ ประตู 1 โดยมีเจ้าหน้าที่สนามบินได้เตรียมข้าวกล่องเมนู กะเพราไก่ น่องไก่ทอด ขนมชั้น น้ำส้ม 1 ขวด และน้ำดื่ม 1 ขวด ซึ่งเป็นอาหารมื้อแรกบนแผ่นดินไทยไว้ให้ พร้อมมีรถบัส 3 คัน มาจอดรอรับ เพื่อนำแรงงานทั้งหมดเดินทางไปยังโรงแรม เอสซีปาร์ค เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ เพื่อรอให้ญาติพี่น้องมารับกลับภูมิลำเนาไป แต่ก็มีบางรายมีญาติมารับกลับทันทีจากสนามบินอู่ตะเภา 

นายกฤษณะ แซ่ลี แรงงานไทยในอิสราเอล ชาว จ.เชียงราย กล่าวว่า ตนทำงานสวนโดยช่วงสู้รบกันตนได้หลบซ่อนตัว ก่อนที่เจ้าหน้าที่ทหารอิสราเอลจะให้การช่วยเหลือมายังศูนย์พักพิง แต่ยังมีคนไทยอยู่อีกมากตรงที่ตนอยู่ ซึ่งก่อนขึ้นเครื่องมาไทย ก็ยังมีการสู้รบกันอยู่ ที้งนี้ตนจะไม่กลับไปอีกแล้ว

ด้านนายวีรยุทธ ปัญญาประทุม ชาว จ.ชลบุรี แรงงานไทยในอิสราเอล กล่าวว่า ช่วงสู้รบกัน ตนพร้อมเพื่อนแรงงานไทยหลบลูกระเบิดในที่ซ่อน ก่อนที่นายจ้างจะให้ออกไปเก็บลูกซูกินี่ โดยนายจ้างมาบอก 2 รอบเช้าไม่มีใครไป รอบบ่ายเหมือนเหตุการณ์จะสงบ จึงออกไปช่วยกันเก็บหลายคน เพื่อจะได้เสร็จเร็วๆ ทันทีที่เพื่อนคนงานออกไป มีสัญญาณไซเรนดัง ก่อนที่เสียงระเบิดดังตูมตามมา ถูกเพื่อนร่วมงานร่างฉีกตายคาที่ 1 ราย บาดเจ็บ 1 ราย ต่อหน้าต่อตา จึงวิ่งหลบหมอบซ่อนตัวคนละทิศละทาง กระทั่งมีทหารมาช่วย ซึ่งตนยืนยันจะไม่กลับไปอีกแล้ว 

ด้าน พล.ร.อ.สิทธิชัย กล่าวว่า พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้สั่งการให้ท่าอากาศยานอู่ตะเภา อำนวยความสะดวกให้พี่น้องคนไทยเดินทางกลับจากประเทศอิสราเอล ให้ได้รัยความสะดวก สบาย อบอุ่นและปลอดภัยมากที่สุดเท่าที่กองทัพเรือจะให้การสนับสนุนได้ ตลอดจนการประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้พี่น้องคนไทยกลับสู่อ้อมกอดของครอบครัวได้เร็วที่สุด ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ระดมสรรพกำลัง ยุทโธปกรณ์ เครื่องมือต่างๆ ที่มีอยู่ เร่งให้การช่วยเหลือนำพี่น้องคนไทยที่สมัครใจเดินทางกลับมาจากประเทศอิสราเอลให้ได้โดยเร็วที่สุด ในส่วนของกองทัพเรือนั้น จะมีสายการบิน Fly Dubai ที่บินตรงมาจากเมืองดูไบ มายังสนามบินอู่ตะเภาทุกวัน วันละ 1 เที่ยวบิน ซึ่งเที่ยวบินที่นำพี่น้องคนไทยกลับมาครั้งนี้ เป็นเที่ยวบินพิเศษ ตามที่รัฐบาลสั่งการ ซึ่งท่าอากาศยานอู่ตะเภา ได้เตรียมอาหารกล่องและน้ำดื่มไว้ให้พี่น้องคนแรงงานไทย ได้รับประทานเป็นอาหารเช้ามื้อแรกบนแผ่นดินไทยด้วย

ด้านนายรุธ ธรรมมงคล อธิบดีกรมการกงสุล กล่าวว่า ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ พยายามที่จะอพยพพี่น้องคนไทยที่กรุงเทลอาวีฟ ออกมาได้ให้เร็วที่สุด โดยความร่วมมือของเครื่องบินกองทัพอากาศ สถานเอกอัครราชทูตกรุงเทลอาวีฟ สายการบินอื่นๆ ที่จะพยายามพาแรงงานไทยกลับมาได้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งเที่ยวบินนี้เป็นเที่ยวเช้าเหมาลำมาโดยเฉพาะสำหรับ 90 คนที่มาลงสนามบินอู่ตะเภาดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันมีแรงงานไทย 7,000 คน ที่ขอเดินทางกลับ โดยพักรอที่ศูนย์พักคอยที่กรุงเทลอาวีฟ โดยได้มีการประชาสัมพันธ์ให้คนไทยในกรุงเทลอาวีฟ เดินทางมาพักรอที่ศูนย์พักคอย เพื่อรอเดินทางกลับไทย โดยมีสถานเอกอัครราชทูตกรุงเทลอาวีฟ จัดอาหาร และออกหนังสือเดินทางชั่วคราวสำหรับคนที่หนังสือเดินทางหาย ออกให้ ณ ตรงนั้น เพื่อใช้เดินทางกลับไทย ซึ่งแผนการบินกำลังอยู่ในช่วงประเมินตารางบินของกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งอาจจะเป็นวันเว้นวัน