เสี่ยบูรณ์ เจ้าของเต็นท์รถมือสองชื่อดัง อ.สตึก เคยถูกผู้เสียหายแจ้งความเอาผิดฐานฉ้อโกงรวมแล้วกว่า 200 คดี แต่คดีไม่คืบหน้า ถูกไม้แบบก่อสร้างหล่นจากรถกระบะตีท้ายทอยอย่างจังขณะกำลังเดินเข้าร้านอาหาร อาการล่าสุดสาหัส คู่กรณีทางคดีทราบข่าว ชี้สงสารและเห็นใจภรรยาทั้งสอง “ทำไมมันเหมาะเจาะเช่นนี้” ไม้หล่นที่ไหนก็ได้แต่ต้องมาหล่นใส่หัวคนดัง ไม่กล้าใช้คำว่าบาปกรรม

วันที่ 23 พ.ย.66 ร.ต.อ.จิรายุ ตางจงราช รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมือง เมืองบุรีรัมย์ รับแจ้งจากหน่วยกู้ชีพ อบต.บ้านยาง อ.เมือง ว่ามีไม้หล่นจากรถกระเด็นไปโดนใส่คนเดินเท้ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ จึงรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นถนนสายบุรีรัมย์-สตึก บริเวณหน้าร้านไก่หมุนอาม่า ต.บ้านยาง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ พบชายทราบชื่อต่อมา นายสมบูรณ์ (สงวนนามสกุล)  อายุ 49 ปี บ้านอยู่ในพื้นที่ ต.ท่าม่วง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เจ้าของเต็นท์รถชื่อดัง “สมบูรณ์กลการ” หรือนิ่มนวลกลการ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์  นอนร้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยกู้ชีพ โดยมีหญิงสาว 2 คนคาดว่าเป็นภรรยาคอยประคองอยู่ตลอดเวลา

ตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบบาดแผล แต่นายสมบูรณ์ มีอาการปวดศีรษะโดยเฉพาะบริเวณท้ายทอย อย่างรุนแรงหน่วยกู้ชีพเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ บริเวณข้างทางยังพบไม้แบบหล่นอยู่ข้างทาง 1 ท่อน และพบรถกระบะบรรทุกไม้จอดรอเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ

สอบถาม น.ส.กมลพร (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี หนึ่งในภรรยาของเสี่ยสมบูรณ์ เล่าว่า ได้ขับรถออกจากตัวเมืองบุรีรัมย์ จะไปเต็นท์รถที่ อ.สตึก พอมาถึงที่เกิดเหตุได้จอดแวะข้างทางเพื่อรับประทานอาหาร

ระหว่างที่เดินลงรถกำลังเดินเข้าร้านอาหาร จู่ๆได้มีท่อนไม้ปลิวมาตีบริเวณท้ายทอยกึ่งศีรษะของสามีอย่างจัง ทำให้สามีล้มลงแล้วร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด
 

นายสิทธิกร ปาริชาติกานนท์ อายุ 30 ปี เจ้าของร้านไก่หมุนอาม่า คนเห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตอนนั้นกำลังคอยต้อนรับลูกค้า ได้ยินเสียงดังเหมือนคนล้มลง จึงหันไปดูพบว่ามีคนโดนไม้ตีหัวแล้วล้มลง ส่วนสาเหตุตนไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น แต่น่าสงสารเพราะผู้บาดเจ็บไม่รู้ว่าจะมีรถขนไม้มาทำหล่นใส่

ขณะที่นายยิ่งยศ นารี อายุ 42 ปี คนขับกระบะ เล่าว่า ตนขนไม้มาจากหน้างานจะเอาไปไว้ที่ ต.บ้านยาง ก่อนมาผูกไม้อย่างดี พอใกล้จะถึงบ้านไม่รู้ว่าไม้หล่นไปได้อย่างไร พอรู้จึงจอดรถแล้วเข้าไปให้การช่วยเหลือ

ด้านนายเดช คงรัมย์ อายุ 69 ปี ชาวอำเภอบ้านด่าน บอกว่าหลังทราบข่าวว่าเสี่ยสมบูรณ์ เกิดอุบัติเหตุและมาทราบรายละเอียดว่าถูกไม้หล่นตีใส่ท้ายทอย ตนในฐานะที่เคยถูกนายสมบูรณ์หลอกเอารถ 6 ล้อไป รู้สึกเฉยๆ ส่วนหนึ่งก็เห็นใจและเสียใจกับภรรยาทั้งสองที่สามีได้รับบาดเจ็บ และอีกส่วนหนึ่งไม่กล้าพูดคำว่า”บาปกรรม”ที่เคยหลอกเอารถคนไปหลายร้อยคัน

สำหรับนายสมบูรณ์ (สงวนนามสกุล) เป็นเจ้าของเต็นท์รถชื่อดัง มีรถจอดมากกว่า 200 คัน และเริ่มมีผู้เสียหายไปแจ้งความเอาผิดฐานฉ้อโกงตั้งแต่ปี 2557 เรื่อยมารวมแล้วกว่า 200 คดี ไม่นับเคสที่ไม่มีหลักฐานอีกกว่า 100 คน

ปี 2562 บิ๊กโจ๊ก เคยมาแถลงการณ์จับกุมใหญ่ยึดรถได้นับร้อยคัน แต่คดีกลับไม่คืบหน้า เนื่องจากอัยการตีสำนวนกลับหลายครั้ง จนชาวบ้านร้องเรียนไปหลายหน่วยงานรวมถึงสำนักงานอัยการสูงสุด

และหลายคดีที่นายสมบูรณ์ ต้องถูกออกหมายจับ และถูกจับกุมแต่ประตัวออกมาสู้คดี ระหว่างนั้นยังก่อเหตุหลอกลวงฉ้อโกงชาวบ้านมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีคดีใหม่เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ส่วนคดีเก่ายังอยู่ระหว่างการส่งฟ้องศาล การเกิดอุบัติเหตุกับนายสมบูรณ์ในครั้งนี้ กลุ่มผู้เสียหายที่ตั้งกลุ่มไลน์ขึ้นมา มีสมาชิกกว่า 100 คนเอาภาพนายสมบูรณ์ช่วงประสบเหตุไปลงในกลุ่ม ปรากฎว่าสมาชิกทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันคือ “เวรกรรม”