วันจันทร์ ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2568 20:29 น.

ภูมิภาค

ลมหนาวมา อบต.หนองโสนจัดแข่งขันวิ่งว่าว และเล่นว่าวดุ้ยดุยชิงแชมป์ สอนนักเรียนทำว่าวสืบสานวัฒนธรรม

วันเสาร์ ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2566, 12.33 น.

เวลา 09.00 น.วันที่ 23 ธันวาคม 2566   ที่ท้องทุ่งพรงลำบิด ต.หนองโสน อ.เมือง จ.ตราด นายชัยพัฒน์ มนต์ประสิทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองโสน เปิดงานสืบสานประเพณีวัฒนธรรมพื้นบ้าน และส่งเสริมอนุรักษ์การละเล่นว่าวไทย ที่อบต.หนองโสน, อบจ.ตราด และสภาวัฒนธรรมตำบลหนองโสนจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 23-25 ธันวาคม 2566 

นายวัฒนา อานามวงษ์ ประธานสภาวัฒนธรรม ตำบลหนองโสน กล่าวว่า วัตถุการจัดกิจกรรมละเล่นวิ่งว่าวในตำบลหนองโสนจัดขึ้นมาว่าว่าวที่เข้าร่วมแข่งขันจะเป็นว่าววดุ๊ยดุ่ย หรือที่คนตราดเรียกว่าว่าวอูด เป็นว่าวที่พอขึ้นสู่ท้องฟ้าแล้ว จะมีเสียงดังฟังไพเราะ ปัจจุบันเริ่มหาดูหาชมได้ยากแล้ว ขณะที่ตำบลหนองโสนยังอนุรักษ์ไว้ เพื่อส่งเสริมและอนุรักษ์งานประเพณีพื้นบ้าน ภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านศิลปะ การประดิษฐ์ วัฒนธรรมพื้นบ้าน การละเล่นรื่นเริง หลังหมดฤดูกาลเก็บเกี่ยวข้าวและส่งเสริมการท่องเที่ยว ให้กับประชาชนในพื้นที่ ก่อให้เกิดความภาคภูมิใจ เสริมสร้างความรักความสามัคคีของประชาชนในท้องถิ่น รวมทั้งสืบสานเด็กเยาวชน ให้เรียนรู้สืบทอดสืบสาน การทำว่าวไทย และการละเล่นว่าวให้คงอยู่คู่สังคมไทย โดยเฉพาะสังคมชนบทอย่างไม่รู้ลืมเลือน ซึ่งหากผู้เล่นสามารถพัฒนาการเล่นและการทำว่าวอูดจนมีความเชี่ยวชาญแล้วจะสามารถยึดเป็นอาชีพได้ ซึ่งถือว่าเป็นภูมิปัญญาของไทยที่สร้างชื่อเสียงให้กับชุมชนและประเทศได้

ขณะนายชัยพัฒน์ กล่าวว่า อบต.หนองโสนเล็งเห็นความสำคัญของการเล่นว่าวไทย โดยเฉพาะว่าวดุ้ยดุย ที่เป็นภูมิปัญญาในการคิดค้นของชาวบ้านที่จะทำให้เกิดเสียง ซึ่งมีวิธีทำที่ต้องใช้ความรู้ และความชำนาญโดยเฉพาะ จึงจะเกิดเสียงดังขึ้นระหว่างขึ้น อบต.หนองโสนจึงให้งบประมาณสภาวัฒนธรรมตำบลหนองโสนจัดกิจกรรมครั้งนี้ ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ซึ่งเราต้อบการจะยกระดับและพัฒนาให้เป็นงานที่ใหญ่ขึ้นในระดับจังหวัด นอกจากนี้ยังได้นำความรู้ในการทำว่าวไทยถ่ายทอดให้กับเด็กนักเรียนของโรงเรียนวัดไทรทองให้มีความรู้และสามารถทำว่าวได้พร้อมนำมาขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อการสืบสานวัฒนธรรมของไทยและของตำบลหนองโสนที่วันนี้เริ่มมีผู้เล่นว่าวลดลง ทั้งนี้ในการจัดครั้งนี้ยังมีการแข่งขันเล่นว่าว โดยมีทีมเล่นว่าวจาก 3 จังหวัดเข้ามาสมัครแข่งขันและชิงเงินรางวัลถ้วยรางวัลด้วย 

และหลังที่นักเรียนทำว่าวเสร็จแล้วได้นำมาขึ้นซึ่งปรากฏว่า มีทั้งที่ขึ้นได้และขึ้นไม่ได้ ซึ่งครูและชาวบ้านที่รู้ได้อธิบายให้นักเรียนรู้ถึงการทำว่าว และเทคนิคการทำด้วย ซึ่งสร้างความสนุกสนานให้กับนักเรียนทุกคนด้วย ท่ามกลางลมแรงและอากาศที่หนาวเย็นที่มีอุณหภูมิ 22-25 องศา 

หน้าแรก » ภูมิภาค