วันอาทิตย์ ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2568 12:16 น.

ภูมิภาค

ระทึก! ไฟไหม้รถขนฟาง 500 ก้อนช่วยกันดับวุ่น!

วันอาทิตย์ ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2566, 21.41 น.

วิ่งไปไฟไหม้ไป ที่จ.อุดรธานี ระทึกไฟไหม้รถบรรทุกพร้อมพ่วงขนฟาง 500 ก้อน ชาวบ้านตกใจวิ่งออกจากบ้านช่วยกันดับแทบไม่ทันแต่ลมกระโชกแรงลามไฟไหม้ทุ่งนา รถดับเพลิงระดมฉีดดับไฟ ทั้งฟางทั้งรถถูกไฟไหม้วอด คนขับช็อคขับรถบรรทุก 18 ล้อขนฟางจะไปส่งม.ราชภัฏสามพร้าว  คาดสายไฟพาดถนนเกิดประกายไฟ  แต่ไม่กล้าจอดกลัวลามถึงตัวรถ ค่าเสียหาย 2100,000 บาท

 


 

วันนี้ (24 ธ.ค.66) เวลา 18.30 น.ศูนย์วิทยุ 191 จ.อุดรธานี รับแจ้งจากชาวบ้านมีไฟไหม้รถบรรทุก 18 ล้อทั้งตัวแม่และตัวลูกที่ขนฟางก้อนจำนวนมาก ไฟกำลังโหมลุกโชน ประกอบลมแรงไฟได้ลามไปไหม้ทุ่งนาของชาวบ้านเป็นบริเวณกว้าง เหตุเกิดบนถนนบ้านหนองแก-บ้านหนองไผ่คำ ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นเส้นทางลัดไปมหาวิทยาลัยสามพร้าว  ต่อมารถดับเพลิงจากอบต.หนองนาคำและใกล้เคียงรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ ช่วยกันฉีดน้ำสกัดไฟที่กำลังลุกไหม้ฟางก้อนที่อยู่รถบรรทุกตัวลูกโหมกระหน่ำอย่างแรง เจ้าหน้าที่ฯได้ใช้น้ำเร่งดับไฟ แต่เป็นไปด้วยความยากลำบากเพราะมีลมกระโชกแรงและไฟได้โหมกระหน่ำลุกโชนจนน่ากลัว

 


 

ขณะเดียวกันห่างไปประมาณ 1 กม. พบตัวแม่ของรถบรรทุก เป็นรถสิบล้อยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียน 82-0544 อุดรธานี บรรทุกฟางก้อนเช่นกัน ไฟกำลังลุกไหม้อย่างแรง ชาวบ้านที่นอนหลบในบ้านเพราะความหนาวพากันตื่นตกใจต้องถือถังน้ำวิ่งไปตักน้ำข้างทางช่วยกันคนละไม้คนละมือ ช่วยกันดับไฟก่อนจะไหม้ตัวรถบบรรทุกตัวแม่ได้ทันท่วงที
 

นายวีระชัย ทองดี อายุ 48 ปี ชาวอำเภอไชยวาน จ.อุดรธานี บอกว่า ตนและและเพื่อนมาด้วยกัน 2 คนขับรถขนฟางก้อนมาจากอำเภอกุมภวาปี จะเอาไปที่มหาวิทยาลัยราชภัฏ สามพร้าวเพื่อไปส่งสำหรับเลี้ยงสัตว์ พอขับรถมาถึงจุดเกิดเหตุรถได้เกี่ยวกับสายไฟจากนั้นมีประกายไฟตกใส่ก้อนฟางจึงทำให้ไฟลุก สำหรับความเสียหายก้องฟางอัดแท่งคิดเป็นเงิน 10,000 บาท ส่วนลูกพ่วงรถบรรทุกนั้นประมาณ 200,000 บาท

 

 
ด้านนายเลิศ ชวนกระโทก อายุ 68 ปี ผช.ผญบ.ม.6 บ้านหนองแก่ เล่านาทีระทึกว่า  เห็นรถบรรทุก 18 ล้อทั้งตัวแม่และตัวพ่วงขับมา จากนั้นได้เลี้ยวเข้าถนนหมู่บ้านบ้านหนองแก แต่จู่มีไฟลุกโชติช่วง คาดว่าขนฟางก้อนสูงเกินไปทำให้ไปพาดกับสายไฟ แล้วไฟฟ้าช็อตจนเกิดไฟไหม้ฟาง จากนั้นคนขับรถบรรทุกก็ขับรถมาเรื่อยๆ และมาปลดตัวลูกพ่วงทิ้ง ส่วนตัวแม่หัวลากก็วิ่งขับต่อไปเรื่อยๆโดยไฟได้ไหม้ล้อและก้อนฟางไปด้วย โชคดีที่เจ้าหน้าที่มาดับไฟได้ทันหัวลากไม่ถูกไฟไหม้ หากดับไม่ทันคงจะไหม้หมดทั้งรถและฟางก้อนเป็นแน่ ช่วงนี้ลมแรงไฟไหม้ได้ง่าย ก็ระวังกันด้วยขนฟางขนอะไรที่เป็นประกายไฟ อาจจะเกิดไฟไหม้ได้แบบนี้

หน้าแรก » ภูมิภาค