วันที่ 26 ธ.ค.66 เวลา 09.00 น. พ.ต.ต.มานิตย์ บุญแต่ง สารวัตรเวรสอบสวน สภ.พนมสารคาม ได้เดินทางเข้าตรวจสอบเหตุ กรณีมีผู้มาพบศพคนผูกคอตนเองเสียชีวิตบนต้นยูคาลิปตัส บริเวณด้านหลังศาลาพักผู้โดยสารริมทางถนนสาย 304 ฉะเชิงเทรา - กบินทร์บุรี ใกล้กับจุดยูเทิร์นกลับรถโค้งวัดโพธิ์ใหญ่ กม.ที่ 101+200 พื้นที่ ม.4 ต.เมืองเก่า อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา

ที่เกิดเหตุอยู่ห่างเลยจากสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ ด่านฝั่งขาออกจากเขต อ.บางคล้า มุ่งหน้าไปยัง อ.พนมสารคาม มาประมาณ 200 เมตร ภายในป่าหญ้าที่ขึ้นปกคลุมรกทึบสลับกับต้นไม้ยูคาลิปตัสขนาดเล็กจนกลายเป็นป่าละเมาะ ลึกลงไปจากไหล่ทางข้างศาลาประมาณ 30 เมตร พบผู้เสียชีวิตเป็นชายสวมเสื้อผ้ายืดแขนยาวสีน้ำเงินสวมกางเกงขายาวสีดำ ใช้เชือกไนล่อนสีเขียวผู้คอแขวนติดอยู่กับต้นไม้ยูคาลิปตัสขนาดลำต้นประมาณท่อนแขน (7 ซม.) ปลายเท้าสูงจากพื้นดินประมาณ 50 ซม.

ทราบชื่อผู้เสียชีวิตต่อมา คือ นายสุทิน อายุ 37 ปี ต.พนมสารคาม อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งมีอาชีพขับรถบรรทุกไก่เนื้อจากฟาร์มไปส่งยังโรงเชือดไก่ย่านมีนบุรี โดยมีนายเอก (นามสมมุติ) เพื่อนร่วมอาชีพขับรถบรรทุกขนส่งไก่ด้วยกัน เล่าว่า เมื่อวานนี้ได้เดินทางไปรับไก่จากฟาร์มเดียวกันในพื้นที่ จ.สระแก้ว ก่อนนำไปส่งยังโรงเชือดในเขตมีนบุรี กทม. จากนั้นจึงพากันขับรถกลับตามกันมา โดยแยกย้ายกันเมื่อช่วงเวลาประมาณ 03.00 น. ที่ผ่านมา

เนื่องจากตนง่วงนอนมากจนขับต่อไปไม่ไหว จึงได้แวะจอดรถพักหลับนอนที่บริเวณริมไหล่ทางใกล้กับทางแยกเข้าวัดสมานรัตนาราม ในเขต อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ส่วนผู้ตายได้ขับรถต่อไปและคาดว่าจะมาจอดแวะพักรถเพื่อหลับนอนอยู่ตรงบริเวณนี้ เนื่องจากเป็นจุดที่คนขับรถบรรทุกมักจะมาจอดนอนกันที่จุดนี้เป็นประจำ จนกระทั่งตนตื่นขึ้นมาในช่วงสายจึงได้ขับรถต่อมาและมาพบกับทางเจ้าหน้าที่กู้ภัย และตำรวจ พร้อมกับมีรถบรรทุก 6 ล้อคันที่นายสุทินขับจอดอยู่ จึงได้แวะเข้ามาดูจนทราบว่าเขาผูกคอเสียชีวิตดังกล่าว โดยไม่ทราบถึงสาเหตุว่าเกิดจากอะไร เนื่องจากก่อนหน้าที่ขับรถไปส่งไก่ด้วยกัน ก็ยังเห็นพูดคุยกันปกติดี และไม่ได้แสดงถึงความเครียดหรือมีความวิตกกังวลไม่สบายใจอะไรออกมาให้เห็น นายเอก กล่าว

ขณะที่นายเบส บุญถีง อายุ 60 ปี ภูมิเนาเป็นชาว ม.1 ต.หนองโพรง อ.ศรีมหาโพธิ์ จ.ปราจีนบุรี คนขายเปลญวณ ที่ทำเพิงกางเต้นนอนพักริมทางอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ เล่าว่า เมื่อคืนรถบรรทุกคันนี้ได้ขับเข้ามาแวะจอดพัก เมื่อประมาณ 03.00 น. ซึ่งครั้งแรกเข้าใจว่าเขาจะจอดแวะพักรถเพื่อนำสุนัขลงมาขับถ่ายเนื่องจากเขามีสุนัขติดมาในรถด้วย 1 ตัว จนกระทั่งช่วงใกล้รุ่งสางได้เห็นคนออกมาเดินตามหาผู้ตาย ซึ่งทราบว่าเป็นภรรยากับพี่สาวเขาที่เดินกอดคอกันมา ตนจึงถามว่ามาหาอะไรกัน

ทางฝ่ายภรรยาเขาบอกว่าคนหาย เห็นแต่รถจอดอยู่ช่วยดูให้หน่อย ตนจึงได้เดินออกมาดูและลงไปที่ป่าหญ้ารกทึบข้างทาง ตรงบริเวณที่เคยพบศพคนมานอนเสียชีวิตมาก่อนเมื่อกว่า 3 เดือนที่ผ่านมา (1 ก.ย.66) และพบว่ามีร่างของคนแขวนคออยู่บนต้นไม้จริงๆ ก่อนที่จะเดินกลับออกมา โดยครั้งแรกตนไม่กล้าที่จะบอกให้แก่ภรรยาเขาทราบ เพราะเกรงว่าจะเกิดอาการเป็นลมล้มพับลงไป หรือได้รับอันตราย จึงได้โทรศัพท์ไปเรียกให้ทางหน่วยกู้ภัยฯ ในพื้นที่เข้ามาดูก่อน และให้เขามาบอกแจ้งกันเอง

ซึ่งจุดดังกล่าวนี้เคยมีคนเข้ามานอนเสียชีวิตอย่างไม่ทราบสาเหตุมาแล้ว 1 คน เท่าที่ตนเข้ามาตั้งเพิงแขวนเปลขายของอยู่ตรงบริเวณนี้ประมาณเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา จนทำให้ตนไม่กล้าที่จะกลับมานอนเฝ้าของอยู่ในเต็นท์มาเป็นเวลานานหลายเดือนที่ผ่านมา จนความหวาดกลัวกำลังจะเริ่มจางหายไป และเพิ่งจะกลับเข้ามานอนพักในเพิงขายของได้เพียง 5 วันเท่านั้น ก่อนที่จะมีคนมาแขวนคอตายอยู่ใกล้ๆ ซ้ำอีกราย

จะย้ายร้านหนีไปที่อื่นก็ไม่ได้ เพราะลูกค้ารู้จุดและทราบว่าตนขายของอยู่ตรงนี้แล้วจึงไม่อยากไปหาที่เริ่มต้นใหม่ โดยเมื่อครั้งที่แล้วตนก็นอนอยู่ใกล้กับศพแบบนี้มาตลอดทั้งคืน จนทำให้เกิดความไม่สบายใจ และยังหวาดผวามาโดยตลอดว่าจะมองเห็นอะไรในเวลากลางคืน จนไม่กล้าที่จะมานอนเฝ้าเพิงขายของ โดยได้ไปอาศัยนอนอยู่ในวัดใกล้ๆ บริเวณนี้แทน นายเบส กล่าว