วันที่ 3 ม.ค. 67 ที่สำนักงานสมาคมผู้นำอิสลามชายแดนใต้ ตำบลสะเตง อำเภอเมือง จังหวัดยะลา พลโท ปราโมทย์  พรหมอินทร์ แม่ทัพน้อยที่ 4 / รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เป็นประธานเปิดโครงการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อมอบ ถุงยังชีพให้กับประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ ซึ่งจัดขึ้นโดยสมาคมผู้นำอิสลามชายแดนใต้ ร่วมกับ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า, หอการค้าจังหวัดยะลา, มูลนิธิอะมีรุลมุอ์มินีนยะลา และภาคีเครือข่าย ได้ร่วมกันจัดขึ้น และมอบถุงยังชีพช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส และ4 อำเภอของจังหวัดสงขลา โดยมี นายฮัสบูเล๊าะ  หิเล นายกสมาคมผู้นำอิสลามชายแดนใต้, นายกันตพงษ์  ลิ่มกาญจนา ประธานหอการค้าจังหวัดยะลา, พลตรี นิติ  ติณสูลานนท์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลา, ดร.วิสุทธิ์  บินลาเต๊ะ ที่ปรึกษาสมาคมผู้นำอิสลามชายแดนใต้ พร้อมด้วย ผู้นำศาสนา ทั้ง 4 ศาสนา ประกอบด้วย ศาสนาอิสลาม ศาสนาพุทธ ศาสนาคริสต์ และศาสนาซิกข์ และ หัวหน้าส่วนราชการ ภาครัฐ ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจำนวน 500 เข้าร่วม

สำหรับโครงการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยจังหวัดชายแดนภาคใต้ จัดขึ้นสืบเนื่องจากสถานการณ์อุทกภัย ครั้งที่วิกฤตที่สุดในรอบ 50 ปี ส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก บ้านเรือนได้รับความเสียหาย ได้รับความเดือดร้อนทั้งในเรื่องของที่อยู่อาศัย อาหารการกิน รวมไปถึงทรัพย์สิน ทั้งของประชาชนและหน่วยงานรัฐ เสียหายอย่างมหาศาล จัดร่วมจัดโครงการเพื่อมอบถุงยังชีพแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส และ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา จำนวน 500 ถุง  นอกจากนี้ภายในงานยังมีเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์สาธารณสุข มาให้บริการตรวจสุขภาพจากศูนย์ประสานการแพทย์จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้บริการ ตรวจรักษาโรค แก่ประชาชนฟรีอีกด้วย

พลโท ปราโมทย์  พรหมอินทร์ แม่ทัพน้อยที่ 4 / รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า เรื่องของสถานการณ์ภัยพิบัติทางกองทัพภาคที่ 4 ได้มีการเตรียม ความพร้อมของศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ 4 ตั้งแต่เกิดเหตุอุทกภัยคืนวันที่ 24 ธันวาคม 2566 และเช้าวันที่ 25 ทางหน่วยทหารได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่ลงไปช่วยเหลือดูแลประชาชน ทั้งนี้ได้มีการบูรณาการกำลังทุกภาคส่วนร่วมกัน ทั้งภาครัฐภาคเอกชน และภาคประชาชน ในการเข้าไปให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย และสำหรับกิจกรรมโครงการครั้งนี้ถือเป็นความเสียสละของภาคเอกชนที่ได้ร่วมกันให้ความสำคัญของประชาชนที่มาร่วมเติมเต็มให้ความช่วยเหลือประชาชนอีกทางหนึ่ง และหลังจากนี้ได้มีการเตรียมแผนบูรณาการบูรณะฟื้นฟูให้ความช่วยเหลือประชาชน ทั้ง ภาครัฐและเอกชน ประกอบด้วย กองทัพภาคที่ 4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ตำรวจภูธรภาค 9 และฝ่ายปกครอง ด้วยการจัดกำลังพลทีมช่าง เข้าไปซัพพอร์ตแต่ละจังหวัดพื้นที่ ในการฟื้นฟูความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด