ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุม ชั้น 2 สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเลย ตำบลเมือง อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย มีการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการ ในเรื่องการบัญชีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ที่คงต้องรักษาและสืบทอดในท้องถิ่น ที่นำภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ลำแมงตับเต่าไทเลย (หมอลำไทเลย)หนึ่งเดียวในอีสานนำมาสืบทอดให้ลูกหลานในยุกต์หลังได้มีความภูมิใจในความเป็นตัวตนของตัวเองและสืบสานต่อในศิลปะวัฒธรรมในท้องถิ่น

นางพัทธนันท์ ชุมพล ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมศาสนา ศิลปะวัฒนธรรม กล่าวว่า เนื่องด้วยจังหวัดเลย มีศิลปะการแสดงประเภทหนึ่งที่มีชื่อว่า “ลำแมงตับเต่า ไทเลย” หรือที่เรียกในท้องถิ่นว่า หมอลำไทเลย ได้รับการขึ้นบัญชีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ของกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ประจำปี พุทธศักราช 2562 ลักษณะศิลปะการแสดง ประเภท รายการมรดกภูมิปัญญา ทางวัฒนธรรมที่ต้องได้รับการส่งเสริมและรักษาอย่างเร่งด่วน 

ดังนั้นทาง สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเลย ในฐานะตัวแทนกระทรวงวัฒนธรรมในส่วนภูมิภาค จึงได้เล็งเห็นความสำคัญของการจัดกิจกรรมสืบสานมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ลำแมงตับเต่าไทเลย (หมอลำไทเลย) ขึ้น เพื่อเป็นการสืบสาน อนุรักษ์ ฟื้นฟูมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของท้องถิ่น ถ่ายทอดเป็นองค์ความรู้ให้กับ เด็ก เยาวชน และประชาชนในพื้นที่จังหวัดเลย และเพื่อเป็นการส่งเสริม สืบสาน พัฒนา อนุรักษ์ ฟื้นฟูมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของท้องถิ่น มีการไหว้ครู ครอบครูเพื่อสืบทอดเจตนารม ให้คงอยู่ต่อไปกับลูกหลานในจังหวัดเลย  การจัดกิจกรรมครั้งนี้ ได้รับความอนุเคราะห์วิทยากรจากสถานศึกษาและคณะศิลปินพื้นบ้าน หมอลำไทเลย นำโดยอาจารย์สุวิทย์ สารเงิน ศิลปิน พร้อมคณะ     

นายสุวิทย์ สารเงิน  ผู้สืบสานหมอลำแมงตับเต่าไทเลย (หมอลำไทเลย)กล่าวว่าสำหรับการแสดงลำแมงตับเต่าไทเลยหมอลำไทเลย บ้านน้ำพร ต.ปากตม อ.เชียงคาน จ.เลย "ลำแมงตับเต่า" หรือ หมอลำไทเลยเป็นการร้องรำที่มีท่วงทำนองอันเป็นเอกลักษณ์โดยการใช้ภาษาและสำเนียงแบบชาวไทเลยนิยมเล่นเป็นเรื่องราวนิทานพื้นบ้านอีสานที่มีตัวละครกษัตริย์ เจ้าหญิง เจ้าชาย และตัวตลกพร้อมสอดแทกธรรมะและมุกตลกขบขันแมงตับเต่า คือแมลงปีกแข็งขนิดหนึ่งมีลักษณะผิวมันลื่น ว่องไว จับยากมักพบในแหล่งน้ำจืดต่าง ๆ เช่น ทุ่งนา ลำห้วยจึงใช้เรียกการละเล่นนี้ที่มีลักษณะเฉพาะคือความสนุกสนาน

นายสุวิทย์  กล่าวในตอนท้ายว่า ปัจุบัน หมอลำแมงตับเต่า หรือหมอลำไทเลยกำลังจะหายไปในสังคม ทางกลุ่มจึงมีการรื้อฟื้นขึ้นมาเรื่อยๆตลอด 20 ปีที่ผ่านมาขณะนี้มีผู้สืบทอดแล้วทั้งในคณะหมอลำต่าง ที่นำไปเผยแพร่และแสดง ในวงการหมอลำอาชีพ และเด็กๆเยาวชน ประมาณ 100 คน จึงมีความสำคัญมาก ที่เราทุกคนจะต้องรักษาและสืบสานเรื่องดีๆแบบนี้ เอาไว้เพื่อให้ลูกหลานเราและอยู่คู่กับคนเลย ต่อไป