วันที่ 27 ก.พ.67 น้ำเสียจากสถานประกอบการ ที่พักโรมแรม ร้านอาหาร บ้านเรือนประชาชน ที่ถูกปล่อยลงลำรางสาธารณะ ล้นฝายน้ำล้นไหลลงลำรางสาธารณะก่อนไหลลงสู่ทะเลบริเวณชายหาดอ่าวนาง  โดยไม่ผ่านระบบ บำบัดน้ำเสียด้วยระบบไฟฟ้า ภายในโรงแรมพีซลากูน่ารีสอร์ท แอนด์สปา ย่านแหล่งท่องเที่ยวอ่าวนาง ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ ส่งกลิ่นเหม็น รบกวน นักท่องเที่ยว ที่เข้าพักในโรงแรม โดยน้ำเสียที่ไม่ผ่านการบำบัดมีสีดำขุ่น ได้ไหลลงสู่คลองจาก ไหลลงทะเลบริเวณชายหาดอ่าวนาง ขณะที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เล่นน้ำทะเลบริเวณดังกล่าว 

นายเอกวิทย์ ภิญโญธรรมโนทัย ผู้บริหาร เครือพีชลากูน่ารีสอร์ทแอนด์สปา อดีตประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่  ตั้งข้อสังเกตว่า ปัญหาน้ำเสียแหล่งท่องเที่ยวอ่าวนาง เป็นปัญหาเรื้อรังมานานหลายสิบปี องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานภาครัฐ ไม่จริงจังในการแก้ไขปัญหา บังคับใช้กฎหมาย เอาผิดกับ สถานประกอบการ ที่พักโรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร ที่ไม่มีระบบบำบัดน้ำเสีย มีการปล่อยน้ำเสียลงลำรางสาธารณะ แม้ว่าที่ผ่านมา ได้มีการแก้ไขปัญหาโดยการ  สร้าง ปรับปรุงระบบบำบัดนำเสียคลองจากด้วยวิธีไฟฟ้า จำนวน 2 แห่งในวงเงิน 14,600,000 บาท ที่บริเวณริมห้วยสาธารณะจุดที่พักตำรวจอ่าวนาง และที่บริเวณริมห้วยสาธารณะโรงแรมพีซลากูน่ารีสอร์ทแอนด์สปา สามารถบำบัดน้ำเสียได้ 1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน เป็นการบำบัดน้ำเสียก่อนไหลลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติและลงสู่ทะเล 

แต่พบว่า ไม่มีหน่วยงานที่รับผิดชอบ ดูแล ตรวจสอบระบบอย่างจริงจัง บางครั้งกระแสไฟฟ้าขัดข้อง ทำให้เครื่องหยุดทำงาน เป็นระยะเวลาหลายวัน ทำให้น้ำเสียจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว มีมากถึงกว่า 3000 ลบ.ม.ต่อวัน แต่ระบบบำบัดได้เพียง 1200 ลบ.ม.ต่อวันเท่านั้น ทำให้น้ำเสียที่เหลือไหลลงทะเล   

แนวทางการแก้ปัญหา องค์ปกครองส่วนท้องถิ่นต้องบังคับใช้ระเบียบ กฎหมาย การอนุญาต สิ่งปลูกสร้างอย่างจริงจัง ทุกที่ต้องมีระบบบำบัดน้ำเสีย ถึงจะออกใบอนุญาตให้ เชื่อว่าจะสามารถลดปริมาณน้ำเสียลงได้ และขอให้หน่วยงานระดับประเทศลงมาแก้ปัญหา  จัดสรรงบประมาณ สร้างระบบบำบัดน้ำเสียขนาดใหญ่ สามารถรองรับปริมาณน้ำเสียที่เกิดขึ้นจากการขยายตัวของธุรกิจด้านการท่องเที่ยวในอนาคต