วันที่ 15 มี.ค.67 นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่ารชการจังหวัดนครศรีธรรมราช  ร่วมละศีลอดในโครงการถือศีลอดในเดือนรอมฎอน ประจำปี 2567 ณ  มัสยิดการาหมาด ม.1 ต.นาเคียน อ.เมืองนครศรีธรรมราช โดยมีประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด, หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัด, นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช ,รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด , สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด, ผู้นำท้องถิ่น/ชุมชน อิหม่ามและคณะกรรมการประจำมัสยิด, กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและคณะกรรมการหมู่บ้านในตำบลนาเคียน และพี่น้องมุสลิมในพื้นที่เข้าร่วม 250 คน

โดยผู้เข้าร่วมพิธีได้ประกอบพิธีกรรมตามหลักศาสนาอิสลาม ก่อนจะออกจากการถือศีลอดหรือละศีลอด มัฆริบในเวลา 18.32 น. ซึ่งอาหารชนิดแรกที่อิสลามิกชนต้องรับประทานหลังจากถือศีลอดมา ทั้งวัน คือ "อินทผลัม" ตามด้วยอาหารหวานต่าง ๆ เพื่อชดเชยกับพลังงานที่สูญเสียไปจากการอดอาหาร

สำหรับตำบลนาเคียนมีพื้นที่ครอบคลุม 9 หมู่บ้าน 10  มัสยิด 2 วัด 1 โบสถ์ 9 โรงเรียน และ 2 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล มีประชากร 13,956 คน ซึ่งประชากรส่วนมากนับถือศาสนาอิสลามร้อยละ 96 นับถือศาสนาพุทธร้อยละ 4 ซึ่งการถือศีลอดเป็นหนึ่งในหลักปฏิบัติ 5 ประการ ที่ผู้นับถือศาสนาอิสลามต้องปฏิบัติ โดยการละทิ้งสิ่งที่ต้องห้าม ต้องฝึกความอดทนและอดกลั้น และรู้จักการปฏิบัติตนทั้งทางกาย วาจา และใจ ให้อยู่ในกรอบศาสนา รู้จักทำแต่คุณงามความดี รู้จักโอบอ้อมอารี ช่วยเหลือผู้ทุกข์ยาก ให้รู้ถึงความเสมอภาคของมวลมนุษย์ และสิ่งที่ทำให้เสียหายต่อการถือศีลอดทั้งหลาย ตั้งแต่แสงอรุณขึ้นจนถึงพระอาทิตย์ตกดิน พระองค์อัลเลาะฮ์ได้กำหนดให้เดือนรอมฎอนเป็นเดือนที่มีความประเสริฐกว่าเดือนอื่นๆ ในรอบหนึ่งปี เพราะเดือนรอมฏอนเป็นเดือนที่คัมภีร์อัลกรุอ่านถูกประทานมา พระองค์อัลเลาะฮ์ ได้บัญญัติใช้ในคำภีร์อัลกรุ อ่าน ความว่า "โอ้บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย การถือศีลอดได้ถูกบัญญัติแก่สู่เจ้าทั้งหลายแล้ว ดังที่ได้ถูกบัญญัติแก่บรรดาผู้ก่อนหน้าสู่เจ้ามาแล้ว เพื่อสู่เจ้าจะได้ยำเกรง” โดยประชาชนในชุมชนจะร่วมกันละศีลอด และจะประกอบพิธีทางศาสนาอิสลามตลอดทั้งเดือนรอมฏอนเป็นพิเศษ

ทั้งนี้ เดือน "รอมฏอน" เป็นเดือนที่ 9 ตามปฏิทินทางจันทรคติของอิสลาม ชาวมุสลิมทั่วโลกจะ "ถือศีลอด" ตลอดทั้งเดือน จึงเรียกกันว่า เดือนบวช  โดยจะเริ่มถือศีลอดตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นจนถึงพระอาทิตย์ตก ซึ่งปีนี้ วันที่ 1 เดือนรอมฎอน ฮิจเราะห์ศักราช 1445 ตรงกับ วันอังคารที่ 12 มีนาคม 2567 ตามประกาศของสำนักจุฬาราชมนตรี   และจะสิ้นสุดในวันที่ 29 หรือ 30 ของการถือศีลอด โดยขึ้นอยู่กับการมองเห็นดวงจันทร์ของเดือนใหม่  เดือนรอมฎอนนี้ เป็นเดือนที่เชื่อกันว่าพระผู้เป็นเจ้าประทานพระคัมภีร์อัลกุรอานลงมาให้แก่ นบีมูฮัมหมัด ศาสดาของศาสนาอิสลาม เพื่อใช้สั่งสอนแก่อิสลามิกชนทั่วโลก ชาวมุสลิมทุกคนจึงต้องรักษาศีล อดอาหารเพื่อฝึกฝนการบังคับตนเองให้รู้จักความอดกลั้นอดทน มีจิตใจหนักแน่น และไม่ท้อถอยอย่างง่ายดายต่อความยากลำบาก  และเพื่อให้เข้าถึงคำสอนของนบีมูฮัมหมัด รวมถึงใช้เวลาในการศึกษาพระคัมภีร์อัลกุรอานอย่างเคร่งครัด  ไม่กระทำการใดที่ขัดต่อคำสั่งของพระผู้เป็นเจ้า เมื่อรอมฎอนสิ้นสุดก็จะเป็นการเฉลิมฉลอง ที่เรียกว่าวัน "วันอีฎิ้ลฟิตริ"