อำเภอเมือง//ชาวบ้านลือเป็นคลองส่งน้ำอาถรรพ์ มีคนขี่ซาเล้งจมน้ำคู่กับเด็กจุดเดียวกันก่อนหน้านี้ 3 ศพ ก่อนที่ ตาวัย 79 ปี จะพาหลานๆอายุ ขวบ 8 เดือนถึง 10 ขวบ รวมกับตาเป็น 6 คน นั่งรถซาเล้งชมวิวเล่นเรียบคลองส่งน้ำ แล้วเสียหลักตกลงไปเสียชีวิตตากับหลาน 2 ศพ

วันที่ 16 มี.ค.67 กรณีนาย เพือน ฤกษชัย อายุ 79 ปี 105 ม.2 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ พาหลานจำนวน 5 คน มี ด.ญ.อายุ 1 ปี 8 เดือน, ด.ญ.อายุ 3 ขวบ, ด.ช.อายุ 7 ขวบ, ด.ช.อายุ 8 ขวบ และ ด.ช.อายุ 10 ขวบ รวมกับตาเป็น 6 คน ขี่รถจักรยานยนต์แบบพ่วงข้าง

พาหลานทั้ง 5 ขี่นั่งชมวิวรอบคลองส่งน้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก ซึ่งมีความกว้างประมาณ 6 เมตร ลึกกว่า 3 เมตร จากนั้นรถได้เสียหลักพุ่งตกลงคลอง ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์เข้าไปช่วยเด็กออกมาได้ 4 คน แต่ตากลับหลานวัย 1 ปี 8 เดือน เสียชีวิตรวม 2 คน

ความคืบหน้าล่าสุดญาติได้นำศพเด็กหญิง และศพตา มาตั้งบำเพ็ญกุศลไว้ที่บ้านมีชาวบ้านออกมาแสดงความเสียใจไม่ขาดสาย บรรยากาศยังเต็มไปด้วยความโศกเศร้า

น.ส.สายรุ่ง ฤกษชัย อายุ 48 ปี ลูกสาวนายเพือน ผู้เสียชีวิต เล่าว่าเท่าที่ทราบจากคนที่ไปช่วยพ่อและเด็ก หลังรถตกลงคลองส่งน้ำ พ่อได้ช่วยหลานด้วยการให้เด็กเกาะแขนแล้วเอาเด็กมาเข้าฝั่ง แต่ยังเหลือหลานคนเล็กคือน้องโอนิว วัย 1 ปี 8 เดือนที่ยังหาไม่เจอ พ่อได้กระโดดตามหาหลานอีก โดยไม่ฟังเสียชาวบ้านว่าไม่ต้องลงไป ก่อนจะจมหายไป คาดพ่อเป็นห่วงหลานแต่หมดแรงจึงจมน้ำไปด้วยอีก

น.ส.สายรุ่ง กล่าวด้วยว่า ตนเองไปทำงานต่างจังหวัด ก่อนหน้านี้ประมาณ 7 วันฝันว่าได้พบปะพี่น้องที่บ้านแบบเต็มครอบครัว เหมือนตอนกลับมาบ้านตอนช่วงเทศกาล เหมือนเป็นลางบอกว่าญาติพี่จะต้องกลับมาเจอกันอีก

ขณะที่ น.ส.สุชาดา ฤกษชัย อายุ 29 ปี แม่น้องโอนิว ที่เสียชีวิตบอกว่า ปกติตาจะพาหลานนั่งรถจักรยานยนต์พ่วงข้างขับไปชมวิวทุกวันโดยเฉพาะตอนเย็น ยอมรับว่าห้ามตาไม่ได้ ที่ไม่ให้ขี่รถจักรยานยนต์ออกไปแบบนี้เพราะอันตรายเนื่องจากตามีโรคประจำตัว เหตุการณ์นี้ตนไม่ติดใจเพราะเป็นอุบัติเหตุ

ด้านนายอรุณ อุ่นรัมย์ อายุ 59 ปี ครูโรงเรียนในหมู่บ้าน เล่าว่าจุดเดียวกันที่ตาเพือน ขับรถตกน้ำ เคยมีคนพาหลานขี่จักรยายนต์พ่วงข้างแบบเดียวกันตกคลองมาแล้ว ครั้งนั้นเสียชีวิตตาหลานเช่นเดียวกัน และก่อนหน้านั้นอีกมีคนขี่รถจักรยานยนต์ตกน้ำตายอีก 1 รวมกับครั้งนี้บริเวณดังกล่าวมีคนเสียชีวิตแล้ว 5 ศพ

สิ่งที่แปลกคือทำไมอุบัติเหตุจึงเกิดขึ้นจุดเดียวกันทั้งที่เป็นทางตรง และผู้เสียชีวิตมักจะเป็นเด็กกับผู้ใหญ่ด้วยกันเหมือนเป็นตัวตายตัวแทน ตอนนี้ชาวบ้านลือกันว่าบริเวณดังกล่าวเป็นคลองอาถรรพ์ไปแล้ว