วันอาทิตย์ ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 08:27 น.

ภูมิภาค

โรงไฟฟ้าชีวมวลหนองฮี โชว์ศักยภาพการผลิต นำขยะแปรรูปเป็นไฟฟ้า มีเงินออมสะสมนับสิบล้าน

วันเสาร์ ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2567, 18.33 น.

วันที่16 มีนาคม 2567 นายพัฒนา จันทร์ศรีเมือง รองนายก อบต.หนองฮี ได้จัดประชุมสัมมนาเพื่อศึกษาดูงาน การบริหารจัดการกองทุนพัฒนาพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าชีวมวลของชาวชุมชนหนองฮี  และแนะนำจุดแข็งรวมถึงจุดอ่อนของพื้นที่ ต.หนองฮี ต่อคณะกองทุนราชบุรี นำโดย นางสาววริษฐา สงวนเสริมศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี (รอง ผวจ.ราชบุรี)  นายสุทธิพงษ์ พุทธจันทรา นายอำเภอเมืองราชบุรี นายวาทินทร์ ทองแก้ว พลังงานจังหวัดราชบุรี นายยงยุทธ มหาเวชาศิริ  ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ประจำเขต 10 ราชบุรี (ผอ.กกพ เขต10) และหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่กองทุนจากราชบุรี ณ ห้องประชุมสำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลหนองฮี (อบต.หนองฮี) อ.ปลาปาก จ.นครพนม

โดย นายพัฒนา จันทร์ศรีเมือง รองนายก อบต.หนองฮี ได้กล่าวถึงจุดแข็ง จุดอ่อนของ ต.หนองฮี ว่า ลักษณะพื้นที่โดยทั่วไปเป็นป่าโปร่ง มีป่าธรรมชาติแซมบางส่วน สภาพพื้นดินส่วนใหญ่เป็นดินลูกรัง จึงเก็บกักน้ำไม่ดี ทำให้ดินขาดความอุดมสมบูรณ์ เกษตรส่วนใหญ่มีอาชีพทำนา ทำสวน ผลผลิตไม่ดีเท่าที่ควร แต่ด้วยความเข้มแข็ง และความสามัคคีของคนในชุมชน ที่มีมาอย่างยาวนาน โดยยึดหลักเศรษฐกิจแบบพึ่งพาอาศัยกัน ทำให้ชุมชนอยู่กันอย่างสันติสุข

โดยทาง ต.หนองฮีมีกลุ่มออมทัรพย์ ที่บริหารจัดการออมเงิน พร้อมดูแลผลประโยชน์ของสมาชิกควบคู่กันมาอย่างยาวนาน ปัจจุบันจึงมีเงินออมจำนวนหลายสิบล้านบาท ทั้งนี้ชุมชนหนองฮี ได้ยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในการดำรงชีพ เพื่อสร้างเศรษฐกิจฐานรากมั่นคง ชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน

ด้าน นายสุชา ไพเราะ และ นางสาว จตุพร อบภิรมย์ เจ้าหน้าที่ กกพ. เขต 4 จ.ขอนแก่น ได้บรรยายเกี่ยวกับกองทุนพัฒนาพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า และกองทุน อบต.หนองฮี ถือเป็นกองทุนใหม่ที่เพิ่งประกาศให้มีผลบังคับใช้ได้ในปี 2568  โดยทางพื้นที่ ต.หนองฮี จะได้ประโยชน์จากกองทุนนี้ ในการนำมาพัฒนาและบริหารจัดการ การใช้เงินกองทุนให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชนในพื้นที่

ขณะที่ นายภูวนาทร์ บุญเลิศ รองประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครพนม และเป็นผู้บริหารโรงไฟฟ้าชุมชนหนองฮี ได้กล่าวบรรยายถึงบทบาทความรับผิดชอบของภาคเอกชนต่อการส่วนร่วมในพื้นที่ หลังจากนั้นได้พาคณะไปเยี่ยมชมโรงไฟฟ้าชุมชนหนองฮี และ กิจการ BCG (Bio-Circular-Green Economy)  ของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนอุตสาหกรรมท้องถิ่นฯ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้นำผลพลอยได้หรือกากอุตสาหกรรมจากโรงไฟฟ้า มาทำการแปรรูปเป็นสินค้า ผลิตภัณฑ์ในรูปแบบต่างๆ ทำให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ และเพิ่มรายได้ให้กับคนในชุมชนอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นการส่งเสริม สนับสนุน สร้างเศรษฐกิจฐานรากให้มั่นคงและเข้มแข็ง โดยคณะผู้เดินทางมาศึกษาดูงานจาก จ.ราชบุรี ได้แสดงความชื่นชมในการบริหารจัดการเป็นอย่างมาก

ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าชีวมวลชุมชนหนองฮี ได้เดินเครื่องเมื่อปลายปี 2564  ก่อสร้างโดยสถาบันการแปรสภาพพลังงานกว่างโจว สังกัดสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน (GIEC) ร่วมกับพันธมิตรที่เกี่ยวข้อง ภายใต้การสนับสนุนของโครงการวิจัยและพัฒนาที่สำคัญแห่งชาติ (NKP) สังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งมีส่วนส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด สอดคล้องกับโครงการริเริ่มหนึ่งเส้นทาง มุ่งการพัฒนาสีเขียว อีกทั้งยังเป็นเทคโนโลยีพลังงานหลายระบบ (Polygeneration) มีเตาผลิตก๊าซขนาด 6 เมกะวัตต์ และกำลังผลิตติดตั้ง 1 เมกะวัตต์ โดยสามารถจ่ายได้ทั้งพลังงานความร้อน  พลังงานไฟฟ้า และพลังงานเชื้อเพลิงในเวลาเดียวกัน

สำหรับพลังงานชีวมวล คือ พลังงานที่ผลิตได้จากการนำวัสดุชีวมวลที่ไม่ใช่ฟอสซิล เช่น ขยะมูลฝอยที่เผาไหม้ได้ มาผลิตเป็นพลังงานไฟฟ้า ผ่านกระบวนการแปรรูปต่าง ๆ สามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยนักวิจัยกระบวนการทางเคมีความร้อนของสถาบันฯ ได้พัฒนาเทคโนโลยีหลัก และชุดอุปกรณ์ครบครัน สำหรับการผลิตพลังงานแบบหลายระบบจากเชื้อเพลิงชีวมวล โดยผ่านความท้าทายทางเทคนิคหลายประการ เช่น เพิ่มประสิทธิภาพในการแปรสภาพเป็นแก๊ส และการลดปริมาณน้ำมันดินที่ปะปนมากับก๊าซชีวมวล

โครงการนี้นอกจากจะส่งผลดีในด้านการปรับตัว เพื่อใช้งานเทคโนโลยีและอุปกรณ์จีนแล้ว ยังช่วยส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียนของจีน ตลอดจนผลักดันการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในหมู่ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย

หน้าแรก » ภูมิภาค