วันเสาร์ ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2568 03:49 น.

ภูมิภาค

เกษตรสุพรรณหนุนเกษตรกรปลูกถั่วเขียวหลังนาไม่ง้อน้ำเสริมรายได้

วันอังคาร ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2567, 13.49 น.

สำนักงานเกษตรจังหวัดสุพรรณบุรี และสำนักงานเกษตรอำเภอสามชุก ส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกพืชใช้น้ำน้อยโดยเฉพาะถั่วเขียว  ในพื้นที่อำเภอสามชุก และพื้นที่ใกล้เคียงหลังฤดูการทำนาเสริมรายได้ลดรายจ่ายในการบำรุงดินโดยไม่ง้อน้ำช่วงฤดูแล้ง


ที่จังหวัดสุพรรณบุรีนายวสันต์ จี้ปูคำ เกษตรจังหวัดสุพรรณบุรี นางบำรุงรัทย์  ขันทอง เกษตรอำเภอสามชุก พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตร ร่วมกับ รศ.ดร.ประกิจ สมท่า  ภาควิชาพืชไร่นา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน นำคณะคณาจารย์นักวิจัยจาก 15 ประเทศ จำนวน 120 คนลงพื้นที่ดูงานการเก็บเกี่ยวถั่วเขียวของนายนิมิต สว่างศรี อายุ 57 ปีเกษตรกรหมู่ 2 ตำบลหนองผักนาก อำเภอสามชุก ผู้จัดการแปลงใหญ่ข้าวหนองผักนาก ได้ปลูกถั่วเขียวเอาไว้ 32 ไร่ กำลังจะเก็บเกี่ยว

 


นายวสันต์ จี้ปูคำ เกษตรจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่ากรมส่งเสริมการเกษตรได้ให้นโยบายส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาปลูกพืชใช้น้ำน้อยหลังการทำนาปี ในช่วงเดือนพฤศจิกายน ถึงมกราคม น้ำในส่วนของชลประทานเริ่มลดลงทำให้การทำนาซึ่งใช้น้ำเยอะก็จะมีปัญหาทุกปี จังหวัดสุพรรณบุรี ได้มีการณรงค์ให้พี่น้องเกษตรกรหันมาปลูกพืชอายุสั้นใช้น้ำน้อย  ทดแทนการทำนาปรังเป็นการสร้างรายได้ได้เร็ว ซึ่งเกษตรกรจังหวัดสุพรรณบุรีได้ปลูกพืชอยู่หลายชนิด ถั่วเขียวก็เป็นพืชอีกชนิดหนึ่งที่เราได้ส่งเสริมมาตั้งแต่ปี 2560 แรกๆเกษตรกรก็ยังน้อย แต่พอเกษตรกรเริ่มปลูกก็เริ่มเข้าใจว่าถัวเขียวสามารถสร้างรายได้ดีปัจจุบันเกษตรกรได้รับการส่งเสริมเมล็ดพันธุ์ใหม่ๆ ทั้งของราชการและของมหาวิทยาลัยที่ปรับปรุงและพัฒนาพันธุ์ ที่ตอบโจทน์และความต้องการของพี่น้องเกษตรกรที่ให้ผลผลิตสูง และทนแล้ง ต้านทานโรคแมลงเก็บเกี่ยวได้ช่วงอายุที่สั้น ในช่วงเวลา 65-70วันเกษตรกรก็มีรายเสริมจากการทำนาเฉลี่ย 5,000 กว่าบาทต่อไร่

 


ในส่วนของสำนักงานเกษตรเราก็ส่งเสริมเกษตรกรรมโดยใช้หลักตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ให้เกษตรกรสำหรับเรื่องตลาดพื้นที่ของเราได้ประสานบริษัทเอกชนมารับซื้อ ส่วนในเรื่องของเมล็ดพันธ์ ทาง สวทช และมหาวิทยาลัยเกษตรได้พัฒนาสายพันธุ์ ให้พี่น้องเกษตรกรได้นำไปปลูก ในส่วนของจังหวัดสุพรรณบุรีเราได้จัดตั้งเป็นศูนย์ส่งเสริมเมล็ดพันธุ์พืชชุมชนถั่วเขียว ที่จุดตำบลหนองผักนาก อำเภอสามชุก ข้อดีของการปลูกถั่วเขียวนอกจากใช้น้ำน้อยเก็บเกี่ยวเกี่ยวได้ไวสร้างรายได้ หลังจากเก็บถั่วเขียวเราก็จะมีการพักดินแล้วก็มาปลูกข้าวในรอบต่อไปก็จะช่วยลดการใส่ปุ๋ยในนาข้าวเพราะการปลูกถั่วเขียวเป็นเพิ่มปุ๋ยในดินทำให้ช่วยลดต้นทุนการผลิตให้พี่น้องเกษตรกรด้วย ส่วนพื้นที่ปลูกถั่วเขียวจากเดิมไม่กี่ร้อยไร่ปัจจุบันได้มีการขยายพื้นที่เครือข่ายเป็น 4,400 ไร่ ทั้งอำเภอสามชุก 9,320 ไร่ นอกจากนี้ยังมีเกษตรกรอำเภอ หนองหญ้าไซ และ ดอนเจดีย์ ปลูกถั่วเขียวหลังฤดูการทำนารวมแล้วกว่า 10,000 ไร่

 


ทางด้านนายมานิตย์ สว่างศรี เจ้าของแปลงกล่าวว่าถั่วเขียวแปลงนี้ตนทำมาแล้ว 9 ปีโดยใช้สายพันธ์ เคยูเอ็มแอล 8 (KUML 8) ที่ให้ผลผลิตดีเมล็ดใหญ่อายุสั้นต่อต้านโรคเชื้อรา ให้ผลผลิตสูง เราทำในนามกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรยั่งยืน เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นหลังการทำนาการปลูกถั่วเขียวตนเรียก 3 ดีบำรุงดินเพราะแก่นแท้ของเราคือการทำนาเราบำรุงดินเพื่อการทำนาเมล็ดพันธุ์เรารับประทานได้ คิดในเชิงการค้าเราจำหน่ายได้จึงคิดรวมกลุ่มกันทำ ต้องขอบคุณทางเกษตรจังหวัด เกษตรอำเภอเกษตรตำบล สว.ทช.และรศ.ดร.ประกิจ สมท่า  ภาควิชาพืชไร่นา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ที่นำเมล็ดพันธุ์ดีดีมาให้เกษตรกร ซึ่งตรงกับความต้องการของเกษตรกร ผลผลิตล่าสุดสูงสุดได้ 280 กิโลกรัมต่อไร่เฉลี่ย 200กิโลกรัมต่อไร่ การทำถั่วเขียวไม่ยากถั่วเขียวเป็นพืชหลังนาเราจะใช้ช่วงเดือน พฤศจิกายน ธันวาคม และมกราคม  อาศัยความชื้นในอากาศความชื้นในดินไม่ต้องใช้น้ำที่สำคัญคือการดูแลเพราะศัตรูหลักของถั่วเขียวจะมีหนอนทุกชนิดและเพลี้ยค่าใช้จ่ายต่อไร่ประมาณ 2,000 กว่าบาท ส่วนรายได้ต่อไรประมาณ 5,600 บาทในระยะ 65-70วัน


รศ.ดร.ประกิจ สมท่า  ภาควิชาพืชไร่นา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์กำแพงแสน กล่าวว่าวันนี้เป็นการศึกษาดูงานของคณะนักวิจัยคณาจารย์จากหลายประเทศประมาณ 15 ประเทศจำนวน 120 คนส่วนใหญ่มาจากทวีปเอเชียจากเนเธอร์แลนด์ ออสเตเลียได้มาศึกษาดูงานการเก็บเกี่ยวถั่วเขียวโดยใช้เครื่องจักรที่บ้านหนองผักนาก สุพรรณบุรี เป็นโครงการประชุมวิชาการแลกเปลี่ยนความรู้ เทคโนโลยีการผลิตและปลูกถั่วเขียวของทั้งโลก เป็นความร่วมมือของศูนย์พืชผักเขตร้อน ของใต้หวัน กับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์กำแพงแสน วันนี้มีสมาชิกที่มาดูงานที่นี่ประมาณ 120 คน

 


ที่เราเลือกที่หนองผักนากเพราะตรงนี้เป็นจุดที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์กำแพงแสน ร่วมกับ สวทช.มาส่งเสริมเกษตรกรที่ปลูกถั่วเขียวแล้วมีการขยายผลจากตอนแรกที่ปลูกกันเพียง 40 ไร่ตอนนี้เพิ่มเป็น 10,000 ไร่ถือเป็นพื้นที่ประสบความสำเร็จในการปลูกถั่วเขียวเราจึงพาคณะนักวิจัยคณาจารย์มาดูงานที่นี่ ซึ่งทางคณะดูงานบางประเทศได้ให้ความสนใจเพราะเทคโนโลยี่เขาอาจยังไม่เหมือนบ้านเรากลับไปเขาอาจจะไปดัดแปลงเครื่องเก็บเกี่ยวนำโมเดล ของเราไปใช้ เพราะประเทศของเขาจะใช้เครื่องเก็บเกี่ยวถั่วเขียวโดยเฉพาะที่มีราคาแพง แต่ของไทยประดิษฐ์ราคาค่อนข้างถูกอาจจะน้ำเครื่องเกี่ยวข้าวมาปรับเกี่ยวถั่วเขียวด้วย


สำหรับสายพันธุ์ถั่วเขียวของที่นี่คณะดูงานค่อนข้างชื่นชอบเพราะเป็นพันธุ์ที่มีเม็ดโตและสุกแก่เสมอกัน ใช้เครื่องจักรเก็บเกี่ยวได้โดยไม่ต้องฉีดพ่นสารให้พืชตายจะได้เก็บเกี่ยวพร้องกันแต่ของเราไม่ต้องฉีดพ่นสารเคมี ส่วนรสชาติและคุณค่างทางโภชนาการนั้นคงเหมือนพันธุ์ทั่วไปแต่ลักษณะพิเศษของถั่วเขียวพันธุ์(KUML 8)ที่เราส่งเสริมคือมีเมล็ดโตเหมาะสำหรับแปรรูปเป็นถั่วซีก เป็นที่ต้องการของตลาด อยากเชิญชวนเกษตรกรที่ทำนาหันมาปลูกถั่วเขียวหลังเก็บเกี่ยวข้าวนาปีช่วงฤดูแล้งให้หันมาปลูกถั่วเขียวกันเยอะๆ เพราะถั่วเขียวเป็นพืชที่ตลาดต้องการเยอะไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดการปลูกถั่วเขียวเป็นการปรับปรุงบำรุงดินเมื่อเรากลับมาปลูกข้าวอีกจะทำให้ผลผลิตข้าวดีขึ้น ความอุดมสมบูรณ์ของดินดีขึ้น  ถั่วเขียวเป็นพืชใช้น้ำน้อยไม่ต้องใช้น้ำเลยใช้แค่ความชื้นที่เหลืออยู่ในนาหลังจากเก็บเกี่ยวข้าวแล้ว 

หน้าแรก » ภูมิภาค