วันที่ 9 เมษายน 2567 ที่เรือนจำอำเภอไชยา อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี นาย เจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานในพิธี เปิดป้ายอาคารอเนกประสงค์ "ศรีไชยานุสรณ์"  ซึ่งทางเรือนจำอำเภอไชยา ได้จัดสร้างอาคารอเนกประสงค์ขึ้น เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา เพื่อเป็นสถานที่ให้ผู้ต้องขังใช้ประโยชน์ระหว่างต้องโทษอยู่ในเรือนจำ เป็นสถานที่ฝึกอบรมฝึกวิชาชีพตลอดจนใช้ประกอบกิจกรรม สันทนาการต่างๆ ซึ่งเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ต้องขังให้ดีขึ้น ประกอบกับเรือนจำอำเภอไชยา ครบรอบ 76 ปี ของการก่อสร้างเรือนจำ จึงได้ตั้งชื่ออาคารแห่งนี้ว่าอาคารศรีไชยานุสรณ์ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ผู้อยู่อาศัยภายใต้ร่มเงาสถาบัน

ขณะเดียวกันเป็นโอกาศพิเศษเนื่องในช่วงเทศกาลสงกรานต์ทางเรือนจำจัดกิจกรรมงาน "กตัญญูกตเวที สืบสานประเพณีสงกรานต์" เพื่อ เสริมสร้างสิริมงคลในชีวิตและยังมีการจัดกิจกรรมสรงน้ำพระสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำเรือนจำอันเป็นการขอขมาลาโทษ และเพื่อสืบสานประเพณีสงกรานต์ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ไทย ประจำปี พ.ศ 2567 รวมถึงตรวจเยี่ยมการดำเนินงาน พบปะสร้างขวัญและให้กำลังใจแก่ผู้ต้องขัง ในเรือนจำอำเภอไชยา โดยมี นางสาว สาธิกา สามศรี ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาข้าราชการราชทันฑ์ รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการเรือนจำอำเภอไชยา พร้อมด้วย นายชวลิต โรจนรัตน์ นายอำเภอไชยา  พ.ต.อ.ฐิติวัชร์ สุฐิติวนิช ผกก.สภ.ไชยา  หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่เรือนจำอำเภอไชยา ร่วมต้อนรับ

นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า เรือนจำอำเภอไชยา ได้ขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงยุติธรรมและกรมราชทัณฑ์ได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะภารกิจด้านอำนวย ความยุติธรรมที่ได้ปฏิบัติต่อผู้ต้องขังตามหลักนิติกรรม ควบคู่กับการแก้ไข และพัฒนานิสัย รวมถึงโครงการคืนคนดีสู่สังคมในรูปแบบกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้โอกาสผู้ต้องขังที่จะพ้นโทษได้กลับตัวกับใจเป็นคนดีคนใหม่ที่พร้อมจะกลับไปใช้ชีวิตในสังคมอย่างปกติสุขไม่กลับมากระทำผิดซ้ำอีก

สำหรับเรือนจำอำเภอไชยา เป็นเรือนจำขนาดเล็กแดนเดียวมีอำนาจการควบคุมผู้ต้องราชทัณฑ์ทั้งชายและหญิงไม่เกิน10ปี และมีข้าราชการและบุคลากรจำนวน 45 คน ผู้ต้องขังจำนวนทั้งสิ้น 860 คน พื้นที่ภายใน 6 ไร่ภายนอก 8 ไร่รวม14 ไร่ เป็นเรือนจำที่ฝึกอาชีพให้แก่ผู้ต้องขัง โดยนำการขับเคลื่อนตามนโยบาย โดยจัดทำโครงการฝึกวิชาชีพเตรียมความพร้อมก่อนปล่อย เพื่อเพิ่มพูนความรู้และสร้างอาชีพแก่ผู้ต้องขัง ซึ่งจะทำให้ผู้ต้องขังมีทางเลือกในการประกอบอาชีพสุจริตมีรายได้เลี้ยงดูตนเองและครอบครัวก่อนที่จะได้รับการปล่อยตัวออกไป สนองตอบนโยบายรัฐบาลในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขสร้างความเป็นธรรมในสังคมให้กับประชาชน คืนคนดีสู่สังคมในการลดความเหลื่อมล้ำของสังคมอย่างยั่งยืน.