วันเสาร์ ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 11:47 น.

ภูมิภาค

ผ้าสะใบมอญและธงตะขาบ โดยสภาวัฒนธรรม ต.บ้านกลาง เอกลักษณ์ที่โดดเด่นด้วยแฮนเมด

วันพฤหัสบดี ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2567, 11.28 น.

วันที่ 11 เม.ย.2567 สภาวัฒนธรรมตำบลบ้านกลาง อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี สถานที่ทำผ้าสะใบมอญ  และธงตะขาบ ด้วยมือของชาวบ้าน ไม่มีเครื่องจักร  แห่งเดียวของจังหวัดปทุมธานี  โดยมีอาจารย์ยุพา  ตั้งตน   ข้าราชการเกษียณ ได้รวมกลุ่มชาวไทยเชื้อสายรามัญทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ที่มีความรักและหวงแหนวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณีของชาวมอญไว้ให้ลูกหลานได้สานต่อยอดรำลึกถึงบรรพบุรุษตราบนานเท่านาน

อาจารย์ยุพา  ตั้งตน   ชาวไทยเชื้อสายรามัญปทุมธานี เล่าว่า ก่อนหน้านั้นรับราชการ เป็น ผอ.โรงเรียนวัดสระแก อ.สามโคก จ.ปทุมธานี  ซึ่งก็มีชุมชนชาวไทยเชื้อสายรามัญอยู่เป็นจำนวนมาก   ต่อมาได้ย้ายมาเป็น ผอ.ที่โรงเรียนวัดมะขาม  อ.เมือง จ.ปทุมธานี  ประกอบกับชอบศึกษาในเรื่องประวัติศาสตร์ของชาวมอญ   จึงได้ทำโครงงานประวัติศาสตร์  เล่าขานถิ่นฐานวัดมะขามซึ่งเป็นประวัติศาสตร์ของมอญ  โดยวัดมะขามแห่งนี้เด็กๆที่นี่จะชอบเรียนรู้นอกห้องเรียนจากโบราณสถานโบราณวัตถุและเรียนรู้ในชุมชนซึ่งก็พาเด็กไปศึกษาตามสถานที่ต่างๆของวิถีชีวิตชาวมอญปทุมธานีนำเด็กๆไปดูของจริงไม่ใช่จะเรียนรู้อยู่ในตำราเพียงเท่านั้น  ต่อมาในปี 2558 เกษียณราชการก็มานั่งคิดว่าทำยังไรที่จะให้ชาวบ้านได้รู้จักผ้าสไบมอญ    จึงรวมกลุ่มกันเพราะท้องถิ่นแห่งนี้เป็นคนไทยเชื้อสานรามัญทั้งหมด   ก็ได้ของบประมาณจากกำนัน  ผู้ใหญ่บ้านและ เงินกองทุนหมู่บ้าน  ก็รวมๆไปซื้อผ้าซื้อเข็มซื้อได้ซื้อสะดึงแล้วก็มาสอนปักสะใบมอญซึ่งผ้าสใบมอญมาตรฐานจะมีความกว้าง   5 นี้ว ยาว 2 เมตร แรกๆฝีมือก็ยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะ  ราคาก็จะอยู่ที่  500, 600, 700 บาทเป็นต้น  ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของลาย เป็นต้น  หลังจากนั้นได้มีการพัฒนาฝีมือเพิ่มมากขึ้นราคาสูงถึงผืนละ 1,000 บาทจนเป็นที่ยอมรับของชุมชน

ที่นี่ก็ได้มีการสอนรำให้เด็กๆเขาเรียกว่าลำพาข้าวสาร วัดมะขามนี้เป็นวัดเก่าแก่ ที่ได้มีการตักบาตรพระร้อยวัดแรกของจังหวัดปทุมธานี   ชาวบ้านวัดมะขามเป็นคนที่มีฝีมือมีความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนา  ซึ่งมองว่าประวัติศาสตร์ของเราแถวนี้เป็นถิ่นฐานของมอญ  ก็พยายามทำให้ชาวบ้านเขาชื่นชมในบรรพบุรุษของเราถิ่นฐานที่เราอยู่   ท่านเจ้าคุณพระราชเตจิยาภิบาลเจ้าอาวาสวัดโบสถ์  ได้สนับสนุนให้งบประมาณมาหนึ่งหมื่นบาท  ให้มาช่วยทำธงตะขาบให้หน่อยเพราะทางกลุ่มของตนเองไม่มีงบสนับสนุนจากหน่วยงานใดเลยทั้งภาครัฐและเอกชน  โดยทางกลุ่มได้ทำธงตะขาบด้วยการพัฒนาคือทำให้สวยงามทำแล้วไม่น่ากลัวเพราะธงตะขาบบางอย่างก็น่ากลัว  ทำให้น่ารัก   ซึ่งทางกลุ่มก็จะสอดแทรกเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในการเสริมแต่งธงตะขาบแต่ละผืนก็ใช้งบเยอะซึ่งทางกลุ่มของเราก็พยายามอย่างเต็มที่แต่ทางเราก็ไม่มีแรงสนับสนุนเพราะว่าชาวบ้านมีความจนอยู่แล้ว   บางครั้งต้องใช้เงินบำนาญไปหาซื้อผ้าและสิ่งของต่างๆเพื่อมาทำผ้าสไบมอญและธงตะขาบ ขณะที่ทำออกมาก็ไม่มีหน่วยงานใดให้ความสนใจทั้งๆที่งานฝีมือแบบนี้หายากมาก จนเกิดความท้อที่จะรักษาเอกลักษณ์ของชาวมอญไว้ได้  ก็มาเจอกับน้องเล็ก  (ธนาพร  เพ็ชรรัตน์ ) ให้มาช่วยกันว่าเราจะรักษาวิถีชีวิตและประเพณีของชาวมอญไว้ได้อย่างไร      มีชมรมชาวไทยเชื้อสายรามัญที่เพิ่งเริ่มก่อตั้งขึ้นมาทางกลุ่มก็ได้เข้าเป็นสมาชิกเพื่อจะได้ร่วมช่วยกันผลักดันวัฒนธรรมประเพณีมอญของเราให้สืบต่อไปอย่างน้อยๆผ้าสไบมอญธงตะขาบที่ทางกลุ่มทำออกมาในแต่ละชิ้นนั้นต้องใช้ฝีมือล้วนๆแต่ละผืนก็ต้องใช้เวลานานพอสมควรบางผืนก็เกือบถึง 1 เดือนมีลวดลายสลับสลับซับซ้อนมากๆบางพื้นก็ใช้เวลาประมาณ 1 อาทิตย์หรือ 2 อาทิตย์ขึ้นอยู่กับลวดลาย  ย้อนหลังไปแต่เดิม ผ้าสไบมอญไม่ได้ใช้แบบนี้ผู้ชายก็จะใช้ผ้าขาวม้าส่วนผู้หญิงก็จะใช้ผ้าต่วนต่อมาก็ได้มีการพัฒนาในการทำผ้าสไบมอญประดับด้วยดอกไม้ลายและสีสันต่างๆให้เกิดดูความสวยงามและเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของชาวมอญ

สำหรับลวดลายต่างๆที่นำมานั้นก็ไปศึกษาจากสถานที่อื่นๆอย่างเช่นมอญพระประแดงมอญสังขละบุรีหรือหลายๆแห่งที่ไปศึกษาวิถีชีวิตของชาวมอญในแต่ละท้องถิ่นนั้นๆนำมาปรับปรุงและประยุกต์ให้เป็นเอกลักษณ์ของชาวมอญอย่างแท้จริง

ส่วนประเพณีถวายธงตะขาบการถวายธงตะขาบเป็นประเพณีที่ชาวไทยรามัญเมืองปทุมธานีถือปฏิบัติกันในเทศกาลวันสงกรานต์จะกระทำกันที่เสาร์ของหน้าเจดีย์หรือโบสถ์วิหารอันเป็นสัญลักษณ์ของชาวรามัญแห่งหงสาวดีเสาหงส์ทำด้วยไม้กลมหรือไม้เหลี่ยมมีเสาประกบคู่ประดับด้วยบัวหัวเสาที่ปลายเสามีรูปหงส์ทรงเครื่องหล่อด้วยโลหะยืนอยู่ปลายเสากางปีกทั้งสองข้างที่จะงอยปากหงษ์แขวนด้วยกระดิ่งบนสุดมีฉัตร 3 ชั้น ปักอยู่  ชาวรามันเรียกเสาหงส์ว่า  “เทียะเจมเจียนู่” ประเพณีถวายธงตะขาบจะจัดทำกันในวันสุดท้ายของวันสงกรานต์  ที่ศาลาวัดโดยใช้ผ้าเป็นพื้นยาวตัดเป็นรูปตัวตะขาบใส่ไม้ไผ่เป็นระยะๆตลอดพื้นติดธงเล็กๆที่ซี่หัวไม้ไผ่  เมื่อเสร็จแล้วดูใกล้ๆคล้ายตัวตะขาบชาวรามันเรียกธงนี้ว่า  ”อะลามเทียะกี้” หลังจากทำเสร็จแล้วในตอนบ่ายก็จะมีการแห่ธง โดยช่วยกันจับขอบธงตลอดทั้งผืน    แห่ธงไปตามหมู่บ้านมีขบวนเถิดเทิงกลองยาวประกอบขบวน  เสร็จแล้วนำมาทำพิธีถวายธงที่หน้าเสาหงส์แล้วชักธงขึ้นอยู่ยอดเสาเพื่อเป็นการบูชาพระพุทธเจ้าและสืบสานประเพณีต่อมาจนถึงปัจจุบัน
 
 

หน้าแรก » ภูมิภาค