วันเสาร์ ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 10:59 น.

ภูมิภาค

ไฟไหม้ป่าพรุกระจูด แหล่งพักผ่อนของคนชุมพรแห่งใหม่ ควันปกคลุมกระจายแล้ว 2 ตำบล

วันเสาร์ ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2567, 20.06 น.

เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 20 เม.ย.67 นายนพพร  มีสติ  ปลัดอาวุโสอำเภอเมืองชุมพร จ.ชุมพร เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบไฟไหม้ป่าพรุกระจุด ซึ่งเป็นแหล่งพักผ่อนเป็นสถานที่ออกกำลังกายและเป็นแห่งท่องเที่ยวชมป่าพรุกระจูด พื้นที่ทั้งหมด 860 ไร่ งบประมาณเกือบ 30 ล้านบาท ในการจัดสร้างปรับปรุงภูมิทัศน์ ซึ่งตั้งอยู่รอยต่อระหว่างตำบลปากน้ำและตำบลหาดทรายรี อำเภอเมืองชุมพร ขณะที่รถดับเพลิงประมาณ 5 คันรวมทั้งรถดับเพลิงของทหาร มทบ.44 จ.ชุมพร อีก 1 คันร่วมระดมฉีดน้ำสกัดป้องกันไฟลุกลามติดบ้านเรือนชาวบ้าน พื้นที่การเกษตรและสิ่งปลูกสร้างฝั่งจุดพักผ่อน “พรุกระจูด”
        
จาการตรวจสอบสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อน “พรุกระจูด” แบ่งออกเป็น 2 โซนโดยมีถนนลาดยางตัดผ่านกลางฝั่งซ้ายจัดไว้เป็นสนามหญ้าและถนนลานสำหรับวิ่งออกกำลังกายมีศาลาสร้างไว้ให้นั่งพักผ่อน ศาลากลางน้ำ  พร้อมกับสระน้ำสำหรับจัดกิจกรรมตามประเพณีโดยเฉพาะจัดงานลอยกระทง ส่วนอีกฝั่งถนนได้สร้างสะพานปูนซีเมนต์ มีลวดลายลักษณะคล้ายสร้างด้วยไม้มีความยาวประมาณ 300-400  เมตรเป็นรูปตัวยูสร้างให้นักท่องเที่ยวไว้เดินชมป่าพรุกระจูดที่ขึ้นแพร่กระจายไปทั่วบริเวณกว้างนับร้อยไร่ ห่างจากสะพานประมาณ 10 เมตรพบว่ามีร่องรอยไฟไหม้พรุกระจูดและกำลังค่อยๆลุกลามเรื่อยๆและเป็นวงกว้าง 
       

ขณะเดียวกันมีรถดับเพลิงของงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลปากน้ำชุมพร   รถดับเพลิงองค์การบริหารส่วนตำบลปากน้ำ   รถดับเพลิงเทศบาลตำบลหาดทรายรี  องค์การบริหารส่วนตำบลหาดทรายรี  และรถดับเพลิงของทหาร มทบ.44 จ.ชุมพร พร้อมเจ้าหน้าที่ระดมกำลังช่วยกันฉีดน้ำสกัดเลี้ยงไว้เพื่อไม่ให้เปลวไฟระอุขึ้นมาอีก แต่บางจุดเอาไม่อยู่เนื่องจากมีลมแรงและพร้อมเกิดเปลวไฟลุกลามขึ้นมาอีกเป็นบางจุดและง่ายที่ระอุเนื่องจากพื้นที่พรุกระจูดชั้นล้างเป็นไม้แห้งเกือบทั้งหมดซึ่งง่ายต่อการติดไฟ
        
อีกทั้งการทำงานเข้าสกัดเพลิงค่อนข้างลำบากเพราะว่าพื้นที่ป่าพรุกระจูดมีพื้นที่กว้าง ต้องจอดรถดับเพลิงไว้บนถนนไม่สามารถเข้าใกล้กลุ่มเพลิงได้ สายดับเพลิงมีความยาวหลายสิบเมตรก็ไม่เพียงพอ โดยเจ้าหน้าที่ใช้วิธีต่อสายให้ยาวที่สุดพร้อมเดินลุยป่าเข้าสกัดเพลิง ส่วนอีกด้านที่ติดแนวเขตของหมู่ 4 และหมู่ 6 ตำบลปากน้ำ รถดับเพลิงของ อบต.ปากน้ำและรถดับเพลิงของทหารระดมฉีดน้ำและเร่งทำแนวกันไฟไม่ให้ลุกลามเข้าพื้นที่สวนปาล์มและสวนยางของชาวบ้าน ขณะเดียวกันที่ใกล้กับป่าพรุกระจูดจุดเกิดเหตุชาวบ้านกำลังจัดเลี้ยงงานบวชทำให้ควันไฟลอยปกคลุมไปถึงแต่ไม่มากนัก
      

ทางด้านนายพงศกร  เนื่องชุมพร  นายก อบต.ปากน้ำ  กล่าวว่า เกิดเปลวไฟขึ้นเล็กน้อยบริเวณกลางป่าพรุกระจูดตั้งแต่เมื่อวานช่วงเช้า กระทั่งเที่ยงคืนลามขึ้นเรื่อยๆไปจนถึงแนวเขตสวนปาล์มของชาวบ้านทาง อบต.นำรถดับเพลิงระดมกำลังช่วยดับไฟจนถึงตี 3 จนข้ามคืน ในช่วงเช้ามืดพอลมพัดไฟก็ระอุขึ้นมาอีก แต่ขณะนี้สามารถป้องกันแนวเขตไม่ให้ไหลุกลามได้ประมาณ 70-80 เปอร์เซ็นต์
      
นายก อบต.ปากน้ำ  กล่าวอีกว่า เกิดเหตุการณ์ขึ้นทุกปี เนื่องจากมีมีชาวบ้านเข้าไปตีผึ้งตีต่อ แล้วทิ้งคบเพลิงคบไฟทำให้เกิดไฟไหม้ บางทีก็เข้าไปเกี่ยวหญ้าแล้วทิ้งก้นบุหรี่ไว้  สาเหตุส่วนใหญ่มาจากพฤติกรรมแบบนี้เกือบทั้งหมด  อยากให้หน่วยงานใหญ่ๆเข้ามาดูแลเขตพื้นที่ท้องถิ่นเรื่องทางอบต.ปากน้ำ และหาดทรายรี จะของบประมาณจัดทำคันดินร่องน้ำเป็นแนวกันไฟรอบพรุกระจูด  พื้นที่ทั้งหมดของพรุกระจูดจำนวน 860 ไร่ติด 2 ตำบลปากน้ำและตำบลหาดทรายรี


        

สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว เปลวไฟยังไม่ได้ลุกลามไปเขตพื้นที่ทำกินและที่อยู่อาศัยของชาวบ้าน และไม่ได้รับความเสียหายเนื่องจากได้ทำแนวกันไฟไว้แล้ว แต่ชาวบ้านทั้ง 2 ตำบลได้รับผลกระทบจากควันไฟจากลมที่พัดพาไป  สถานการณ์ปัจจุบันป่าพรุกระจูดที่แนวเขตติดตำบลปากน้ำ หมู่ 1, 4, 6 ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว ส่วนด้านที่ติดกับ ตำบลหาดทรายรี ขณะนี้ช่วยกันระดมกำลังเร่งทำแนวกันไฟคาดว่าคงไม่มีปัญหาอะไรเพราะทหารนำกำลังพลลงมาช่วยด้วย” นายก อบต.ปากน้ำกล่าว


 

หน้าแรก » ภูมิภาค