วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 เวลาประมาณ 16.00 น. จอ.ธนากร เมืองสำนัก หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองนครพนม (หน.ปภ.ทม.ฯ) ได้รับการประสานจากศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้เมรุวัดศรีเทพประดิษฐาราม ถนนศรีเทพ ทม.นครพนม จึงระดมเจ้าหน้าที่นำรถบรรทุกน้ำเพื่อเข้าดับเพลิงเมรุเผาศพที่ตั้งอยู่ด้านหลังวัด โดยมีเปลวไฟลุกไหม้บริเวณใต้เมรุ ในขณะที่ด้านบนกำลังเผาศพผู้เสียชีวิตอยู่ ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงจึงควบคุมเพลิงไว้ได้ โดยมีนายวัฒนศักดิ์ เจียวิริยบุญญา และ นายโชคดี มังคละคีรี รองนายกเทศบาลเมืองนครพนม มาร่วมในการดับเพลิงครั้งนี้ด้วย

หลังเพลิงสงบทราบจากคำบอกเล่าของนายภาคิน พิมพา อายุ 58 ปี ว่า ก่อนเกิดเพลิงไหม้เมรุ ทางครอบครัวได้ฌาปนกิจศพน้องชายชื่อนายนิธิศ พิมพา หรือขอด อายุ 54 ปี ที่เสียชีวิตจากโรคลมแดดหรือฮีทสโตรก เมื่อวันที่ 29 เมษายน ที่ผ่านมา โดยมีกำหนดเผาศพในวันนี้ หลังผ่านพิธีการต่างๆแล้ว สัปเหร่อก็นำศพเข้าไปในช่องเผาด้านขวา ที่มีอยู่ด้วยกันสองช่อง จุดไฟจนลุกโชนแล้วปิดฝาเตาเผา ตนพร้อมกับญาติก็ช่วยกันเก็บข้าวของในศาลาสวดศพ ระหว่างนั้นมีคนตะโกนขึ้นมาว่าไฟไหม้ๆ หันมาเห็นเปลวไฟลุกไหม้จากห้องที่อยู่ชั้นล่าง ตรงที่เผาศพน้องชาย จึงหาน้ำมาช่วยสาด แต่ไฟลุกโหมแรงจึงแจ้งไปยังศูนย์วิทยุ 191 ดังกล่าว

นายภาคินเล่าต่อว่า วิญญาณน้องชายคงเฮี้ยนมาก เพราะตั้งแต่วันที่เสียชีวิต บ้านคนอื่นไฟฟ้าติดหมด มีเพียงหลังเดียวที่ไฟฟ้าดับ วันนี้ลอตเตอรี่ออกเลขท้าย 2 ตัวออก17 ก็ไปตรงกับเลขที่บ้าน 117 แถมขณะเผาไฟยังมาไหม้อีก ตนเชื่อว่าวิญญาณน้องเฮี้ยนตามความเชื่อ ในขณะที่ไฟไหม้เมรุตนก็บอกวิญญาณน้องว่าไปสู่สุคติในภพภูมิที่ดี ไม่ต้องมาทำให้คนอื่นหวาดกลัว

ด้าน นายปรีชา ไกยสิทธิ์ หรือเปี๊ยก อายุ 53 ปี สัปเหร่อวัดศรีเทพ เปิดเผยว่าตนทำหน้าที่เผาศพตามกระบวนการทุกขั้นตอน ขณะรอไฟมอดเห็นควันไฟโขมงอยู่ด้านล่าง ด้วยความกลัวก็โดดออกจากหน้าเตาเผา มายืนดูอยู่ข้างเมรุว่าเกิดเหตุการณ์อะไร ก็ทราบสาเหตุเป็นสะเก็ดไฟที่ร่วงจากการเผาศพด้านบน กระเด็นตกลงมาถูกโลงศพเปล่าที่อยู่ในห้องด้านล่าง จนเกิดเพลิงไหม้ดังกล่าว ส่วนศพตนได้ขึ้นไปดู พบว่าไฟเผาจนมอดไหม้หมดแล้ว

ในขณะเดียวกัน พระมานพ อุฏฐายี อายุ 56 ปี พรรษาที่ 14 พระลูกวัดศรีเทพฯ ผู้รับผิดชอบเมรุเผาศพ เปิดเผยว่าห้องด้านล่างมีไว้สำหรับเก็บกระดูกคนตาย ที่หลงเหลือจากการร่วงลงมาจากด้านบน บังเอิญในห้องมีโลงศพเปล่าของคนตายเก็บไว้ ปกติก่อนจะฌาปนกิจต้องนำโลงออกมา แต่ครั้งนี้ทุกคนลืมสนิท สะเก็ดไฟขณะเผาจึงหล่นลงมาไหม้ดังกล่าว ทำให้สิ่งของที่อยู่ด้านล่าง ส่วนใหญ่เป็นของคนตายมอดไหม้หมด

ทางด้าน จอ.ธนากร เมืองสำนัก หน.ปภ.ทม.นครพนม เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เพลิงลุกไหม้อยู่ห้องด่านล่างเมรุเผาศพ ได้ระดมน้ำฉีดจนควบคุมเพลิงอยู่ในวงจำกัด ต้นเพลิงมาจากด้านบนที่กำลังเผาศพอยู่ เป็นสะเก็ดไฟกระเด็นลงมาไหม้โลงเปล่าที่อยู่ในห้อง ซึ่งตอนนี้มีเพียงควันกรุ่นๆ ต้องเฝ้าระวังสักระยะถึงจะถอนกำลังกลับที่ตั้ง

ทั้งนี้ เมรุวัดศรีเทพประดิษฐาราม เป็นที่เผาศพแบบเก่า ใช้ถ่านเป็นเชื้อเพลิง ผ่านการใช้งานมาหลายสิบปี คาดว่าต่อจากนี้คงใช้ฌาปนกิจศพไม่ได้ ต้องทุบทิ้งสร้างให้ใหม่เป็นระบบไฟฟ้า หากดันทุรังเผาศพต่อไป อาจเกิดการทรุดตัวของตัวเมรุพังทลายลงมาได้ โดยจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดอีกครั้ง