เกิดเหตุไฟไหม้กุฎิวัดดัง ในช่วงอากาศร้อนอบอ้าว รถดับเพลิงระดมช่วยเหลือ สุดท้ายไหม้กุฎิวอด 2 หลัง อีก 2 หลัง ติดกันเสียหายเพียงเล็กน้อย พระลูกวัดเจ้าของกุฏิต้นเพลิงเผย ทั้งวัดมีพระอยู่ 7 รูป ไปสวดงานศพทั้งหมด ขากลับมาถึงวัดเห็นไฟไหม้กุฎิ พยายามดับไฟแต่ไม่เป็นผล ชาวบ้านมาให้กำลังใจ คาดไฟฟ้าลัดวงจร

วันที่ 6 พ.ค 67 เวลาประมาณ 19.30 น. ร.ต.อ มิตร ศรีบุญเรือง รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.หนองสองห้อง อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีเหตุไฟไหม้กุฏิ วัดบ้านหนองมะเขือ ต.สะแกโพรง อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ จึงประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิง อบต. สะแกโพรง ,อบต.เมืองฝาง ,เทศบาลบ้านบัว และหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมบุรีรัมย์  นำรถดับเพลิงช่วยกันสนับสนุนที่เกิดเหตุ


ที่เกิดเหตุ พบไฟกำลังโหมลุกไหม้กุฏิอย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ดับเพลิง ระดมนำรถน้ำกว่า 6 คัน ช่วยกันสกัดเพลิงด้วยการฉีดน้ำ แต่เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากช่วงเกิดเหตุมีลมกระโชกเข้ามา จึงทำให้เปลวไฟลามไปยังกุฏิอีกหลังหนึ่งที่ติดกัน และกำลังจะลุกลามไปยังอีก 2 กุฎิ

เจ้าหน้าที่ใช้เวลานานกว่า 1 ชม.จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ตรวจสอบเบื้องต้น พบมีกฏิเสียหายวอดทั้งหลังจำนวน 2 หลัง อีก 2 หลังได้รับความเสียหายเพียงบางส่วน โดยมีชาวบ้านมาคอยช่วยและให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก

จากการสอบถามพระณัฐวุฒิ โอรถรัมย์ อายุ 30 ปี พระลูกวัดที่เพิ่งบวช ได้1 พรรษา เจ้าของกุฏิหลังต้นเพลิงเล่าว่า ภายในวัดมีพระจำพรรษา อยู่ทั้งหมด 7 รูป ช่วงเกิดเหตุ ไม่มีพระอยู่เนื่องจากไปสวดงานศพชาวบ้านในหมู่บ้าน

ขากลับถึงวัดตนเองเห็นเปลวไฟลุกไหม้กุฏิตนเอง จึงรีบคว้าถังน้ำมาดับไฟ แต่ไม่สามารถดับได้ ยอมรับตกใจแทบจะเป็นลม กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเสียขวัญ จนชาวบ้านต้องพยุงมานั่งพัก ชาวบ้านรีบนำนำยาดมมาให้ และนำด้ายสายสิธ์มาเพื่อเรียกขวัญ

ด้าน นายกิตติ์ธนา อุไรรัมย์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่14  บ้านหนองมะเขือ กล่าวว่า วัดนี้มีชาวบ้านร่วมกัน 3 หมู่บ้าน กุฏิหลังที่ไหม้นี้ สร้างมานานกว่า 13 ปี เบื้องต้นคาดสาเหตุน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรบวกกับสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวมาตลอดหลายวันที่ผ่านมา  ทั้งนี้ต้องรอตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบถึงสาเหตุอีกครั้ง