วันอังคาร ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 02:47 น.

ภูมิภาค

นครพนมเลือกตั้งท้องถิ่นฝุ่นตลบ เอาไง !! คนก้าวไกลโผล่ชิงแคนดิเดตนายก อบจ.นครพนมถึง 2 คน

วันศุกร์ ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2567, 17.48 น.

เมื่อปลายปี 2566 พรรคก้าวไกลเปิดรับสมัครผู้ลงเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) พร้อมสมาชิกสภาจังหวัด (ส.อบจ.) รอบแรก จำนวน 16 จังหวัด ส่วนจังหวัดอื่นๆจะทยอยเปิดรับสมัครในรอบถัดไป โดยทั้งนายกและสมาชิกสภา จะครบวาระ 4 ปีทั่วประเทศ 76 จังหวัด ในวันที่ 20 ธันวาคม 67 ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องจัดให้มีการเลือกตั้ง ภายใน 45 วันตามที่กฎหมายกำหนด คือไม่เกินวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 ในภาพกว้างการเลือกตั้งสนามท้องถิ่น มีพรรคการเมืองหลัก ที่เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครอย่างเป็นทางการ เท่าที่ทราบมีเพียง 2 พรรคเท่านั้น คือ 1.ก้าวไกล 2.เพื่อไทย  นอกจากยังไม่ขยับ คาดกำลังคัดเลือกตัวผู้สมัครอยู่

ในส่วน จ.นครพนม นายก อบจ.คนปัจจุบันคือ นางสาวศุภพานี โพธิ์สุ หรือน้องขวัญ เป็นเจ้าของตำแหน่ง ถึงอย่างไรก็ต้องขึ้นเวทีป้องกันแชมป์แน่นอน โดยผู้ท้าชิงในเวลานี้ มีเพียงผู้เดียวคือนายอนุชิต หงษาดี หรือนายกเบียร์ นายก อบต.โพนสวรรค์ ขุนพลช้างศึกคนสำคัญของ ดร.เดือน-มนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม/ส.ส.นครพนม เขต 2 พรรคเพื่อไทย โดยเมื่อต้นเดือน พค.ที่ผ่านมา ทางพรรคเพื่อไทยได้ประกาศชื่อเป็นคาดิเดตในการลงชิงนายก อบจ.นครพนม ปี 2568 นี้ ในขณะที่พรรคอื่นยังนิ่ง โดยเฉพาะพรรคก้าวไกลที่หลายคนจับจ้องว่า จะส่งใครลงสมัครนายก อบจ.นครพนม ก็ยังไม่มีสัญญาณชัดเจนจากกรมการบริหารพรรค

อย่างที่ทราบกันว่าพรรคก้าวไกลผงาดขึ้นอันดับหนึ่ง ในการเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วประเทศปี 2566 เพราะได้ ส.ส.มากถึง 151 คน รองลงมาเป็นพรรคเพื่อไทย  141 คน ทำให้นักเลือกตั้งหันสปอร์ตไลท์ไปพรรคนี้จำนวนมาก ในส่วนของ จ.นครพนม ก้าวไกลมีสมาชิกพรรคเดิมอยู่แล้ว ก็คืออดีตผู้สมัคร ส.ส.ปี 2566 หลังก้าวไกลได้คะแนนจากประชาชนท่วมท้น ชนิดหักปากกาเซียน แม้จะไม่สมหวังในตอนโหวตนายกรัฐมนตรี นักเลือกตั้งในพื้นที่ก็แห่มาอยู่พรรคนี้เยอะ แต่ยังกระมิดกระเมี้ยนไม่กล้าเปิดตัวเต็มที่ อาทิ ดร.สมชอบ นิติพจน์ อดีตนายก อบจ.นครพนม ลูกผู้ชายตัวจริง ทนเสียงรบเร้าของลูกน้องคนสนิทไม่ได้ ก็มาซบอยู่พรรคนี้เรียบร้อยแล้ว แม้โลดแล่นบนถนนการเมือง ก็ไม่ได้ประกาศเป็นคาดิเดตนายก อบจ.ฯ  แต่ที่ทำให้เกินความคาดหมาย น่าจะเป็นกรณี “คุณหมอผู้มีแต่ให้” นายแพทย์ประสงค์ บูรณ์พงศ์ นักการเมืองอาวุโส ดีกรี รมต.หลายกระทรวง และ ส.ส.นครพนม 13 สมัย มีชื่อโผล่เป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล หลังไปได้คาถามหาระรวยจากสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี หรือสมเด็จธงชัย วัดไตรมิตรฯ กทม. ก็ออกเดินสายหาเสียงตุนคะแนน อ้อนชาวบ้านขอเป็นนายก อบจ.นครพนมในวัยใกล้ 90 ปี

ต้องยอมรับอย่างไม่มีข้อสงสัยว่า คุณหมอสงค์สะสมบารมีไว้เยอะ คาดได้เช็คสรรพกำลังแล้วมีโอกาสสูง จึงกล้าท้าชนคนหนุ่มคนสาวรุ่นหลานชิงเก้าอี้ตัวนี้ แต่สิ่งที่หลายคนข้องใจคือ รู้ทั้งรู้ว่า ดร.เดือน-มนพร เจริญศรี ซึ่งเป็นบุตรบุญธรรมของหมอสงค์ ประกาศส่งนายกเบียร์สู้ศึกกับแชมป์เก่าแล้ว ทำไมหมอสงค์ถึงแหกกำแพงสัมพันธ์นี้เสียเล่า แม้คุณหมอยืนยันมาตลอดว่า ไม่มีเรื่องขัดแย้งกับลูกสาว เพียงแค่อยากเป็นนายกฯกับเขาสักครั้ง รมต.หรือ ส.ส.ก็เป็นมาหมดแล้ว เหลือนายก อบจ.ฯนี่แหละ

ทางด้าน ดร.เดือน มนพร กล่าวว่า คุณพ่อมีความคิดเป็นของตนเอง เคารพในการตัดสินใจ จะไม่ขอก้าวก่าย ปกติโทรคุยกับคุณพ่อประจำ แต่ไม่ได้คุยกันเรื่องการเมือง

นพ.ประสงค์ บูรณ์พงศ์ ถึงแม้ไม่ได้เปิดตัวเต็มที่ ว่า ลงสมัครชิงนายก อบจ.นครพนม ในนามพรรคก้าวไกล แต่ก็เกริ่นเป็นนัยๆ อาจจะสวมเสื้อสีส้ม ซึ่งเรื่องนี้ ดร.สมชอบ นิติพจน์ อดีตนายกฯ บอกกับเพื่อนในแวดวงการเมือง ว่าหากคุณหมอลงนายก อบจ.ฯจริง  จะยอมลดชั้นเป็นรองนายกฯ เพราะคุณหมอมีพระคุณต่อตน ทั้งยังเป็นการขจัดปัญหาช่วงชิงคะแนนกันเอง เพราะได้บทเรียนจากพรรคเพื่อไทย ครั้งส่งผู้สมัคร ส.ส.ปี 66 ทับซ้อนกันเอง สุดท้ายตาอยู่คว้าพุงปลาไปกิน

เดิมทีการต่อสู้ในสนาม อบจ.นครพนม คาดการณ์น่าจะมีแค่ 3 กลุ่มเท่านั้น คือ 1.ทีมนายกขวัญ กลุ่มนครพนมร่วมใจ 2.ทีมนายกเบียร์ กลุ่มฮักนครพนม และ 3.ทีมคุณหมอประสงค์ ซึ่งยังไม่ได้ตั้งชื่อกลุ่ม จู่ๆนายโกศล เหมพลชม ซึ่งเป็นอีกคนหนึ่งที่เป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล ประกาศโต้งๆว่าเป็นคาดิเดตชิงนายก อบจ.นครพนม  จึงเกิดคำถามขึ้นมาทันที ใครคือตัวจริงที่ก้าวไกลเคาะชื่อกันแน่ ทั้งหมอสงค์และนายโกศล แต่เท่าที่ทราบทางกรรมการบริหารพรรค ยังไม่เลือกผู้หนึ่งผู้ใดเป็นคาดิเดต ประกอบกับผู้ดูแลสมาชิกพรรคในพื้นที่นครพนม ไม่ถึงขั้นยืนยันแต่พูดว่า พื้นที่นครพนมก้าวไกลขอเกียร์ว่าง ไม่ส่งใครลงชิงนายก อบจ.นครพนม ส่วนในอนาคตจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ณ เวลานี้ยังตอบไม่ได้  

ทางด้าน น้องขวัญ-นางสาวศุภพานี โพธิ์สุ นายก อบจ.นครพนม คนปัจจุบัน ก่อนหน้านี้เคยให้สัมภาษณ์ครั้งหนึ่งแล้ว ยืนยันจะไม่ลาออกจากตำแหน่งก่อนครบวาระ โดยกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่ายังมีความสุขอยู่กับงานที่ทำให้ประชาชน อีกทั้งการมีคู่แข่งในสนามเลือกตั้ง ถือเป็นความสวยงามของระบอบประชาธิปไตย สุดท้ายประชาชนจะเป็นคนตัดสินเอง

จ.นครพนมมีจำนวนประชากร  ประมาณ 716,647 คน (สถิติปี 2565) มี 12 อำเภอ 99 ตำบล 1,130 หมู่บ้าน วิเคราะห์สนามเลือกตั้ง คู่ชิงที่ชัดเจนแน่นอน มีเพียงกลุ่มนครพนมร่วมใจ น้องขวัญเป็นผู้ถือธงนำ กับกลุ่มฮักนครพนมของนายกเบียร์ ส่วนรายอื่นๆ เหมือนเป็นการหยั่งเชิงเอาเท้าจุ่มน้ำ โหมโรงวัดกระแสนิยม  หากคะแนนไม่เป็นที่พอใจ คงจะล่าถอยไปเอง ขณะที่นายกขวัญนั่งตีขิมสบายใจ รอชมหน้าตาทีมผู้ท้าชิงหรือพรรคไหนจะส่งเข้าประกวดบ้าง

 ทั้งนี้ การเลือกตั้งนายก อบจ.ฯ มีประชาชนเข้าคูหากาบาทเลือกทั้งจังหวัด ไม่เหมือนเลือกตั้ง ส.ส.ที่แบ่งเป็นเขตๆ คะแนนส่วนหนึ่งมาจากความนิยมในตัวผู้สมัคร และมีคะแนนพรรคสมทบ ดังนั้นถ้าฐานเสียงไม่ปั๋งจริง ผู้สมัครรายนั้นคงเป็นได้แค่ผู้สร้างสีสันหรือไม้ประดับเท่านั้น

สำหรับสถิติการเลือกตั้งนายก อบจ.นครพนม ปี 2563 ที่ผ่านมา มีผู้สมัครทั้งหมด 5 คน  เรียงลำดับคะแนนจากมากไปหาน้อย 1.นางสาวศุภพานี โพธิ์สุ 161,962 คะแนน 2.ดร.สมชอบ นิติพจน์ 110,580 คะแนน 3.นายณพจน์ศกร ทรัพยสิทธิ์ 49,983 คะแนน 4.นายเฉลิมชัย ทิศแดง 5,783 คะแนะ และ 5.นายจุมพล วงศ์กาฬสินธุ์ 633 คะแนน

ทั้งนี้ การเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) เป็นการเลือกตั้งท้องถิ่นภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 และ พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 โดยนายก อบจ.มีวาระคราวละ 4 ปี นับแต่วันเลือกตั้ง แต่จะดำรงตำแหน่งติดต่อกันเกิน 2 วาระไม่ได้  ในกรณีอยู่ไม่ครบ 4 ปีก็ให้ถือว่าเป็น 1 วาระ และเมื่อได้ดำรงตำแหน่ง 2 วาระติดต่อกันแล้ว จะกลับมาสมัครเป็นนายกฯ ได้อีก เมื่อพ้นระยะเวลา 4 ปีนับแต่วันพ้นตำแหน่ง ส่วน ส.อบจ.มีกำหนดคราวละ 4 ปีนับแต่วันเลือกตั้ง และไม่ต้องเว้นวรรคทางการเมือง

หน้าแรก » ภูมิภาค