จากกรณีเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมาจังหวัดชุมพรเกิดฝนตกหนักในทะเลมีคลื่นลมแรง ทำให้มีเรือประมงพื้นบ้านออกหาปลาเลี้ยงชีพบางคนเล่นเรือกลับเข้าฝั่งไม่ทันเรือล่มทั้งหมด 4 ลำจาก 3พื้นที่ประกอบด้วยอำเภอหลังสวน  อำเภอทุ่งตะโก และอำเภอสวีมีผู้ประสบภัย 5 คนซึ่งทั้งเป็นชาวประมงออกลากเบ็ดปลาอินทรี   
          
หลังเกิดเหตุผู้ประสบภัยจากเรือล่มมีกู้ภัยฯทางทะเลเข้าช่วยเหลือไว้ได้ 4 คน และยังสูญหายในพื้นที่อำเภอสวีอีก 1 รายคือนายมงคล  หีตฤทธิ์  อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24/1 หมู่ 4 ตำบลด่านสวีอ.สวี จ.ชุมพร ชาวบ้านได้นำเรือออกค้นหาตลอดในช่วงการสูญหาย จนกระทั่งข้ามคืนแต่ยังไม่พบตัวนายมงคล
        
ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 14 พ.ค.นายไตรทิพย์  สกุลประดิษฐ์  นายอำเภอสวี  นางสาวนนท์ลภัส  ชูสอน ปลัดอาวุโสอำเภอสวี  นายบุญก้อง  ศรีสงคราม  ปลัดอำเภอสวีหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง นายอัศนัย  ไชยะ  ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 บ้านบ่อคา ตำบลด่านสวีและเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.สวี พร้อมด้วยชาวบ้านจำนวนมากคอยเฝ้ารอรับนายมงคล ชายสูญหายจากเรือล่ม  
       
หลังจากได้รับแจ้งจากเรือชาวประมงที่ออกค้นหาว่าพบนายมงคลแล้วยังปลอดภัยดีขณะพาตัวเองไปเกาะเสาหลักลอบหมึกอยู่กลางทะเลห่างจากริมชายฝั่งประมาณ 4-5 ไมล์ทะเล  ต่อมานายอัมรินทร์  ฉ่ำมาลี อายุ 35 ปี เพื่อนชาวประมงกลับเข้าฝั่งทันและรอดตายมาได้จากคลื่นลมทะเลพัดแรง ได้ขับเรือออกไปรับนายมงคลกลับเข้าฝั่งบริเวณท่าเทียบเรือหมู่ 3 บ้านบ่อคา  
        
พบว่านายมงคลยังแข็งแรง เดินขึ้นมาจากเรือเองได้และพูดจาทักทายยิ้มแย้มยกมือไหว้ขอบคุณนายอำเภอสวี และเพื่อนบ้านที่มารอรับ โดยมีลูกชายและภรรยานายมงคล ติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด  นายมงคล  เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เมื่อวาน(วันที่ 13 พ.ค.)ตนได้ขับเรือหางยางไปออกตกปลาอินทรีห่างจากฝั่งประมาณ 10ไมค์ทะเล 
        
ช่วงกลางวันเกิดคลื่นลมแรงแบบฉับพลันพยายามนำเรือเร่งกลับเข้าฝั่งแต่ไม่ทันทำให้เกิดเรือล่ม ตนได้ไปคว้าแผ่นไม้กระดานเรือลอยคอไปเกาะติดอยู่กับเสาหลักลอบหมึก นายมงคล เล่าอีกว่าช่วงนาทีเป็นตายเท่ากันที่ลอยคออยู่กลางทะเลติดถึงหน้าลูกชาย ขอให้รอดชีวิต จนกระทั่งเช้าวันนี้มีเรือมาพบไว้ได้” นายมงคล เล่าเสร็จกู้ภัยก็นำตัวขึ้นรถส่งที่โรงพยาบาลสวีให้แพทย์ตรวจอาการอย่างละเอียดอีกครั้ง
         
ด้านนายอัมรินทร์   เพื่อนชาวประมง  เล่าว่า เมื่อวานก่อนเกิดเหตุได้ออกไปลากเบ็ดตกปลาอินทรีใกล้กับนายมงคล  แต่ระหว่างนั้นเกิดมีเมฆฝนและคลื่นลมแรงแบบฉับพลัน ตนและนายมงคลได้เร่งเครื่องเรือขับเข้าฝั่ง ซึ่งตนได้ถ่ายคลิปไว้ด้วย  แต่หันมองหลังไม่พบเรือนายมงคลคาดว่าเรือน่าจะล่มจึงติดต่อผู้ใหญ่บ้านและญาตินายมงคล ออกค้นหา
        
ส่วนนายอัศนัย  ผู้ใหญ่บ้าน  เล่าว่า ประมาณบ่าย 2 โมง เมื่อวาน(วันที่ 13 พ.ค.) ได้รับแจ้งจากภรรยาและพ่อแม่ผู้สูญหาย หลังจากนั้นได้ติดต่อผอ.อุทยานแห่งชาติจังหวัดชุมพร หน่วยงานจังหวัดชุมพร และศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล หรือ ศรชล. ให้ช่วยออกค้นหาและได้เจอผู้ประสบภัยจากเรือล่ม 1 ราย และยังสูญหายอีก 1 รายคือนายมงคล และได้มีชาวบ้านออกค้นหาต่อเนื่องจนกระทั่งพบตัวและปลอดภัยดี”