วันที่ 24 พ.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงาน จากกรณีอาจารย์ชายและน้องหญิง เปิดแดนธรรมสุขาววะดี ที่บ้านโนนตาแสง ต.กลางใหญ่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี เพื่อรักษาโรคแบบพิสดารให้กับประชาชนทั่วไป โดยอ้างว่าใช้คลื่นพลังบุญจากพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ที่ส่งมาจากแดนสวรรค์  โดยเปิดมาแล้ว 2-3 ปีมีประชาชนหลงเชื่อและศรัทธาเดินทางไปรักษา บางคนก็เชื่อว่าหายจริงๆ หายแล้วหลายโรค ทั้งโรคมะเร็ง เจ็บเข่า ปวดขา ปวดหลัง และภายหลังจากเป็นข่าวจากหน้าสื่อทีวีและนสพ. ปรากฏว่า น้องหญิงและอาจารย์ชายเดินสายออกทีวีคิวแน่นตลอด

โดยบ่ายวานนี้ (23 พ.ค.67) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่แดนธรรมสุขาววะดี ที่บ้านโนนตาแสง ต.กลางใหญ่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี เพื่อไปพบกับน้องหญิงและอาจารย์ชายอีกครั้ง ปรากฏว่า แดนธรรมฯ เงียบเชียบ ทั้งสองคนไม่อยู่ มีเพียงแม่ตุ๊ก อายุ 47 ปี ซึ่งเป็นลูกศิษย์และเป็นคนที่มอบที่ดินจำนวน 11 ไร่ให้เปิดเป็นแดนธรรมให้กับอาจารย์ชายและน้องหญิงอยู่เพียงคนเดียว

โดยแม่ตุ๊ก แจ้งว่า วันนี้อาจารย์และน้องหญิงไม่อยู่หลังจากไปออกรายการทีวีกลับมาถึงเมื่อวานตอนเช้า  ปรากฏว่า ช่วงเย็นเมื่อวานก็มีรถตู้มารับเพื่อไปขึ้นเครื่องบินไปออกรายการทีวีอีกรอบ น่าจะ 2-3 วันจะกลับมา ส่วนจะมารักษาโรคอีกหรือไม่ ตนเองตอบไม่ได้ ต้องให้น้องหญิงและอาจารย์เป็นคนตอบเอง แต่เชื่อว่าหากมีคนมาให้น้องหญิงและอาจารย์ช่วยก็คงจะช่วยแน่นอน แต่จะให้อาจารย์และน้องหญิงไปอยู่ที่อื่นคงไม่มีที่ไป เพราะตั้งแต่น้องหญิงและอาจารย์มาอยู่ใช่ว่าจะตั้งใจเปิด แต่มีชาวบ้านมาขอร้องให้ท่านรักษาโรคให้เท่านั้น แต่เชื่อว่าหลังจากกลับมาแดนธรรมรอบนี้ อาจารย์และน้องหญิงน่าจะไปพบกับหมอ เกี่ยวกับเรื่องอนุญาติเปิดรักษาโรคอยู่

ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ทางหน่วยงานด้านสาธารณสุขในจ.อุดรธานี กำลังดูข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากน้องหญิงและอาจารย์กลับมาแดนธรรมแล้วเปิดรักษาโรคให้กับประชาชนอีกหรือไม่ หากลับมาเปิดอีกอาจจะดูข้อกฎหมายเรื่องสถานที่ประกอบการโรคศิลป์ และใบอนุญาตรักษาโรคฯ เพื่อเอาผิดกับอาจารย์และน้องหญิงต่อไป