กรณีได้มีนักท่องเที่ยวชายวัย 30 ปีเข้าร้องศูนย์ดำรงธรรมกระบี่หลังเรียกแท็กซี่จากสนามบินกระบี่ไปยังศาลากลางจังหวัดกระบี่  มีการเสนอราคาค่าโดยสาร 2,500 บาทพร้อมบอกว่าหากไปจริงจะลดให้เหลือ 1,800 บาทเมื่อถามว่าใช้เวลาเดินทางเท่าไหร่ทางนั้นบอก 2 ชั่วโมงจึงโทรไปสอบถามทางญาติมาว่าจากสนามบินไปศาลากลางนั้นระยะทางแค่ไม่ถึง 20 กม. และเดินทางไม่เกินครึ่งชั่วโมงเท่านั้นจึงไม่ได้ใช้บริการเพราะทางญาติแจ้งว่าจะส่งคนมารับซึ่งหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวรู้สึกไม่สบายใจและอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าแก้ไขปัญหานี้ไม่อยากให้เกิดกับนักท่องเที่ยวรายอื่นจึงตัดสินใจเข้าร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกระบี่เพื่อเป็นอุทาหรณ์

ล่าสุดวันที่ 27 มิ.ย.67 กลุ่มรถแท็กซี่นำโดยนายอุกฤตนบนอบตัวแทนแท็กซี่สนามบินกระบี่เปิดเผยว่ากรณีที่เกิดขึ้นอาจมีการเข้าใจผิดสื่อสารกันไม่ชัดเจนคนขายแท็กซี่อาจฟังว่าต้องการไปศาลาด่านซึ่งอยู่บนเกาะลันตาแต่ลูกค้าต้องการไปศาลากลางจึงเสนอราคา 2500 บาทตามป้ายราคาหลังจากมีข่าวเผยแพร่ออกไปส่งผลกระทบอย่างหนักผู้โดยสารเรียกใช้บริการลดลงหันไปเรียกใช้บริการรถโดยสารผ่านแอปพิเคชั่นแทน

จึงไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจภูธรเหนือคลองเพื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดวันเวลาที่ผู้โดยสารคนดังกล่าวเรียกใช้บริการแท็กซี่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและเข้าเรียกร้องความเป็นธรรมกับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกระบี่

นายนาคิน เพ็ชรลุ ผู้จัดการสหกรณ์แท็กซี่มิเตอร์บริการสาธารณะประจำสนามบินกระบี่ กล่าวว่า หลังจากที่มีข่าวดังกล่าวออกไปตามสื่อต่างๆทำให้ผู้ประกอบการแท็กซี่บริการสาธารณะถูกโจมตีอย่างหนักจากสังคมเชื่อว่าบางทีอาจจะเป็นคู่แข่งทางธุรกิจมีการปล่อยข่าวทำให้ได้รับความเสียหายค่ารถบริการจากสนามบินไปศาลากลางจ.กระบี่ประมาณ 300 บาทแกร็ปไม่เกิน 200 บาทรถลีมูซีนประมาณ400 บาทรถประจำทางประมาณ 100 บาทจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการเรียกเก็บเงินจากผู้ที่จะใช้บริการถึง 2,500 บาท