วันที่ 3 กรกฎาคม 2567 เวลา 12.50 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ปรัชญา บูรณัติ ร้อยเวร สภ.บางเลน ได้รับแจ้งเหตุพบศพผู้เสียชีวิตลอยอยู่ในสระน้ำวัดเวฬุวนาราม หมู่ 11 ต.ลำพญา อ.บางเลน จ.นครปฐม จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยมูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม และ แพทย์เวรโรงพยาบาลหลวงพ่อเปิ่น 

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณสระน้ำภายในวัดเวฬุวนารามมีชาวบ้านและ พระสงฆ์ ยืนมุงดูและจับกลุ่มคุยกัน พบศพผู้เสียชีวิตเป็นชายลอยมาติดที่ริมสระฝั่งห้องน้ำวัดในสภาพนอนคว่ำหน้า สวมเสื้อยืดแขนยาวสีน้ำเงิน กางเกงผ้าขาสั้นสีดำ ในมือยังกำแบงค์ 20 เป็นจำนวนเงิน 160 บาท ไว้แน่น ตรวจสอบไม่พบเอกสารภายในตัว ตามร่างกายไม่พบร่องรอยการต่อสู้แต่อย่างใด คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2 วัน ทราบชื่อต่อมา นายติ๊ก วาสนา อายุ 62 ปี ไม่ทราบที่อยู่ 

สอบถาม นาย พงศ์พิสุทธิ์ อรุณฉาย อายุ 25 ปี ชาวจังสุพรรณบุรี พนักงานโรงงาน ที่พบศพ เล่าว่า ตนกับแฟนสาวได้ขี่รถ จยย.จากโรงงานมาพักเที่ยงหาข้าวกินเสร็จจากนั้นเห็นที่ในวัดมันร่มจึงได้พากันมานั่งเล่นพักผ่อน ตนจึงเลือกไปเห็นว่ามีอะไรอยู่ในน้ำจากนั้นจึงเดินเข้าไปใกล้ถึงกับผงะพบว่าเป็นคนนอนจมน้ำเสียชีวิตอยู่ต่อหน้าจึงรีบไปแจ้งชาวบ้านให้มาช่วยดูและประสานกู้ภัยให้ได้มาตรวจสอบ 

ทางด้านนางสาว อริสา สนธิ์น้อย อายุ 38 ปี แม่ค้าขายของ ที่ตาติ๊กมาซื้อของบ่อยๆ เล่าว่า ตาติ๊กไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง อาศัยอยู่ตรงศาลาหน้าวัด มีอาชีพเก็บขวดและของเก่าขาย ตอนเช้าจะมีคนเอาข้าวจากวัดที่พระบิณฑบาตมาให้ ส่วนกลางวันจะมาเอาข้าวกับน้ำที่ร้านของตน ถือว่าได้ช่วยเหลือกันไปไม่เคยคิดเอาเงินแก บางคนก็นำเสื้อผ้ามาให้ ส่วนเรื่องสุราตาติ๊กดื่มจนเดินเซ ตนก็คอยห้ามไว้ว่าไม่ให้ดื่มบ่อย เกรงว่าจะเกิดอุบัติเหตุรถชนจึงได้ให้ลูกชายออกไปเตือนหลายครั้ง ก่อนเกิดเหตุสลดยังได้เจอกับตาติ๊กเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ยังเห็นตาติ๊กมาเดินเก็บขวด แถวศาลาประชาคมภายในวัดแถวที่เกิดเหตุช่วงประมาณเย็นๆ แต่ตอนเช้าวันอังคารไม่เห็นตาติ๊กอีกเลยจนมากระทั่งวันนี้ทราบข่าวก็เดินทางมาดูร่างด้วยตนเองและ และเสียใจ 

ทางเจ้าหน้าตำรวจได้มอบให้มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐมนำร่างผู้เสียชีวิตส่งต่อโรงพยาบาลศูนย์นครปฐมเพื่อผ่าชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้งและจะได้ประสานญาติผู้เสียชีวิตให้มารับร่างผู้เสียชีวิตไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนาต่อไป