จากกกรณีที่เพจชื่อดังของจังหวัดภูเก็ตได้โพสต์กรณีที่มีคนร้ายจับหน้าอกของผู้หญิงคนหนึ่งโดยข้อความในเพจว่า”สาวร้อง ระบุ ขอเตือนภัย!! ราไวย์ ภูเก็ต!! เวลา ประมาณ 21.35 น. ถนนเส้นซุปเปอร์ชิป ซอยโคกมะขาม ตรงสะพาน ใกล้ๆ ทางไปค่ายมวย ได้มี ผู้ชายขับรถเวฟสีขาวผสมแดงหรือสีดำ รถตัดเบาะ ใส่เสื้อสีเหลือง กางเกงขาสั้น ทรงผมรองทรงกลาง ผิวออกโทนสีเหลือง มีไฝหรือปานอยู่ที่ใบหน้าด้านซ้าย อายุประมาณ 25-30 ปี ความสูง 160-175 ซม. เป็นผู้ชายเอเชีย จำป้ายทะเบียนไม่ได้ เพราะว่ามันขับรถประกบหลังเราและเพื่อน แต่ทันใดนั้นใช้มือมาจับที่หน้าอกของเพื่อนเราที่นั่งข้างหลังรถมอเตอร์ไซต์หลังสุด แล้วขับรถวนกลับไปทางค่ายมวย แต่พอเพื่อนเราตกใจกรี๊ด แล้วเราถามเพื่อนว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะเราเป็นคนขับ และขับช้ามาก นึกว่าคันข้างหลังมาเกี่ยวชน แต่รถยังทรงตัวปกติ แต่เพื่อนบอกว่า มันจับที่หน้าอก แล้วกระชากไปจากข้างหลัง

เพื่อนอีกคนเลยตะโกนออกไปว่าไอ้ควาย ผู้ชายคนนั้นก็ได้ขับรถกลับมา และทันใดนั้น เราและเพื่อนทั้งหมด 3 คนช็อกและกลัว ได้รีบขับรถไปที่ร้านซักผ้า แต่ผู้ชายคนนั้นก็กลับรถและหนีหลบไป ตอนนี้ทุกคนกลัวและกังวล เศร้าซึม โกรธ บอกไม่ถูก แต่พรุ่งนี้จะไปแจ้งความและไปสอบถามบ้านของคนแถวนั้นว่ามีกล้องไหม เคยแต่เจอในข่าว ไม่เคยคิดว่าจะเจอสถานการณ์แบบนี้ ซึ่งทางมีบ้านคนและไฟ ไม่ห่างไกลจากผู้คนที่อยู่ตรงร้านซักผ้าเลย และเราผู้หญิงไปกัน 3 คน แต่ยังโดน ไม่อยากจะคิดว่า ถ้ามันกระชากเพื่อนเราหล่นลงจากรถ หรือมันใช้มีดจี้ เพื่อชิงทรัพย์ หรือถ้าผู้หญิงไปคนเดียว และโดนมันถีบรถลงข้างทาง กระชากเข้าป่า ยังจะมีเวลามานั่งพิมพ์แบบนี้ไหม ตอนนี้พยายามปลอบใจเพื่อนและตัวเองสุดๆ แต่ความรู้สึกมันแย่มาก มันแบบไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน ทั้งกลัว ทั้งโกรธ จนรีบกลับเข้าบ้านล็อคประตูหน้าต่างทุกบาน และเปิดไฟทั้งบ้าน ขอเตือนภัย มันเกิดขึ้นแล้วจริงๆ และมันใกล้ตัวมากๆ จนทุกคนยังตกใจไม่หาย ว่ามันกล้าทำแบบนี้ได้ยังไง และสายตาสีหน้าของมันที่พอจะจำได้คือ หน้าตานิ่งเฉย และสายตาลอยๆ แบบคนเมา และขับรถแบบคนเมาๆ ขอให้ทุกคนอย่าเจอกับเหตุการณ์แบบนี้เลย และขอให้ผู้ชายคนนั้นอย่าไปทำแบบนี้กับใครอีก ขวัญเอ่ย ขวัญมา ใครเจอเหตุการณ์แบบนี้ และในละแวกนี้ รบกวนขอข้อมูลหน่อยนะคะ”
 
จากกล้องวงจรปิดของเทศบาลตำบลราไวย์จะเห็นว่าคนร้ายออกจากซอยโคกยางและคนร้ายได้ขับรถตามผู้เสียหายมาก่อ เหตุและ เหตุหลังก่อเหตุ ก็ขับรถย้อนกลับไปออกทางวัดสว่างอารมณ์และขับต่อไปทางท่าเรือราไวย์แล้วหายไปตรงจุดนั้น