กลุ่มคนรักษ์ต้นน้ำจังหวัดราชบุรี เข้ายื่นหนังสือให้ตรวจสอบการทำงาน อบต.น้ำพุ พาคณะผู้ตรวจการแผ่นดินลงพื้นที่โดยไม่ได้แจ้งกลุ่มและผู้นำแต่อย่างใดทำให้ เกิดความเสียหายที่ข้อมูลไม่ตรงข้อเท็จจริง
 

เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2567 ที่อาคารราชบุรีเกมส์ ศาลากลางจังหวัดราชบุรี นายนายธนู งามยิ่งยวด ประธานเครือข่ายคนรักษ์ต้นน้ำจังหวัดราชบุรี พร้อมทั้งนายไพทูลย์ ปัตตนา อดีตนายกอบต.น้ำพุ และชาวบ้านหมู่ที่ 1 ต.น้ำพุ กว่า 100 คน เข้ามายื่นหนังสือให้กับนายณัชวันก์ อัลภาชน์ เตชะเสน รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมรับฟังปัญหา จากเหตุกลุ่มคนรักษ์ต้นน้ำ ตำบลน้ำพุ อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ที่ได้รับผลกระทบจากการประกอบการของโรงงานแห่งหนึ่ง มาเป็นเวลานานกว่า 20 ปีซึ่งปัจจุบันประชาชนยังได้รับผลกระทบอยู่ทั้งเรื่องกลิ่นเหม็นและการปนเปื้อนสารเคมีในแหล่งน้ำบนดินและใต้ดินแต่เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2567 ทางท่านผู้ตรวจการแผ่นดินพร้อมคณะและหน่วยงานที่เกี่ยวได้มีกำหนดการลงพื้นที่ โดยได้นัดหมายในหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ ผผ 1303/019 ลงวันที่ 26 มิถุนายน 2567 เวลา 10.00 น.นัดพร้อม ณ ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลน้ำพุ และเดินทางไปตรวจข้อเท็จจริงในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเวลาทางกลุ่มคนรักต้นน้ำ ทั้งประธานกลุ่มนายธนู งามยิ่งยวด และผู้นำชุมชนต่างไม่ประสานให้เข้าร่วมให้ข้อมูลต่อผู้ตรวจการแผ่นดินแต่อย่างไร แต่กลับพบว่าทางเจ้าหน้าที่ อบต.น้ำพุ ได้พาคณะผู้ตรวจการแผ่นดินลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยไม่ได้แจ้งกลุ่มและผู้นำแต่อย่างใด จึงทำให้เกิดความเสียหายต่อกลุ่มเป็นอย่างมากซึ่งเป็นที่รู้กันทั่วอยู่แล้วว่าการดำเนินการของผู้ได้รับผลกระทบของชาวบ้านดำเนินการมาแบบกลุ่มมีประธานและคณะกรรมการกลุ่มเพื่อดำเนินการต่างๆ ที่ผ่านมา การกระทำของเจ้าหน้าที่ของ อบต.น้ำพุ ไม่ทราบว่าได้รับการสั่งการหรือมอบหมายจากใคร อีกทั้งจากที่ทราบเจ้าหน้าที่ของอบต.น้ำพุ นั้นนำโดยท่านรองนายกนางวันเพ็ญ ชันสุวรรณ รองปลัด อบต.และหัวหน้าสำนักปลัด ซึ่งทั้งสามท่านนี้โดยปกติไม่เคยได้ลงมาสำรวจพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหรือพบปะชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ใดเลยตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่ชาวบ้านได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะรองปลัด และหัวหน้าสำปลัด ก็เพิ่งจะย้ายมาส่วนนางวันเพ็ญ ขันสุวรรณ ที่เป็นคนพื้นที่แต่ก็ไม่ค่อยได้เข้ามาร่วมประชุมหรือไปดำเนินการใดๆกับคณะกรรมการกลุ่ม จึงทำให้การให้ข้อมูลด้านผลกระทบอาจไม่ครบถ้วนในทุกมิติ เช่นไปดูพื้นที่ที่ยังสามารถประกอบอาชีพได้ แต่ยังมีผู้ที่เขาไม่สามารถประกอบอาชีพได้บางรายถูกตัดไฟเพียงเพราะไม่สามารถประกอบอาชีพการเกษตรได้ บางรายเขาได้กลิ่นเหม็นลบกวนตลอดเป็นต้น ซึ่งการกระทำลักษณะดังกล่าวนี้ทางกลุ่มเคยร้องเรียนได้ตรวจสอบการกระทำของอบต.ไปแล้วหนึ่งครั้งแต่ก็ไม่ได้ทราบผลการตรวจสอบแต่อย่างไรกลุ่มคนรักษ์ต้นน้ำ จึงร้องเรียนและขอให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวว่าเป็นความจงใจหรือไม่อย่างไร และขอให้แจ้งผลการดำเนินการให้ทราบภาย 15 วัน

ทางด้านนายธนู งามยิ่งยวด กล่าวว่า วันนี้จะมายื่นหนังสือให้กับท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเกี่ยวกับเรื่องที่ผู้ตรวจการแผ่นดินลงพื้นที่ตำบลน้ำพุคนในพื้นที่ไม่รู้เลยผู้จัดการแผ่นดินได้ส่งหนังสือมาที่ อบต.น้ำพุ และควรจะแจ้งเรื่องให้ทราบซึ่งเป็นคนในพื้นที่ที่มีผลกระทบและควรจะนำไปในพื้นที่ที่มีปัญหาซึ่งเราไม่ทราบเลยว่าผู้ตรวจการแผ่นดินจะลงมาเมื่อเข้าไปตรวจโรงงานและก็ไม่ได้เข้าไปที่มีปัญหาจริงๆมีแต่เพียง รองนายก อบต.น้ำพุ เป็นผู้นำไปที่ออกมาวันนี้ ทุกคนคิดว่ามีการชี้นำและก็ไม่ได้พาไปที่จุดต้นเหตุที่สร้างความเสียหายโดยตรงซึ่งพาไปบริเวณปลายน้ำจึงเดินทางมาเรียกร้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรีได้ตรวจสอบการกระทำดังกล่าวและมีปัญหาอะไรที่ไม่แจ้งทั้งที่มีกลุ่มฯที่ชัดเจนว่าเราคือกลุ่มคนรักษ์ต้นน้ำ ผู้ตรวจการแผ่นดินลงมาครั้งนี้ได้ข้อมูลไปยังไม่ถูกต้องจึงได้ออกมากันด้วยความบริสุทธิ์ใจและไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น

นายณัชวันก์ อัลภาชน์ เตชะเสน กล่าวว่า ได้ลงร่วมกับอุตสาหกรรมจังหวัดและท้องถิ่นจังหวัดได้มารับฟังปัญหาและพูดคุยชาวตำบลน้ำพุซึ่งมีความไม่เข้าใจในเรื่องเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้วผู้ตรวจการแผ่นดินพร้อมทั้งอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมได้เดินทางลงมาตรวจพื้นที่การตรวจย้ายกากอุตสาหกรรมว่ามีความคืบหน้าไปอย่างไรพร้อมทั้งเยี่ยมประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ประเด็นที่ยื่นหนังสือให้ทำการตรวจสอบผู้ประสานงานระดับตำบลได้มีการแจ้งไปยังกลุ่มที่เดือดร้อนเป็นผู้ฟ้องคดีกับบริษัทฯทำไมถึงไม่รู้เรื่องและไม่ได้รับแจ้งข่าวสารผู้ตรวจการแผ่นดินลงพื้นที่ตำบลน้ำพุเลยมีการปิดกั้นข่าวสารหรือไม่ และมีอคติกับกลุ่มหรือไม่อย่างไรก็จะเร่งดำเนินการตรวจสอบให้และเหตุใดหลายเดือนแล้วยังไม่มีการประชุมคณะทำงานหรือคณะกรรมการที่แก้ไขปัญหาในเรื่องนี้โดยอุตสาหกรรมก็ได้แจ้งใน 3-4 เดือนที่ผ่านมาเป็นช่วงที่งานเยอะมากและทางกรมฯ ก็ดำเนินการในเรื่องนี้ ต่อเนื่องมาตลอดเพียงแต่ไม่ได้มีการจัดประชุมเท่านั้นเองโดยได้มีการสั่งการให้จัดประชุมโดยเร็วที่สุดและอยากให้มีการประสานงานกับผู้ตรวจการแผ่นดินให้ลงพื้นที่อีกครั้งกลุ่มผู้เดือดร้อนจริงจะได้นำเสนอข้อมูลที่ถูกต้องกับผู้ตรวจการแผ่นดินเพิ่มเติมโดยปัญหาดังกล่าวก็จะมีการดำเนินการพร้อมทั้งประสานงานกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้ามาร่วมแก้ไขปัญหาต่อไป