วันจันทร์ ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 13:10 น.

ภูมิภาค

วิสามัญทาสยาบ้า! คลั่งทำร้ายชาวบ้าน ฮึดสู้เล็งปืนเตรียมยิง สายตรวจจำเป็นป้องกันตัว

วันจันทร์ ที่ 05 สิงหาคม พ.ศ. 2567, 10.32 น.

วันที่ 4 สิงหาคม 2567 เวลาประมาณ 17.00 น. พ.ต.ต.จำรัส ศรีหาตา สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครพนม รับแจ้งจากตำรวจสายตรวจ 191 มีเหตุวิสามัญคนร้ายเสียชีวิต บริเวณซอยข้างวัดสารภาณนิมิต ชุมชนบ้านน้อยหนองเค็ม เขตเทศบาลเมืองนครพนม จึงรายงานไปยัง พ.ต.อ.ภาคภูมิ เดชะเรืองศิลป์ ผกก.สภ.เมืองนครพนม พร้อมประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลนครพนม อัยการ และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ฯลฯ ร่วมชันสูตรพลิกศพตามขั้นตอนของกฎหมาย


โดยในที่เกิดเหตุพบศพผู้เสียชีวิตเป็นชาย ในสภาพหนอนงาย สวมเสื้อยืดสีน้ำเงิน กางเกงขาสั้นสีดำ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. เข้าตามร่างกายประมาณ 6-7 นัด ทราบชื่อผู้ตายภายหลัง คือ นายสิงห์ คำดี อายุ 45 ปี แรงงานต่างด้าวสัญชาติชาวลาว โดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน ยึดอาชีพเก็บของเก่าขาย มีบ้านพักที่ทางวัดจัดขึ้นให้คนเร่ร่อน คนต่างถิ่นพักอาศัย เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบเก็บหลักฐาน มีอาวุธปืนสั้นไทยประดิษฐ์ตกอยู่ใกล้ศพคนตาย รวมถึงปลอกกระสุนปืนของตำรวจตกในที่เกิดเหตุ ประมาณ 7 นัด พร้อมชันสูตรเก็บหลักฐาน ประกอบการดำเนินคดีตามกฎหมาย


สอบถามแม่ผู้ตายคือนางดาว อายุ 70 ปี สัญชาติลาว ที่เข้ามาพักอาศัยทำงานรับจ้างในตัวเมืองนครพนม ยอมรับว่าเมื่อ 4-5 ปี ที่ผ่านมา ตนกับลูกชายลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย เพื่อเข้ามาหาทำงานรับจ้างเลี้ยงชีพ โดยลูกชายอยู่บ้านพักที่ทางวัดสร้างให้คนไร้ที่อยู่อาศัย แต่ตนอาศัยพักอยู่อีกหลังหนึ่ง ซึ่งลูกชายมีพฤติกรรมคลุ้มคลั่งอาละวาด เนื่องจากเสพยาเสพติดจนป่วยจิตเวช และปฎิเสธการรักษา ยึดอาชีพเก็บของเก่าขาย เคยแจ้งตำรวจมาจับกุมดำเนินคดีหลายครั้ง สุดท้ายถูกปล่อยตัวออกมา และเจ้าหน้าที่ได้ผลักดันกลับ สปป.ลาว ก็ใช้ช่องทางธรรมชาติแอบลักลอบกลับมาอีก สร้างปัญหาบ่อย พยายามทำร้ายคนในชุมชน ส่วนการเสียชีวิตครั้งนี้ ยอมรับเสียใจ แต่ต้องทำใจ เพราะลูกชายตน เป็นคนก่อปัญหา และพยายามทำร้ายตำรวจก่อน


ด้าน พ.ต.อ.ภาคภูมิ เดชะเรืองศิลป์ ผกก.สภ.เมืองนครพนม เปิดเผยว่าผู้เสียชีวิตเป็นชายคลุ้มคลั่ง เชื่อว่าตกเป็นทาสยาเสพติด พบประวัติมีอาการทางประสาท มีพฤติกรรมคลุ้มคลั่งพยายามทำร้ายร่างกายชาวบ้านบ่อยครั้ง เคยมีตำรวจสายตรวจมาระงับเหตุจับกุมไปดำเนินคดี และผลักดันกลับประเทศ เนื่องจากเป็นแรงงานชาวต่างด้าวที่ลักลอบเข้ามาผิดกฏหมาย จนกระทั่งมีการลักลอบกลับเข้ามาเก็บของเก่าเลี้ยงชีพ


ล่าสุดมีอาการคลุ้มคลั่ง พยามยามทำร้ายชาวบ้าน ผู้นำชุมชนจึงประสานตำรวจสายตรวจระงับเหตุ แต่พยายามใช้อาวุธมีดยาว และปืนไทยประดิษฐ์จะทำร้ายตำรวจ โดยยกอาวุธปืนเล็งมาทางตำรวจ สายตรวจจึงตัดสินใจวิสามัญระงับเหตุ ด้วยเกรงว่าขืนปล่อยไปอาจเกิดอันตรายกับชาวบ้าน หรือมีชาวบ้านบาดเจ็บเสียชีวิตเพราะเป็นชุมชนหนาแน่น อย่างไรก็ตามทางตำรวจจะได้ตรวจสอบ มีการสอบสวนโดยละเอียด ดำเนินคดีตามกฎหมายตามขั้นตอนต่อไป พร้อมเพิ่มมาตรการเข้มตรวจสอบคัดกรองบุคคลที่เป็นภัยสังคม ป้องกันก่อเหตุซ้ำอีก

หน้าแรก » ภูมิภาค