วันที่ 29 ส.ค.67 พ.ต.ท.จรูญ สังขารา สว.(สอบสวน) สภ.เมืองตรัง ได้รับแจ้งเหตุว่าพบชิ้นส่วนกระดูกถูกมนุษย์บรรจุอยู่ในไหและฝั่งอยู่ภายในดิน พื้นที่ หมู่ 6 ต.นาตาล่วง อ.เมืองตรัง จ.ตรัง หลังรับแจ้งจึงไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.รัฐกร ภักดีวานิช ผกก.สส.ภ.จว.ตรัง กำลังชุดสืบสวน สภ.เมืองตรัง กำลังชุดสืบสวน ภ.จว.ตรัง เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ตรัง แพทย์เวร รพ.ตรัง และอาสากู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง 

ถึงที่เกิดเหตุ เป็นพื้นดินเขตแบ่งแดนระหว่างสวนยางพาราและบ้านเรือนด้วยลวดหนาม ภายในฝั่งเขตแดนบ้านเรือน ซึ่งอยู่ในระหว่างกำลังขุดร่องระบายน้ำ พบไหเคลือบดินเผาขนาดใหญ่ ความสูงประมาณ  47 ซม. เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 30 ซม. จำนวน 1 ใบ และไหเคลือบดินเผาขนาดเล็กอีกจำนวน 1 ใบ ถูกฝังไว้ในดินติดกัน

โดยไหขนาดใหญ่มีจานกระเบื้องปิดด้านบนปากไห พร้อมกับประกบติดกันด้วยปูนซีเมนต์ ซึ่งสภาพจานถูกจอบปักจนแตก ส่วนไหใบเล็ก มีไหใบเล็กกว่าอีกใบติดทับอยู่ซึ่งไหใบเล็กที่ครอบปิดถูกจอบปักแตกเช่นกัน เจ้าหน้าที่ทำการนำขึ้นมาตรวจสอบ พบในไหใบใหญ่เป็นชิ้นส่วนกระดูกมนุษย์ เมื่อนำมาเรียงต่อกันพบว่าเป็นชิ้นส่วนกระดูกที่มีใกล้จะครบทุกชิ้นส่วน มีทั้งหัวกะโหลก กระดูกแขนขา เชิงกราน เบื้องต้นไม่สามารถประเมินบ่งบอกเพศได้ เนื่องจากกระดูกเชิงกรานมีความเสียหายไปตามวันเวลา แต่เบื้องต้นคาดว่ากระดูกดังกล่าวคงมีอายุนานกว่า 10 ปีขึ้นไป ส่วนไหใบเล็กพบกระดูกเพียงบางส่วนเท่านั้น ไม่สามารถนำเอามาเรียงเป็นโครงสร้างร่างกายมนุษย์ได้ แต่มีเศษกระดาษเงินกระดาษทองติดอยู่บ้างบางส่วน ซึ่งอาจจะมีอายุมากกว่ากระดูกในไหใบใหญ่ 

จากการสอบถาม นายพุฒิพงษ์ แก้วสิทธิ์ อายุ 23 ปี คนงานรับจ้างขุดร่องระบายน้ำ ซึ่งเป็นคนมาพบ เล่าว่า สำหรับไหดังกล่าวถูกขุดพบเมื่อวันอังคารที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา ในเวลาประมาณเที่ยงวัน ตนจึงได้ไปบอกกับนายจ้างซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน ก่อนที่เจ้าของบ้านจะไปประสานกับเจ้าของที่ดินเดิมมาพูดคุยว่าเป็นชิ้นส่วนกระดูกบรรพบุรุษหรือไม่ แต่ปรากฏว่าเจ้าของดินเดิมกลับปฏิเสธว่าไม่ใช่ ทำให้ในวันนี้เจ้าของบ้านได้ไปนิมนต์พระภิกษุเข้ามาเพื่อจะย้ายกระดูกไปที่วัด แต่ปรากฏว่าพระภิกษุบอกว่าน่าจะเป็นกระดูกชาวจีน จึงให้ประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยและเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบดังกล่าว ส่วนเหตุที่ไม่แจ้งตั้งแต่พบเนื่องจากเจ้าของบ้านคิดว่าคงจะเป็นเศษกระดูกจากฮวงซุ้ยบรรพบุรุษเจ้าของที่ดินเดิม 

จากการสืบสวนสอบสวน เบื้องต้น ทราบว่า เชื่อว่าน่าจะเป็นโครงกระดูกบรรพบุรุษ เจ้าของที่ดินคนก่อนเนื่องจากใกล้จุดที่พบไหทั้งสองใบนั้นเคยเป็นสุสานของคนจีน หรือฮวงซุ้ย ก่อนที่เจ้าของคนเก่าได้ย้ายสุสานออกไป แต่น่าจะย้ายออกไปไม่หมด ซึ่งภายหลังจากขุดพบเจอเจ้าของที่ดินใหม่ ได้ไปนิมนต์พระเพื่อมาทำพิธี แต่เมื่อพระมาพบว่าเป็นกระดูกมนุษย์ จึงได้แนะนำให้แจ้งเหตุ ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมชันสูตรกับแพทย์และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานแล้วเบื้องต้นแพทย์แจ้งว่า ไม่สามารถระบุเพศได้เนื่องจากกระดูกที่พบได้รับความเสียหายน่าจะเสียชีวิตมาเป็นเวลานาน แต่เชื่อว่าเป็นกระดูกของคนเอเชีย และหากตรวจดีเอ็นเอ.ก็น่าจะตรวจไม่ได้เนื่องจากกระดูกแห้ง และเสียหาย สันนิฐานว่าน่าจะนำเฉพาะกระดูกมนุษย์มาบรรจุใสไห และยังพบว่ากระดาษเงินกระดาษ ทองใส่ปะปนอยู่ด้วย คล้ายจะทำพิธีตามความเชื่อ เบื้องต้นแพทย์ได้นำกระดูกไปขันสูตรละเอียด อีกครั้ง จากการร่วมตรวจสถานที่ยังไม่มีหลักฐานใดยืนยันได้ว่าเป็นการฆาตกรรม ซึ่งจะได้ร่วมกับชุดสืบสวนตรวจสอบและสอบสวนต่อไป 

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้พบว่าใต้พื้นล่างของไหพบเหรียญชนิด 1 สตางค์ สยามรัฐ พ.ศ.2472 จำนวน 1 เหรียญ และเหรียญประเทศจีนอีก 1 เหรียญ ส่วนชิ้นส่วนกระดูกที่ไม่ได้นำไปพิสูจน์ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยรับดำเนินการนำไปฝังในพื้นที่ของมูลนิธิฯต่อไป