วันนี้ 14 ตุลาคม 67 จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ในเขตพื้นที่อำเภอบ้านขว้า จังหวัดชัยภูมิ โพสต์ภาพจากกล้องวงจรปิด เหตุการณ์บริเวณหน้าร้านให้บริการเครื่องซักผ้า ย่านใจกลางชุมชนที่ก็มีผู้คนพลุกพล่าน ในคลิปเหตุการณ์จะเห็นได้ว่ามี สุภาพสตรี ที่เดินมาพร้อมกับสามี ที่เป็นชาวต่างชาติ ขณะเดินผ่านบริเวณหน้าร้าน ไม่นานก็มีชายฉกรรจ์ ขับรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้าเวฟ สีแดง มาจากทางด้านหลัง และเอื้อมมือซ้ายมากระชากกระเป๋า ที่สุภาพสตรี ในคลิปถืออยู่ จากนั้นก็ขับรถจักรยานยนต์กลบหนีไป เจ้าของคลิปจึงนำ ไปโพสต์ลงเฟซบุ๊กเพื่อช่วยกันเตือนภัย วันนี้ 14 ตุลาคม 67 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบยังจุดเกิดเหตุ ทำให้ทราบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเวลาประมาณเกือบ 10:00 น. ของเมื่อวานที่ผ่านมา (13 ตุลาคม 67) ในที่เกิดเหตุพบว่าที่ร้านให้บริการเครื่องซับผ้า มีกล้องวงจรปิดที่จับภาพเหตุการณ์ได้ และใกล้กัน

ผู้สื่อข่าวก็ได้พูดคุยกับเจ้าของแผงขายผลไม้ เล่าว่า ขณะเกิดเหตุ ตนนั้นก็ยืนขายของอยู่ และก็เห็นว่า มีสองสามีภรรยาที่กำลังเดินมา ถูกชายขับรถมอเตอร์ไซค์ สีแดง ที่ขับตามมาจากทางด้านหลัง กระชากเอากระเป๋าถือ แล้วหลบหนีไป จากนั้นจึงเดินออกไปดูนอกร้าน มองตามรถคันดังกล่าวไปก็เห็นว่าได้เลี้ยวหลบหนีไปในซอยที่สามารถไปออกเส้นทางอื่นได้อีกหลายทาง

โดยจากการพูดคุย ทำให้ทราบว่าผู้เสียหาย อาศัยอยู่ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 401 ม.14 ตำบลบ้านเขว้า อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ ได้พบกับนาง รินนา วอสส์ อายุ 54 ปี หญิงผู้เสียหาย ที่ปรากฏอยู่ในคลิปภาพกล้องวงจรปิด และได้เล่าเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ขณะเกิดเหตุนั้นตนและสามีชาวอังกฤษ ได้เดินออกจากบ้านเพื่อที่จะไปจ่ายค่าน้ำประปาที่ร้าน เซเว่น (7-11) หลังจากจ่ายค่าน้ำประปาเสร็จ ก็เดินกลับมา และขณะที่ผ่านร้านซักผ้า ก็ได้มี ผู้ชายขับรถจักรยานยนต์ มาจากทางด้านหลังและใช้มือเอื้อมมากระชากกระเป๋าที่ตนเองถืออยู่ในมือและขับรถหลบหนีไปต่อหน้าต่อตา

 
ซึ่งสามีของเธอนั้น ก็คิดว่ารถจักรยานยนต์เข้ามาเฉี่ยวชน โดยยังไม่ทราบว่า มีคนร้ายกระชากกระเป๋าตังค์ไป โดยทรัพย์สินที่ คนร้ายได้ไป มีเงินสด 500 บาท บัตรเอทีเอ็ม จำนวน 4 ใบ บัตรประชาชน โทรศัพท์หนึ่งเครื่อง และที่สำคัญมีแหวนเพชรอีกหนึ่งวง ติดไปด้วย หลังจากเกิดเหตุ เธอและสามีได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.บ้านเขว้า เพื่ออายัดการใช้บัตร ATM ของทุกธนาคาร และได้เดินทางไปทำบัตรATMใหม่แล้ว ซึ่งก็พบว่าเงินที่อยู่ในบัญชี ยังไม่ได้มีการถูกถอนออกไป ยังอยู่ครบทุกรายการ เมื่อถามถึงลักษณะของคนร้าย ผู้เสียหายก็จำได้แม้นว่าเป็นคนรถจักรยานยนต์รุ่นฮอนด้าเวฟ สีแดง ล้อแม็กสีดำ ส่วนป้ายทะเบียนนั้น เห็นตัวอักษรไม่ชัด แต่จำตัวเลขได้ว่าเป็นเลข 879 ส่วนผู้ขับขี่หรือคนร้าย มีลักษณะผอม สูง มีผ้าปิดหน้า เห็นแค่ดวงตาเท่านั้น จากเส้นทางการหลบหนี

จากจุดเกิดเหตุ ทำให้พบว่ามีกล้องวงจรปิดจำนวนหลายตัว ที่คาดว่าน่าจะจับภาพคนร้ายขณะหลบหนีได้ โดยกล้องวงจรปิดอีกหนึ่งจุดที่คนร้ายขับผ่าน สามารถจับภาพได้ชัดเจนขึ้น และเป็นอีกหนึ่งหลักฐานที่ทางเจ้าหน้าที่ ตำรวจ สภ.บ้านเขว้า ได้ไป ภาพที่ชัดเจนขึ้นทำให้เห็นว่าคนร้ายเป็นชายที่ลักษณะ ผอม สูง อายุน่าจะยังไม่มาก ใส่กางเกงขาสั้นสีกรมดำ เสื้อยืดแขนสั้นสีเขียวฟ้า ใช้เสื้อสีแดงมาโพกคลุมหัวเพื่อปิดบังใบหน้า ที่มือซ้ายยังคงจับกระเป๋าที่ขโมยมาไว้กับตัว ซึ่งทางผู้เสียหายบวกกับ ในโลกโซเชียลที่มีการแชร์กันออกไป ต่างอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านเขว้า ได้ติดตามตัวคนร้ายรายนี้ที่ก่อเหตุอย่างอุกอาจ ในช่วงเวลากลางวันแสกๆ มาดำเนินคดี ได้โดยเร็ว

ล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ 14 ตุลาคม 67 พ.ต.อ.รัตนพล ธูปแก้ว ผกก.สภ.บ้านเขว้า หลังจากทราบเรื่อง ได้สั่งการให้ชุดสืบสวน ลงพื้นที่ หลังจากได้เบาะแส แกะรอยจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่ จึงพบใบหน้าคนร้ายก่อนที่จะก่อเหตุ ซึ่งยังไม่ได้ปิดบังใบหน้า จึงทำให้ทราบว่าบุคคลดังกล่าวเป็นใคร โดยทราบชื่อคือนายเดวิต ใสแสง อายุ 29 ปี เป็นชาวตำบลตำบลบ้านเขว้า อำเภอบ้านเขว้าโดยชายคนดังกล่าวได้ ยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุเองเพียงคนเดียวสาเหตุการก่อเหตุเพราะต้องการหาเงินใช้ ส่วนทรัพย์สินที่ได้มา มีเพียงกระเป๋าสตางค์เท่านั้นที่นำไปทิ้งไว้ทุ่งนา ก่อนที่ จนท.จะให้นำพาไปหาของกลางคือกระเป๋าและทรัพย์สินมีค่าภายในกระเป๋าดังกล่าวที่ยึดคืนมาได้ยังอยู่ครบทั้งหมด

จึงนำตัวผู้ก่อเหตุไปชี้จุดเกิดเหตุพร้อมเชิญตัวผู้เสียหาย เข้ามารับทราบแล้ว ทั้งนี้ทั้งผู้เสียหาย 2 สามีภรรยาชาวต่างชาติ ได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ. บ้านเขว้าและผู้นำรวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ร่วมกันแจ้งเบาะแสทำให้เกิดการจับกุมได้โดยเร็ว สร้างความสบายใจให้กับตนเองและคนในชุมชนต่อไป