จากเหตุการณ์ที่ปรากฎตามสื่อโซเชียลมีเดีย ปรากฎภาพเคลื่อนไหวกรณี เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2567 เวลาประมาณ 17.30 น. ผู้ขับขี่รถแท็กซี่ ได้จอดรับผู้โดยสารชาวต่างชาติที่ติดต่อใช้บริการผ่านแอพพลิเคชั่น โบลล์ ต่อมาได้มีชายไทยแต่งตัวชุดวินรถจักรยานยนต์รับจ้าง และเข้ามาเปิดประตูรถยนต์แท็กซี่ อีกทั้งได้มีลักษณะข่มขู่ ให้นักท่องเที่ยวจำนวน 2 คน ซึ่งเป็นผู้โดยสารลงจากรถไม่ให้โดยสารไปกับรถยนต์แท็กซี่ โดยชายคนดังกล่าวมีลักษณะข่มขู่ คุกคาม ทำให้ผู้ขับรถยนต์แท็กซี่ และนักท่องเที่ยว เกิดความตกใจกลัว

ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 2 พ.ย. 67 พ.ต.อ.เฉลิมชัย เหิรสวัสดิ์ ผกก.สภ.ป่าตองได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรสภ.ป่าตอง ตามหาวินจักรยายนต์คนดังกล่าว จนมาถึงบริเวณถนนทวีวงศ์ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ได้พบชายคนดังกล่าวทราบชื่อ นายจำเป็น(ขอสงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หมายเลขทเบียนภูเก็ต ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ ขับขี่ส่ายไปส่ายมา มีลักษณะมึนเมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดตามผู้ขับขี่ไปจนถึงหน้าสำนักสงฆ์แหลมเพชร และได้เรียกตรวจค้นใต้เบาะรถจักรยานยนต์พบเหล้า  1 แบน มีการดื่มไปแล้วกว่าครึ่งขวด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เชิญผู้ขับขี่มายังสถานีตำรวจป่าตอง และได้ตรวจวัดด้วยเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผลการตรวจสอบพบว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายเกินกว่ากฎหมายกำหนดโดยวัดได้ 75 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ และนายจำเป็น (ขอสงวนนามสกุล) เป็นบุคคลเดียวกันที่สวมเสื้อวินรถจักรยานยนต์รับจ้าง ได้ทำการข่มขู่ คุกคาม นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและผู้ขับขี่รถแท็กซี่ จึงได้จับกุมในที่สุด จากการสอบถาม นายจำเป็น รับว่า เป็นวินรถจักรยานยนต์รับจ้างอยู่บริเวณ หน้าหาดป่าตอง ภูเก็ตและได้ก่อเหตุไปด้วยความคึกคะนอง เนื่องมีอาการเมาสุราเล็กน้อย

ด้านน.ส.ธนาภรณ์ กล่าวหลังมาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ว่า  ตนกำลังจะกลับแต่มีนักท่องเที่ยวได้ติดต่อผ่านแอฟฯมาซึ่งก็เป็นแอฟที่ถูกต้องให้มารับที่จุดดังกล่าวซึ่งตนเห็นว่าที่ตรงนั้นไม่มีวินอะไรเพราะเป็นลานโลมาแต่วินคนดังกล่าวมาต่อว่าและข่มขู่จนนักท่องเที่ยวกลัวและลงจากรถไปตนเห็นว่าเป็นเองที่ไม่ถูกต้องจึงมีการนำไปลงในโซเซียลเพื่อให้มีการดำเนินการกับวินคนดังกล่าวซึ่งการทำดังกล่าวจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของจังหวัดด้วย

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้แจ้ง 6 ข้อหา ประกอบด้วย 1.เป็นผู้ขับขี่รถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น 2.ใช้รถไม่ตรงตามประเภทที่จดทะเบียนไว้ 3.ไม่สวมหมวกนิรภัย 4.ไม่พาพาสำเนาคู่มือจดทะเบียนรถ 5.ไม่มีใบอนุญาตขับขี่สาธารณะ และ6.ไม่ชำระภาษีประจำปีภายในกำหนด พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.ป่าตอง เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป