นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) รวมถึง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) ทั่วประเทศ จะดำรงตำแหน่งครบ 4 ปี และหมดวาระลงในวันที่ 20 ธันวาคม 2567 ที่จะถึงนี้ จึงต้องจัดให้มีการเลือกตั้งนายก อบจ. และ ส.อบจ.ภายใน 45 วัน ตามที่กฎหมายกำหนด นั่นหมายความว่า สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะต้องจัดให้มีการเลือกตั้ง นายก อบจ. และ ส.อบจ. ไม่เกินวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568

ในส่วนของ จ.นครพนม ดร.ศุภพานี โพธิ์สุ หรือนายกขวัญ หลังสะสมประสบการณ์จากการทำงานร่วมกับนักการเมืองชื่อดัง ในตำแหน่งเลขานุการนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล อดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง และอดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นที่ปรึกษา นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย รวมทั้งเป็นที่ปรึกษาให้กับคุณพ่อคือ”ครูแก้ว”นายศุภชัย โพธิ์สุ จึงสมควรแก่เวลาที่จะขอทำงานรับใช้พี่น้องประชาชนชาว จ.นครพนมปี 2563 จึงประกาศลงชิงเก้าอี้นายก อบจ.นครพนม ในนามกลุ่มนครพนมร่วมใจ สามารถเฉือนแชมป์เก่า ดร.สมชอบ นิติพจน์ ด้วยคะแนนนิยมท่วมท้น

หลัง กกต.ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ดร.ศุภพานี โพธิ์สุ จึงเป็นนายก อบจ.ที่มีอายุน้อยที่สุดคือ 36 ปีเท่านั้น พร้อมยืนยันจะทำงานให้กับพี่น้องประชาชน โดยยึดศาสตร์พระราชา 3 เสาหลัก ตามทฤษฎีของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นธงนำในการพัฒนาจังหวัดนครพนม สู่ความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ด้วยสโลแกนทำงานไม่มีวันหยุด เดินหน้าสำรวจวางแผนนโยบายพัฒนา สร้างอาชีพ แก้ปัญหาปากท้องประชาชนทั้ง 12 อำเภอ เน้นลงพื้นที่จริง รับทราบปัญหา ขานรับนโยบายรัฐบาล นำร่อง 300 หมู่บ้านกว่า 900 โครงการ พัฒนาอาชีพ สร้างรายได้ ดูแลด้านสุขภาพ ฯลฯ

สำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.นครพนม หลังครบวาระ 4 ปีปลายเดือนธันวาคม 67 นี้ มีผู้ประกาศชิงตำแหน่งที่แน่ๆแล้ว 2 ราย คือ เบียร์-นายอนุชิต หงษาดี อดีตนายก อบต.โพนสวรรค์ เด็กสร้างในคาถาของ ดร.มนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม และ สส.นครพนม เขต 2 พรรคเพื่อไทย ที่กรรมการบริหารพรรคประกาศชื่อเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว

อีกคนถือเป็นบุคคลเหนือความคาดหมาย นายแพทย์ ประสงค์ บูรณ์พงศ์ อดีต รมต.หลายกระทรวง และ สส.นครพนมมากกว่า 10 สมัย หลังเปิดตัวนานร่วมปีว่า สส.หรือ รมต.ก็เป็นหมดแล้ว เหลือนายก อบจ.ฯที่ยังไม่ได้เป็น จึงมีความมุ่งมั่นในการเป็นนายก อบจ.นครพนม ในวัย 88 ปี โดยทีแรกจะสวมเสื้อสีส้มลงสมัคร ในนามพรรคก้าวไกล(ในขณะนั้น) แต่ทางพรรคไม่ยอมประกาศชื่อสักที หมอสงค์จึงมีแค่เสื้อสีส้มเป็นสัญลักษณ์เท่านั้น

ส่วน นายโกศล เหมพลชม หรือครูโก เพื่อนรักของครูแก้ว เคยออกมาประกาศว่าพรรคก้าวไกลในขณะนั้น พร้อมส่งลงสมัครนายก อบจ.นครพนม แต่เหมือนโยนหินถามทาง ตอนนี้เห็นเงียบๆไป

คาดว่าผู้สมัครนายก อบจ.นครพนม คงมีเพียงแค่ 3 ทีมเท่านั้น คือแชมป์ ดร.ศุภพานี โพธิ์สุ หรือนายกขวัญ,นายอนุชิต หงษาดี และ นพ.ประสงค์ บูรณ์พงศ์ ถ้าจะมีโผล่เพิ่มขึ้นมาอีก คงเป็นพวกไม้ประดับสร้างสีสัน

ทั้งนี้ การชิงตำแหน่งนายก อบจ.ครั้งนี้ มีหลายจังหวัดลาออกก่อนครบวาระ เพื่อชิงความได้เปรียบ รวม 27 จังหวัดทั่วประเทศ ในส่วนพื้นที่ 20 จังหวัดภาคอีสาน มี 7 จังหวัดที่ลาออกหวังสกัดคู่ต่อสู้ ได้แก่ 1.เลย 2.ชัยภูมิ 3.ยโสธร 4.ขอนแก่น 5.สุรินทร์ 6.อุดรฯ และ 7.อุบลฯ

สำหรับนายกขวัญถ้าจะทำกลยุทธ์แบบนั้นก็ย่อมได้ เพื่อชิงความได้เปรียบ กีดกั้นคู่แข่งทางการเมืองอย่างนายอนุชิต หงษาดี เพราะในขณะที่เปิดตัวเป็นว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.นครพนม นั้น นายอนุชิต หงษาดี ยังมีตำแหน่งเป็นนายก อบต.โพนสวรรค์ หากนายกขวัญไม่มีสปิริต ชิงลาออกก่อนครบวาระ 4 ปี  อาจทำให้นายอนุชิตมีคุณสมบัติไม่ครบถ้วนทันที

ตรงกันข้ามนายกขวัญ จะพูดกับผู้ใกล้ชิดเสมอ ว่า มีความสุขสนุกกับงาน ที่ได้ทำงานรับใช้ให้กับพี่น้องประชาชน ถึงขณะนี้ยังสะกดคำว่าเหน็ดเหนื่อยไม่เป็น

เท่าที่ทราบ นายกขวัญจะเข้าสำนักงานเฉพาะวันมีประชุม เซ็นเอกสาร นอกนั้นจะลงพื้นที่ทุกหมู่บ้าน ทุกตำบล ทุกอำเภอ เพื่อรับฟังและรับทราบปัญหาจากพี่น้องประชาชน เพื่อนำเข้ามาหารือในที่ประชุมสภา อบจ.ฯ ปัญหาส่วนใหญ่สำเร็จลุล่วงรวดเร็วกว่าปกติ เพราะจากการลงพื้นที่พบปะกับประชาชนอย่างต่อเนื่องของนายก อบจ.นครพนม  

การเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นการป้องกันแชมป์ของนายกขวัญ ดร.ศุภพานี โพธิ์สุ ที่บอกเสมอว่าคู่แข่งทุกคนไม่ว่าจะเป็นใคร ล้วนน่ากลัวทั้งนั้น