วันจันทร์ ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2568 12:55 น.

ภูมิภาค

"หมอวรงค์" ขึ้นศาลคดีโรงสีฟ้องเรียก 1 ล้าน กล่าวหาละทิ้งงานประมูลข้าวหอมมะลิ ลั่นชนะแน่ขู่ฟ้องกลับ

วันพุธ ที่ 06 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567, 12.54 น.

ที่ศาลจังหวัดสุรินทร์ ตำบลนอกเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์  นายแพทย์ณรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี พร้อมทนายความเดินทางมาที่ศาลจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องในคดีที่โรงสีส.ชัยเจริญเป็นโจทย์ยื่นฟ้องนายแพทย์วรงค์ ในข้อหาความผิดพรบคอมพิวเตอร์เรียกค่าเสียหาย 1 ล้านบาท จากกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าละทิ้งงานประมูลข้าวสารหอมมะลิ ซึ่งนายโรจนินทร์ หิรัญโชคอนันต์ นายกเทศมนตรีตำบลกังแอน อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เป็นพยานปากเอกของโรงสีข้าวสชัยเจริญ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นโรงสีข้าวของลูกชายนายโรจนินทร์ โดยมาพร้อมทนายความคือนางสาวทักษิณา  ทับครบุรี ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากโจทก์ เดินทางมาที่ศาลจังหวัดสุรินทร์ตามที่ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องครั้งแรกในวันนี้ ด้านทนายจำเลยไม่พร้อม ไม่สามารถที่จะซักค้านได้ ก็เลยขอเลื่อนไต่สวนมูลฟ้องไปเป็นวันที่ 9 ธันวาคม 2567  

นายแพทย์วรงค์ ให้สัมภาษณ์ก่อนขึ้นศาล ว่า คดีที่โรงสีข้าวแห่งหนึ่งฟ้องตนขอเรียนว่าตนไม่เคยรู้จักโรงสีข้าวดังกล่าวนี้เลยที่พูดเรื่องข้าวสารหอมมะลิเพราะต้องการตรวจสอบรัฐบาลไม่ได้ต้องการตรวจสอบโรงสีแห่งนี้  เพราะดูในสาระรายละเอียดและการฟ้องแล้วมันไม่เกี่ยวกับโรงสีข้าวดังกล่าว เลยทำให้สงสัยว่าเขาฟ้องตนเพราะได้รับใบสั่งจากใครหรือเปล่า เป็นการทำลายสมาธิในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล เสียเวลาในการลงพื้นที่ไปตรวจสอบรัฐบาลในกรณีเกาะกูดด้วย แต่ไม่เป็นไรเมื่อพร้อมแล้วก็ว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรม ตนมั่นใจว่าคดีนี้ต้องชนะแน่นอนและจะฟ้องกลับด้วยเพราะทำให้ตนเสียเวลาเสียชื่อเสียงและทำให้คนทั่วไปเข้าใจผิดได้  ซึ่งตนไม่ได้มีความกังวลใจได้อะไรเลยในคดีนี้ เสร็จจากนี้จะต้องรีบไปตรวจสอบเรื่องเกาะกูดเพื่อตรวจสอบรัฐบาลต่อไป

ด้านนางสาวทักษิณา  ทับครบุรี  ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากโรงสี ส.ชัยเจริญ ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้มีนัดไต่สวนมูลฟ้องคดีของโรงสี ส.ชัยเจริญ  ซึ่งมอบอำนาจให้ทนายความฟ้องหมอวรงค์ เดชวิกรม  เรื่องนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ แล้วก็หมิ่นประมาท วันนี้ได้ไต่สวนเฉพาะปากของโจทย์ ทนายจำเลยยังไม่ได้ซักค้าน เนื่องจากข้อมูลมีจำนวนมาก ฟ้องไปทั้งหมด 7 กระทง หลักๆจะเป็นเรื่องข้าว ตั้งแต่หมอวรงค์ นำกระสอบข้าวเข้าไปอภิปรายในสภา เมื่อปี 56 แล้วก็เรื่องหมอวรงค์ไปโพตส์ในติ๊กต็อกและในเฟสบุ๊กเกี่ยวกับโรงสี ส.ชัยเจริญ ว่าประมูลข้าวแล้วไม่ไปรับข้าว ประเด็นในส่วนของคุณโรจนินทร์ คุณพ่อของคุณชัยโรจน์ เจ้าของกิจการโรงสี ส.ชัยเจริญ มีกรณีที่เคยไปออกpptv แล้วสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ในเรื่องของเอกสารของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน เกี่ยวกับสต๊อกข้าว แล้วก็คุณภาพข้าว ทำไมไม่ไปรับข้าวเมื่อประมูลได้แล้ว ซึ่งบางข้อความหมอวรงค์พูดเกินกว่าที่ทางคุณโรจนินทร์ ให้สัมภาษณ์ ทั้งๆที่ข้อเท็จจริงทราบอยู่แล้ว เรามีพยานเอกสารพอสมควร  รวมทั้งที่หมอวรงค์ไปโพตส์เรื่องข้าวที่ประมูลได้ไม่ตรงสเป็ก รวมถึงไม่ไปรับข้าว ซึ่งข้อเท็จจริงไม่ใช่อย่างนั้น

2 พยายามที่จะให้สังคมเชื่อว่าข้าวในโกดังของรัฐบาลไม่ได้มาตรฐาน เป็นข้าวที่ยัดไส้เข้าไป ซึ่งข้อเท็จจริงแล้วหากดูในคลิปแล้วคุณโรจนินทร์ไม่ได้พูด มันก็เลยทำให้โรงสีเสียหาย เหมือนกับว่าเป็นคู่ค้าของรัฐ ไม่มีความรับผิดชอบ ทิ้งงาน รวมถึงทำให้คนอื่นเข้าใจว่าทางโรงสีไม่มีเจตนาที่จะทำการค้ากับรัฐจริงๆ
ในขั้นตอนนี้เป็นการไต่สวนมูลฟ้อง เป็นคดีอาญาที่ทางเอกชนฟ้องเอง ไม่ได้ผ่านอัยการ ไต่สวนมูลฟ้องแล้วจะต้องดูว่าศาลจะประทับรับฟ้องหรือไม่ ซึ่งวันนี้ทางทนายจำเลยไม่พร้อม ไม่สามารถที่จะซักค้านได้ ก็เลยขอเลื่อนไต่สวนมูลฟ้องไปเป็นวันที่ 9 ธันวาคม 2567 นี้ คดีนี้ไม่หนักใจ เนื่องจากเราฟ้องไปตามข้อเท็จจริง พยานหลักฐานเราชัดเจน ไม่ได้ไปคิดเอาเอง เพราะว่าหลักฐานในการฟ้องการนำเอาข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบเป็นคลิปที่คุณหมอทำขึ้นเองแล้วโพตส์แล้วแชร์เข้าไปในสาธารณะอยู่แล้ว ซึ่งเราได้ฟ้องจากที่คุณหมอโพตส์ไป รวมไปถึงการอภิปรายเรื่องกระสอบข้าวก็เหมือนกัน เราให้ไปตรวจสอบข้อเท๊จจริงแล้วว่า จริงๆแล้วข้าวกระสอบนั้นไม่ใช่ข้าวของสุรินทร์ ซึ่งสังคมเชื่อกันมาตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมา ว่าข้าวที่หมอวรงค์นำมาอภิปรายในสภา แล้วบอกว่าเป็นขั้นตอนการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว เป็นข้าวที่มาโกดังในจังหวัดสุรินทร์  ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่เลย เรามีการตรวจสอบหลักฐาน พยานชัดเจนหมดแล้ว

จากเอกสารพยานหลักฐานที่ดูแล้ว โครงการคลังสินค้าได้มีการมาแจ้งความว่าข้าวหายไป เพราะว่าการที่จะนำกระสอบข้าวออกไปข้างนอกได้ ซึ่งเป็นของของรัฐ มันต้องได้รับการอนุมัติ อนุญาต แล้วคนที่นำไปมอบให้คุณหมอก็ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ ข้าวที่ออกไปได้ก็จะเป็นการลักทรัพย์ มีการแอบเอาออกไป เขาก็เลยมาแจ้งว่ามีข้าวหาย ซึ่งพนักงานสอบสวนได้สอบสวนแล้ว ก็สรุปว่าไม่มีข้าวหาย ดังนั้นต้องตรวจให้ได้ว่าคุณหมอเอาข้าวกระสอบนั้นมาจากไหน ซึ่งคุณหมอก็ทราบดีอยู่แล้วในโครงการรับจำนำข้าว กุญแจจะต้องมีหน่วยงานภาครัฐเป็นผู้เก็บ ฝ่ายปกครองเป็นผู้เก็บและคลังกุญแจรวม 3 คน  เพราะฉะนั้นข้าวจะออกไปข้างนอกไม่ได้ แต่คุณหมอไปรับข้าวมาจากใครไม่ทราบ ซึ่งถ้าไม่ได้รับมาจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ ก็หมายความว่าเป็นของผิดกฎหมายอย่างแน่นอน แต่ในคลิปคุณหมออธิบายอย่างชัดเจนว่าข้าวกระสอบนี้ได้มาจากโกดังของรัฐบาล

ส่วนกรณีที่ทางหมอวรงค์จะฟ้องกลับนั้นก็เป็นสิทธิ์ของเขา ที่จะมองว่าเราไปกลั่นแกล้งเขาหรือไม่ ไปทำให้เขาเดือดร้อนหรือเปล่า  คือจริงๆแล้วก็ที่เราจะมาฟ้องเราเป็นผู้ถูกกระทำมาก่อน เราถูกคุณละเมิดก่อน เราเห็นว่ามันไม่ชอบธรรมก่อน เราถึงได้ออกมาเรียกจ้องสิทธิ์ตรงนี้ มีการสอบถามว่าโรงสีนี้รับงานใครมาไหม เคยได้ยินว่าคำพูดลักษณะนี้ออกมาเช่นกัน แต่เราต้องกลับไปถามคุณหมอด้วยว่าไปรับงานใครมาหรือเปล่านเช่นกัน เพราะเท่าที่เราตรวจเอกสารหลักฐาน มันน่าจะมีมูลที่เรานำมาฟ้องได้ ทนายกล่าว
 

หน้าแรก » ภูมิภาค