ผู้สื่อข่าวจังหวัดพัทลุงรายงานว่า ช่วงเดือนพฤศจิกายน รอยต่อเดือน ธันวาคม ของทุกปี เป็นช่วงหน้าฝนของพื้นที่ภาคใต้และจังหวัดพัทลุง โดยเฉพาะในวันนี้ 6 พฤศจิกายน 67  ทั่วพื้นที่จังหวัดพัทลุงเกิดฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะพื้นที่ตลอดแนวเทือเขาเขตรักษาพันธุ์สัตว์บรรทัดพัทลุง ตั้งแต่อำเภอศรีบรรพต ศรีนครินทร์ กงหรา ตะโหมด และ อำป่าบอน มีฝนตกหนักที่บริเวณยอดเขาเจ็ดยอด เขาล่อนและเขาหลัก เขตรอยต่อจังหวัดพัทลุง-ตรัง ทำให้น้ำจากเทือกเขาไหลลงสู่น้ำตกเขาคราม โตนแพรทอง น้ำตกปากราง น้ำตกหนานสูง น้ำตกนกรำ น้ำตกมโนราห์และน้ำตกไพรวัลย์ ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น ถ้าหากฝนยังไม่หยุดตกเกรงว่าจะเกิดน้ำล่นตลิ่งเอ่อท่วม พื้นที่ทำการเกษตรและสวนผลไม้และที่อยู่อาศัยของประชาชนในพื้นที่ลุ่มได้

เพื่อป้องกันและเฝ้าระวังภัยธรรมชาติที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในช่วงหน้าฝน ดร.พา ผอมขำ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)พัทลุง เรียกประชุมด่วนสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (สอ.บจ.) ที่อยู่ริมเขาบรรทัดในอำเภอป่าบอน ตะโหมด และอำเภอกงหรา ซึ่งมีพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมน้ำป่าไหลหลากและดินไสลด์  สั่งกำชับให้สมาชิกในพื้นที่เฝ้าระวังและเตรียมความพร้อม เมื่อมีเหตุประชาชนถูกน้ำท่วมได้รับความเดือดร้อน ให้ สจ.ในพื้นที่ประสานกับทุกภาคส่วนเข้าไปช่วยเหลือทันที เพราะจังหวัดพัทลุง มีหลายหน่วยงานที่มีความพร้อม ไม่ว่าจะเป็นกองบรรเทาสาธารณภัย อบจ.พัทลุง บรรเทาสาธารณภัยพัทลุง หน่วยทหารช่างค่ายอภัยบริรักษ์ กองพลพัฒนาภาค 4 และอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยมูลนิธิพัทลุงการกุศล กำลังทุกหน่วยพร้อมจะเข้าทำงาน แต่ที่ผ่านๆมาเมื่อเกิดภัยธรรมชาติ ประชาชนจะต้องแจ้งข่าวผ่านไปยังส่วนกลาง หรือแจ้งผ่านสื่อมวลชน กว่าที่กำลังจะได้เข้าไปทำงานก็ต้องใช้เวลา เพื่อทำงานช่วยเหลือผู้ประสบภภัยได้ทันท่วงที ขอให้ สจ.ทุกคนทำหน้าที่แจ้งข่าวขอความช่วยเหลือ

ทางด้านนายโชค หนูสิงห์ ประธานสภาองค์การบรหารส่วนจังหวัดพัทลุง กล่าวว่า เมื่อเกิดฝนตกหนักกลางป่าเขาบรรทัด กังวนว่าจะเกิดน้ำป่าดินไสลด์ในพื้นที่เสี่ยงของอำเภอกงหราและศรีนครินทร์ เพราะสภาพพื้นที่ป่าเป็นเขาดินปนทราย ตลอดแนวเป็นป่าสวนยางและสวนผลไม้ ปัจจุบันบางพื้นที่มีการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว สร้างที่พักและมีการตัดถนน จะทำให้น้ำกัดเซาะและถ้าหากมีฝนตกปริมาณมากจะทำให้ดินไสลด์ได้ จึงขอให้เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด