เมื่อวันที่ 30 พ.ย.67ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง จ.ยะลา วันนี้ประชาชนในพื้นที่ต่างรีบออกมาจับจ่ายซื้อข้าวของเพราะหลายคนคาดว่าสถานการณ์น้ำท่วมอาจจะใช้เวลาหลายวันกว่าจะคลี่คลาย โดยเฉพาะร้านค้าภายในตลาด พบว่า มีพ่อค้า แม่ค้า นำสินค้ามาขายน้อยรายมาก ส่วนใหญ่จะปิดร้าน ส่วนร้านค้าที่เปิดอยู่ต่างก็ได้รับผลกระทบเนื่องจากผักสดที่มาจากภาคกลาง หรือตลาดหาดใหญ่ จ.สงขลา ไม่สามารถมามาส่งผักสดได้ เนื่องจากเส้นทางขนส่งถูกน้ำท่วม ขณะเดียวกันประชาชนบางส่วนได้นำผักสดมาจาก อำเภอเปิงกาลันฮูลู รัฐเปรัก ประเทศมาเลเซีย แต่ได้ผักมาไม่มากนักเพื่อนำมาแก้ปัญหาผักขาดตลาด ให้ร้านอาหาร ร้านขายแกง และประชาชนทั่วไป แต่ก็ไม่เพียงพอ โดยผักคะน้า จาก มาเลเซีย ขาย กิโลกรัมละ 100 บาท หากเป็นผักคะน้าไทยในช่วงปกติอยู่ที่กิโลกรัมละ 50 – 60 บาท แต่เนื่องด้วยไม่สามารถหาผักสดในพื้นที่ได้และผักจากนอกพื้นที่ก็ไม่สามารถนำเข้ามาในพื้นที่ได้เช่นกัน

ประชาชนในพื้นที่อำเภอเบตง กล่าวว่า ตนได้รับผลกระทบอย่างมาก เนื่องจากฝนตกลงมากอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 แล้วและเส้นทางในหมู่บ้านสัญจรไปไหนมาไหนก็ได้ลำบากมาก จะออกมาซื้อของกินยังไม่มีเลย เพราะร้านค้าไม่ค่อยเปิดขาย หากร้านไหนมีสินค้า ตนก็ซื้อตุนเอาไว้ก่อน เพราะตนเชื่อว่าสถานการณ์น้ำอาจจะเพิ่มมากกว่านี้แน่นอน

ส่วนบรรยากาศที่ปั๊มน้ำมันต่างๆในเขตเทศบาลเมืองเบตง จ.ยะลา ประชาชนต่างแห่กันนำรถยนต์ รถจักรยานยนต์เข้าคิวเพื่อเข้าคิวเติมน้ำมันและยังมีประชาชนที่นำแกลลอนมาเติม เนื่องจากเกรงว่า น้ำมันอาจจะไม่เพียงพอใส่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ยังรอคิวยาว

ขณะที่ร้านขายแก๊สในเขตเทศบาลเมืองเบตง เจ้าของร้าน บอกว่า แก๊สทุกขนาดหมดตั้งแต่เมื่อวาน และตอนนี้ก็ไม่มีแก๊สให้กับลูกค้า เนื่องจากโรงอัดแก๊สในพื้นที่แก๊สหมดคลังเช่นกันต้องรอถนนสายหลักเปิดเพื่อรถขนส่งแก๊สนำแก๊สมาส่งได้

ส่วนที่ร้านเบตงมินิมาร์ท ริมถนนสุขยางค์ เขตเทศบาลเมืองเบตง ประชาชนต่างออกมาหาซื้อข้าวสารและน้ำดื่มกัน โดยนายกิตติ ดามาอู เจ้าของร้านเบตงมินิมาร์ท บอกว่า เครื่องอุปโภค บริโภค ที่ร้านมีเพียงพอ โดยเฉพาะข้าวสาร ภายใน 1 เดือนมีเพียงพอต่อความต้องการของประชาชนในพื้นที่  แต่หากเกินไปแล้ว ถนนหนทางที่เกิดน้ำท่วมขาด ยังไม่สามารถเปิดใช้ได้ผมคาดว่าคงจะไม่เพียงพอแน่ และนอกจากนี้ยังลดราคาข้าวสารให้กับประชาชนด้วย