วันที่ 2 ธ. ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโลกออนไลน์มีการแชร์ต่อและวิพากษ์วิจารณ์ เหตุการณ์ที่มีผู้ไม่หวังดีน้ำกล้องมาซ่อนไว้ในห้องน้ำนักกีฬา ภายในงานกีฬาของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งชื่อว่า Anucha Wave โพสต์ภาพและข้อความระบุว่า จักเเหล่ จักดำกะอยู่นำกันเด้อ  เป็นร้อยกว่าคลิป ตายๆๆๆ นักกีฬากู  ของกูแห่งน้อย ผมเห็นหลักฐานเต็ม2ตาแล้ว  ทั้งใหญ่ทั้งน้อย ดำแหล่มีหมด#กล้อง2ตัวนี้มันบันทึกอันน้อยๆของพวกเราแล้ว #นักกีฬาชายมอราชภัฏอุดรธานี #ใครคิดว่ามีตัวเองสามารถไปดูคลิปที่สภ เมืองสุรินทร์ครับ #ช่วยแชร์์เป็นกระบอกเสียงให้ผู้เสียหายด้วยนะครับ

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ติดตาไปหาทางด้านผู้โพสต์ชื่อว่า นายอนุชา อายุ 20 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ซึ่งทางคนดพสต์ได้ถ่ายหลักฐานทั้งในขณเกิดเหตุ พบกล้องแอบถ่ายซึ่งซ้อนอยู่ภายในกระป๋องนำยาดับกลิ่น พบว่าจาการที่คนถ่ายได้ปิดไฟห้องน้ำดู ปรากฏว่าบริเวณจุดที่เป็นรูนำยาดับกลิ่น มีแสงอินฟาเรดสีม่วงออกมา จึงได้แงะดูจึงรูว่านี่เป็นกล้องแอบบถ่าย 

นายเวฟ อายุ 20 ปี (คนโพสต์) เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนเป็นนักกี่ฬากรีฑาและได้มาร่วมการแข่งขันที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดสุรินทร์ คือมีคนที่ผิดสงสัยเข้าไปแอบอยุ่ในห้องน้ำของนักกีฬาที่ลงเเข่งขัน แล้วเข้าห้องน้ำนานๆ มาติดๆกัน 3วัน แล้วนักกีฬาผิดสังเกตุ ก็เลยเข้าไปแจ้งโค้ชว่าคนนี้มาอีกแล้ว ทางโค้ชก็เข้าไปดูแล้ววเรียกคนนั้นออกมาครับ แล้วก็สอบถามว่ามาทำอะไร เค้าก็ยอมรับว่ามาถ่ายคลิป  บอกว่าถ่ายแค่ตอนนักกีฬาชายถอดเสื้อธรรมดา  แต่ลบคลิปออกแล้ว  ตอนทางโค้ชเข้าไปเรียกตอนอยู่ในห้องน้ำ ทางโค้ชก็ให้เจ้าหน้าที่มาสอบถามก็ไม่มีหลักฐานอะไร ก็เลยพาไปโรงพัก ได้สักพักตนเลยเข้าไปฉี่ในห้องน้ำกับเพื่อน  เพื่อนก็เลยแกล้งปิดไฟ ในห้องน้ำครับ แล้ววผมก็เลยเจอ ไฟออกมาจากกล่องในภาพครับ ก็เลยแกะดูเหมือนมันจะเป็นกล้อง  ก็เลยเอาตามหลังจากที่เอาผู้ต้องสงสัยไปโรงพัก  ผู้ต้องหาก็บอกว่า ไม่ใช่กล้อง  เอาไว้ชาร์แบตไอแพคตอนเข้าห้องน้ำ  ไม่ได้เอาไปถ่าย  หา แต่่ก็ยังไม่เชื่อ แต่โทรศัพท์อีกเครื่องหนึ่งตำรวจกู้ไลน์ขึ้นมาเห็นวิดีโอที่แอพพถ่ายส่งเข้าไปครับ เป็นภาพโป๊ะของนักกีฬา ที่พักในตึกนั้นเป็นจำนวนมากครับ แถมภาพชัดมาก ตนจึงอยากฝากเป็นเตือนภัย