เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมลอฟต์  มาเนีย 1 โรงแรมลอฟต์ มาเนีย บูติค โฮเทล อำเภอเมืองชุมพร จ.ชุมพร นายแพทย์อนุ  ทองแดง  นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชุมพร เป็นประธานเปิดโครงการ “สำรวจบุคคลไร้สถานะ และตกหล่นทางทะเบียนให้มีสิทธิ์เข้าถึงบริการของรัฐด้วยการตรวจสารพันธุกรรม(DNA) อำเภอเมืองชุมพร โดยมีแพทย์หญิงปัทมพันธ์  อนันตาพงศ์  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์  อำเภอเมืองชุมพร กลุ่มสมาชิก อสม. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม 
          
พร้อมทั้งตรวจสารพันธุกรรม (DNA) ในห้องประชุมจำนวน 2 รายประกอบด้วย นางละเอียด  หนูคง  อายุ 93 ปี ที่อยู่12 หมู่ 2 ตำบลนาโพธิ์ อ.สวี จ.ชุมพร (ตามบัตรประจำตัวบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน) และนางสาคร  โถแก้ว  อายุ 65 ปี อยู่ที่ 113 หมู่ 6 ตำบลสลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร โดยมีญาติพาเข้ารับการตรวจ
           
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชุมพร  กล่าวว่า ประเทศไทยมีคนไทยส่วนหนึ่งไม่ได้การยืนยัน ทำให้ขาดสิทธิ์ในการเข้าบริการทางภาครัฐ ทางรัฐบาลมีนโยบายตรวจสอบสารพันธุกรรม(DNA) เพื่อยืนยีนตัวตนให้ได้รับสิทธ์เป็นคนไทย 
       
สำหรับจังหวัดชุมพรได้ดำเนินการมาสักระยะหนึ่งแล้วและได้ดำเนินการตรวจสอบไปแล้วจำนวน 9 ราย ทุกคนได้รับสิทธิ์ วันนี้จึงได้เปิดโครงการเพื่อกระจายให้เห็นทุกอำเภอจำนวน 8 อำเภอ โดยผ่านกำนันผู้ใหญ่บ้าน และอสม.ทุกอำเภอ ช่วยกันออกสำรวจประชาชนในพื้นที่ ที่ไม่มีสิทธิ์เป็นคนไทยแต่มีประวัติว่าเป็นคนไทย ทางสาธารณสุขจึงได้ตรวจสารพันธุกรรมโดยร่วมกับ สปสช.และโรงพยาบาลชุมพรฯซึ่งเป็นโรงพยาบาลหลักในการตรวจสอบฟรี และมอบสิทธิ์อันชอบธรรมให้พี่น้องเหล่านี้
                 
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชุมพร  กล่าวอีกว่า  จึงขอฝากกำนันผู้ใหญ่บ้าน ผู้สื่อข่าว อสม. เมื่อเห็นคนในพื้นที่ ที่ไม่มีสิทธิ์นำมายืนยันตัวตนได้ที่โรงพยาบาลชุมพรโดยตรง หรือผ่านกำนันผู้ใหญ่บ้านก็ได้ วันนี้ได้ดำเนินการเป็นตัวอย่างจำนวน 2 ราย แต่คาดว่าในอนาคตมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อันเป็นนโยบาลของรัฐบาลไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง จะดูแลคนไทยทุกคนด้วยศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียมกัน
            
ทางด้านผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์  กล่าวเพิ่มเติมว่า  โรงพยาบาลชุมพรฯร่วมกับสปสช.ตรวจสารพันธุกรรม(DNA)เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566  ได้รับบัตรประชาชนไปแล้วจำนวน 9 ราย อีกจำนวน 11 รายรอทางสถาบันนอติวิทยาศาสตร์อนุญาตมาแล้วสามารถดำเนินการต่อไปได้ในการตรวจสอบส่งสารคัดหลั่งไปตรวจสอบที่สถาบันฯได้โดยการตรวจจากกระพุ้งแก้มโดยใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือนถึงจะทราบผล
        
นางละเอียด  หนูคง  อายุ 93 ปี ที่อยู่12 หมู่ 2 ตำบลนาโพธิ์ อ.สวี จ.ชุมพร (ตามบัตรประจำตัวบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน) เล่าถึงความรู้สึกว่า “ดีใจ” เพียงสั้นๆเนื่องจากว่ามีอายุกว่า 93 ปี มีสุภาพตามวัยชราหูตาไม่ค่อยดีมากนัก โดยมีน.ส.สะอื้น  ใบบางเดื่อ อายุ 65 ปีอาชีพรับจ้างดูแลตลาดนัดแห่งหนึ่ง  ซึ่งเป็นลูกสาวพามาตรวจDNA บอกว่า หลังจากผู้เป็นแม่เลิกกับพ่อมานานลายปี จนตนรับมาอยู่ด้วยทราบว่าแม่ไม่ได้ต่อบัตรประชาชนตนเองจึงได้ซึ่งตนเองได้วิ่งเต้นการยืนยันเพื่อขอบัตรให้ ส่วนตนมีบัตรประชาชนตามเกณฑ์อายุไม่มีปัญหาอะไร โดยมีนางสนิท  นาคสุวรรณ อายุ 73 ปี ซึ่งเป็นน้องสาวนางละเอียด มาร่วมตรวจDNAเพื่อยืนยันว่าเป็นพี่น้องกันด้วย
        
ส่วนอีกคนหนึ่งที่เป็นบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน คือนางสาคร  โถแก้ว อายุ 65 ปี ที่อยู่ 113 หมู่ 6   ตำบลสลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร โดยมีนางสุนทร  โถแก้ว อายุ 67 ปี พี่สาวมีตรวจDNA เทียบสารด้วย เปิดใจว่า ที่ผ่านมาไม่มีบัตรประชาชนใช้ชีวิตลำบากทำงานก็ไม่ได้นอกจากทำงานก่อสร้าง เจ้บป่วยไม่ได้ไปโรงพยาบาลต้องซื้อยากินเองทนมาหลายปี บ้านเดินอยู่อำเภอปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ พ่อแม่เสียชีวิตตั้งแต่เล็กทะเบียนราษฎร์ไม่มี  จะทำบัตรสมัยนั้นต้องให้แม่ทาน(คนทำคลอด)มารับรองยืนยันแต่หาไม่ได้จึงปล่อยเลยตามเลย จนกระทั้งย้ายเข้ามาอยู่อาศัยที่จังหวัดชุมพรและมีครอบครัวสามีเสียชีวิตมานานกว่า 20 ปีมีลูกด้วยกัน 4 คน ปัจจุบันอยู่กับลูก”