อำเภอแคนดง / ชาวนา จ.ร้อยเอ็ดช้ำใจ ประกาศขายรถไถนาเดินตามทางอินเตอร์เน็ต ได้คนซื้ออยู่สุโขทัย จ้างขนส่งบรรทุกไปให้ โดนขนส่งแสบเอาไปโพสต์ขายต่อที่บุรีรัมย์ ตามมาเจอรถ ขอคืนกับผู้ช่วย ผญบ.คนซื้อ โชคร้ายซ้ำตำรวจไม่รับแจ้งความ บอกอยากได้คืนต้องซื้อเท่านั้นวอนผู้รู้กฎหมายช่วยแนะ

วันที่ 11 ธ.ค.67 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากเกษตรกรชาว อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด ระหว่างมาแจ้งความที่ สภ.แคนดง อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ ว่ารู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ไม่รับแจ้งความรถไถนาหายระหว่างขนส่ง

นายณัฐวุฒิ แน่นอุดร อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 หมู่ที่ 5 ต.ปากฝา อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด เล่าว่าตนมีอาชีพทำนาหลังเสร็จฤดูทำนาได้ประกาศขายรถไถนาแบบเดินตามทางอินเตอร์เน็ต จนกระทั่งมีลูกค้าที่จังหวัดสุโขทัย สนใจและตกลงกันในราคา 16,000 รวมค่าขนส่ง โดยลูกค้าซึ่งเคยซื้อขายกันมาก่อนเขาโอนเงินมาให้ทั้งหมด 16,000 บาท

จากนั้นตนได้โพสต์หารถขนส่งในกลุ่มไลน์กลุ่มรถขนส่งชื่อ สบายดี/แชร์งาน รถขนส่งทั่วสยาม ซึ่งมีสมาชิกประมาณ 5,000 คน พร้อมถ่ายภาพรถไถนาของตนลงไปด้วยเพื่อให้รถขนส่งได้รู้ว่าสินค้าเป็นอะไร จะบรรทุกอย่างไร จนกระทั่งมีนายเกรียงศักดิ์ ปัญญาเที่ยง เจ้าของรถขนส่งมารับงาน ตกลงกันที่ 1,500 บาท

แต่ตอนมารับของเป็นคนละคันกัน ซึ่งนายเกรียงศักดิ์ แจ้งมาว่าจะเป็นรถอีกคันหนึ่งมารับของ ขอค่ามัดจำ 500 บาทตนก็โอนไปให้ในบัญชีของนายเกรียงศักดิ์ กระทั่งเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.รถขนส่งมารับรถที่บ้านจึงแจ้งที่อยู่ผู้รับไปให้คือที่ อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย โดยนายเกรียงศักดิ์ จะแจ้งตนมาเป็นระยะว่างรถถึงไหนแล้ว

ผ่านไป 1 วันลูกค้าที่ซื้อรถไถโทรมาแจ้งว่า รถยังไม่มาถึงแปลกใจจึงโทรติดต่อรถขนส่งที่มารับ ได้รับคำตอบว่านายเกรียงศักดิ์ ให้เอารถมาส่งที่ อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ ตนจึงขอที่อยู่บ้านคนรับสินค้าที่บุรีรัมย์ แล้วเดินทางมาหาคนรับซื้อทันที เมื่อมาถึงพบว่าคนซื้อรถไถของตนเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน บ้านปอแดง ต.หัวฝาย อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ โดยผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านยอมรับว่าหลานซื้อมาให้ทางอินเตอร์เน็ตในราคา 6,000 บาท

จากนั้นตนได้ยืนหลักฐานหมายเลขเครื่องยนต์รถไถให้ดู และขอรถคืนเพราะน่าจะเป็นการรับซื้อของโจรหรือไม่ จนกระทั่งนัดกันไปเจรจาที่ สภ.แคนดง แต่การเจรจาไม่ประสบความสำเร็จ ฝ่ายผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ไม่ยอมคืนรถไถนาให้ แจ้งมาว่าถ้าจะเอาคืนต้องจ่ายเงินจำนวน 6,000 บาทให้ก่อนจึงจะคืนให้ เมื่อตนจะแจ้งความตำรวจกลับไม่รับแจ้ง

นายณัฐวุฒิ เล่าด้วยว่านอกจากนี้ยังได้รับข้อมูลจากคนซื้อที่จังหวัดสุโขทัย อีกว่านายเกรียงศักดิ์ ยังโทรไปแจ้งว่ารถเสียระหว่างทาง น้ำมันไม่พอจะไปส่งถึงขอเงินเติมน้ำมันกับปลายทางอีก 700 บาท สรุปคือนายเกรียงศักดิ์ น่าจะเป็นคนเอาภาพรถไปโพสต์ขายแล้วเปลี่ยนเส้นทางการขนส่ง

ตอนนี้ทำอะไรไม่ถูกเพราะตำรวจให้ตนไปหาหลักฐานมาก่อนคือต้องตามตัวนายเกรียงศักดิ์ คือคนขายมาก่อนจึงจะรับเรื่องให้ตนไม่รู้จะไปหาได้ที่ไหน จึงอยากจะให้ผู้รู้กฎหมายชี้แนะแนวทางให้ตนด้วยเพราะเป็นเพียงชาวนา