วันจันทร์ ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2568 12:32 น.

ภูมิภาค

ไม่ทันได้ใช้เงินไร่ละพัน! แฮนด์รถไถนากระแทกดับคาทุ่ง

วันศุกร์ ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2567, 06.33 น.

วันที่ 12 ธ.ค. 67 เมื่อเวลา 17.00 น.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ชนะมาร เต็มปักษี สารวัตร(สอบสวน)สภ.คูเมือง อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้าน บ้านเขว้า ว่ามีชาวบ้านนอนเสียชีวิตอยู่กลางทุ่งนา จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมจุดอำเภอคูเมือง

 


ที่เกิดเหตุเป็นบริเวณฝายน้ำยางบ้านเขว้า ต.ปะเคียบ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำมูลบริเวณกลางทุ่งนาพบศพนายใจ ฤทธิ์เดชรัมย์ อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 176 ม.4 บ้านเขว้า ต.ปะเคียบ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ เจ้าของนานอนคว่ำหน้าจมอยู่ในน้ำโคลนในนา ใกล้กันพบรถไถนาเดินตามลักษณะตัวเครื่องยนต์ของรถไถทิ่มอยู่ในนาเครื่องยนต์ยังทำงานอยู่ จาการตรวจสอบบริเวณใบหน้าและขมับซ้ายของผู้ตายพบมีร่องรอยเขียวซ้ำ เบื้องต้นคาดว่าถูกแฮนด์รถไถนากระแทกอย่างรุนแรง หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “ควายเหล็กถีบ “


สอบถามนายสมพาน รังสีรัมย์ อายุ 55 ปี บ้านเลขที่ 262 ม.18  บ้านน้อยแสนสุข ต.ปะเคียบ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ คนเห็นเหตุการณ์เล่าว่า ตนเองเลี้ยงวัวอยู่บริเวณดังกล่าว ได้ยินแต่เสียงเครื่องยนต์ของรถไถทำงาน แต่ไม่คนคนบังคับรถ จึงเดินมาดูพบว่านายใจ นอนคว่ำหน้าอยู่ในโคลนซึ่งมีน้ำขังอยู่ ส่วนสาเหตุน่าจะเกิดจากนายใจ บังคับแฮนด์ให้เลี้ยวแล้วสะบัดเหวี่ยงไปโดนใบหน้าของนายใจ จนล้มลงหมดสติแล้วหน้าคว่ำลงไปในโคลน ประกอบกับไม่มีคนเห็นจนเสียชีวิต

 


ด้านนางเพียร ฤทธิ์เดชรัมย์  อายุ 67 ปี ภรรยาคนตายเล่าว่าสามี ทำนา 5 ไร่ ตนเองเคยขอร้องให้หยุดทำนาเพราะอายุมากแล้วแต่สามีไม่ยอมฟังบอกว่าไม่ทำนาแล้วจะทำอะไร ก่อนหน้านี้สามีเล่าว่าหลังจากที่ได้รับเงินโครงการของรัฐบาลที่ช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวไร่ละ 1,000 บาท ซึ่งจะได้รับในวันที่ 19 ธ.ค. 67 นี้ จำนวน 5,000 บาท จะนำไปต่อยอดลงทุนทำนาปรังต่ออีก 5 ไร่ แต่ตนเองก็ไม่คิดว่าสามีจะเสียชีวิตก่อนที่จะได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลไร่ละ 1,000 บาท


 

หน้าแรก » ภูมิภาค