วันที่ 21 ธ.ค. เมื่อเวลา 05.30 น. ร.ต.อ.พรชัย ชูนวล พนักงานสอบสวน สภ.เบตง จ.ยะลา ได้รับแจ้ง ว่าพบวัตถุต้องสงสัยลักษณะคล้ายระเบิด ถูกนำมาตั้งไว้หน้าตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทย สาขาสุขยางค์ ในเขตเทศบาลเมืองเบตง จ.ยะลา จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทาบตามลำดับชั้น และประสานเจ้าหน้าที่กลุ่มงานพิสูจน์ และเก็บกู้วัตถุระเบิด ร้อย ตชด 445เบตง เข้าทำการตรวจสอบ

ในเวลาต่อมานายอมร ชุมช่วย นายอำเภอเบตง พร้อมด้วย พ.ต.อ.จิรวัฒน์ ดูดิง. ผกก.สภ.เบตง พ.ต.ท.อรรถพล จินตาคม ผบ.ร้อย ตชด.445  ร..ท..ปิยวัฒน์  ช้างคง ผบ.มว.ปชด.ที่ 1 ร้อย.ปชด.1 เข้าพื้นที่เกิดเหตุและได้กำชับเจ้าหน้าที่ไม่ให้อยู่ในความประมาทในการเข้าจุดเกิดเหตุ  จากการตรวจสอบพบว่าบริเวณตู้เอทีเอ็มดังกล่าวว่ามีวัตถุต้องสงสัยลักษณะคล้าย กล่องเหล็กสีดำตั้งอยู่ เจ้าหน้าที่จึงนำโดรนบินขึ้นเพื่อทำการตรวจสอบทางอากาศบริเวณจุดใกล้เคียง และใช้หุ่นยนต์เก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบ และปิดการจราจรบนถนนสุขยางค์เพื่อกันประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องออกนอกบริเวณ ก่อนจะใช้ปืนปืนอัดน้ำแรงดันต่ำยิงทำลายวัตถุต้องสงสัยดังกล่าว

อย่างไรก็ตามภายหลังจากการตรวจสอบพบว่าเป็นเพียงซีพียู คอมพิวเตอร์ ไม่ใช่วัตถุระเบิดแต่อย่างใด และขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังเก็บวัตถุพยาน ปรากฏว่าได้มีประชาชนที่พบวัตถุต้องสงสัยดังกล่าวมาแจ้งกับเจ้าหน้าที่ให้มาดูกล้องวงจรปิดหน้าร้าน จนพบบุคคลต้องสงสัยขับขี่รถจักรยายนต์ขับขี่เข้ามาหน้าตู้เอทีเอ็มและได้นำซีพียูคอมพิวเตอร์ลงจากรถจักรยานยนต์และนำมาวางไว้ดังกล่าว ภายหลังจากดูกล้อวงวงจรปิด พ.ต.อ.จิรวัฒน์ ดูดิง. ผกก.สภ.เบตง สั่งการให้ชุดสืบสวน สภ.เบตงทำการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมจนพบว่าเป็น นายณรงค์ ณ นคร อยู่บ้านเลขที่ 14 หมู่ที่ 9 ต.ชะรัต อ.กงหรา จ.พัทลุง แต่มาอยู่ในพื้นที่ ต.ธารน้ำทิพย์ อ.เบตง จ.ยะลา โดยมารับจ้างทำงานทั่วไปและมีอาการทางประสาท เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามจับตัวมาทันที

จากการสอบสวนทราบว่า เมื่อช่วงเวลา 05.00 ของวันนี้ นายณรงค์ สารภาพว่า ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์วนเวียนในเขตเทศบาลเมืองเบตง และได้เข้าไปแฟลตตำรวจ สภ.เบตง แต่ถูก เจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ให้เข้ามาในบริเวณพื้นที่ราชการที่มีการกั้นพื้นที่ไว้ไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าเพื่อป้องกันเหตุ และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ว่ากล่าวตักเตือนไป และให้ออกจากพื้นที่ดังกล่าว จนเวลา 05.30 น.ตนจึงได้นำซีพียู คอมพิวเตอร์มาวางไว้หน้าตู้เอทีเอ็ม โดยนายณรงค์อ้างว่าเห็นมีกล้อวงจรปิดจึงนำมาฝากไว้ และได้ขับขี่รถจักรยายนต์เข้าบ้านจนหลับไปมาตื่นอีกครั้ง เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาเรียกตัวนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.เบตง  ภายหลังจากการสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวนายณรงค์ มาชี้จุดที่นำซีพียูคอมพิวเตอร์มาวางไว้และส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป