วันที่ 8 มกราคม 2568 นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผวจ.สมุทรสาคร เป็นประธานเปิดงาน “Hub of Seafood” ครั้งที่ 1 ณ ลานริมเขื่อน ศาลหลักเมืองสมุทรสาคร  จังหวัดสมุทรสาคร โดยมี นางสุพินญา นิรามัยวงศ์ ประธานแม่บ้านมหาดไทย จ.สมุทรสาคร นายวรณัฏฐ์ หนูรอต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร และผู้มีเกียรติจากหลายภาคส่วน ทั้งภาครัฐ และเอกชน เข้าร่วม

นายสกล ศักดิ์กำจร หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า สำหรับการจัดงาน Hub of Seafood ครั้งที่ 1 เป็นโครงการภายใต้งบพัฒนาจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำคัญ คือ การแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่โดดเด่นของจังหวัดสมุทรสาครด้านอาหารทะเล การขับเคลื่อนการพัฒนาจังหวัดสมุทรสาครให้เป็นศูนย์กลางอาหารทะเล และการสร้างโอกาสเพิ่มช่องทางการตลาดให้กับผู้ประกอบการในจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมกันนี้ยังมีการรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะความต้องการจากทุกภาคส่วน ภายในจังหวัด เพื่อจัดทำยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนจังหวัดให้เป็นศูนย์กลางอาหารทะเลของประเทศ โดยการจัดงาน Hub of Seafood จะมี 2 ครั้ง คือ ครั้งที่ 1 ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่  12 มกราคม 2568 ที่ลานริมเขื่อน ศาลหลักหลักเมืองสมุทรสาคร และ ครั้งที่ 2 ในวันที่ 30 มกราคม - 3 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ลานกิจกรรมด้านหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลมหาชัย ซึ่งภายในงาน จะมีการแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับยุทธศาสตร์เพื่อขับเคลื่อนจังหวัดให้เป็นศูนย์กลางอาหารทะเล รวมถึงการแสดงและจำหน่ายสินค้าเกี่ยวอาหารทะเล จากผู้ประกอบการประมาณ 100 บูธ นอกจากนี้ยังมีการแสดงจากศิลปินนักร้องจากเวทีเดอะวอยซ์ทุกคืน

ด้านนายนริศ นิรามัยวงศ์ ผวจ.สมุทรสาคร ก็กล่าวด้วยว่า งาน Hub of Seafood ซึ่งเป็นโครงการภายใต้งบพัฒนาจังหวัดสมุทรสาคร นั้นเป็นงานที่แสดงให้เห็นถึงจุดแข็งสำคัญของจังหวัดสมุทรสาคร ในการเป็นศูนย์กลางอาหารทะเลของประเทศ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ อาทิ การทำประมง อุตสาหกรรมประมงต่อเนื่อง การผลิตและแปรรูปสินค้าอาหารทะเล ทั้งในรูปแบบพร้อมทาน อาหารทะเลแช่แข็ง อาหารทะเลกระป๋อง ธุรกิจห้องเย็นจัดเก็บสินค้าอาหารทะเล ธุรกิจค้าส่งและค้าปลีกอาหารทะเล ธุรกิจร้านอาหารทะเลในรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงอาหารแบบสร้างสรรค์ (Gastronomy Tourism เป็นต้น ซึ่งงานที่จัดขึ้นนี้ ก็จะช่วยยกระดับการพัฒนาจังหวัดให้เป็นศูนย์กลางอาหารทะเลได้อีกทางหนึ่ง  นอกเหนือไปจากยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดสมุทรสาครด้านการเป็นเมืองเศรษฐกิจมูลค่าสูง (High Value Economy City) อีกทั้งยังสอดรับกับนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่มุ่งให้มีการสร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ให้กับประชาชน และการส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากและพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอีกด้วย