เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 13 ม.ค.68 น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ นักกิจกรรมพริ้มด้วยกลุ่มทะลุวังและนักกิจกรรมเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยประมาณ30 คน พร้อมด้วยนายกฤษฎางค์ นุตจรัส หรือทนายด่าง ได้เดินทางมาที่ศาลจังกวัดธัญบุรี เพื่อรับฟังการไต่สวนคดีการเสียชีวิตของนางสาวเนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง นักกิจกรรมที่เสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา

ด้านน.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ ได้ให้สัมภาษณ์ว่าวันนี้พวกเรามาร่วมรับฟังการไต่สวนการเสียชีวิตของพี่บุ้ง ซึ่งวันนี้เป็นนัดแรกก็อยากให้ทุกคนจับตากันด้วยซึ่งเราได้ไปยื่น 1) พรรคเพื่อไทย ถ.วิภาวดีรังสิต เขตพญาไท  2) สำนักงานเลขาธิการแพทยสภา อาคารมหิตลาธิเบศร ชั้น 12 กระทรวงสาธารณสุข อ.เมืองนนทบุรี  3) กระทรวงยุติธรรม ถ.แจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กันมาแล้วเพื่อยื่นให้องค์ต่างๆมีตัวแทนมารับฟังการไตรสวนการเสียชีวิต ซึ่งตนเองคิดว่าไม่จบแค่นัดนี้ อยากให้ทุกคนติดตามกันต่อไปว่าการเสียชีวิตของพี่บุ้งจะได้รับความยุติธรรมหรือไม่ พวกเราต้องได้ประโยชน์อย่างแน่นอนเพราะขณะนี้ความยุติธรรมมันไม่โปร่งใสและประชาชนทุกคนสามารถตกเป็นเหยื่อได้

ด้านนายกฤษฎางค์ นุตจรัส หรือทนายด่าง กล่าวว่าวันนี้เป็นวันแรกที่ศาลจังหวัดธัญบุรีมีนัดไต่สวนคำร้องการตายของนางสาวเนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง นักกิจกรรมที่เสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมาขั้นตอนที่ช้านั้นก็คือการเสียชีวิตของน้องบุ้งนั้นน้องเสียชีวิตอยู่ในความควบคุมของเจ้าหน้าที่รัฐคือกรมราชทัณฑ์พิเศษกรุงเทพก็เลยต้องมีการไต่สวนคดีความอาญามาตรา151 เพื่อที่จะพิสูจน์ว่าผู้ตายคือใคร ตายเพราะสาเหตุใด ใครทำให้ตาย แล้วมีใครเป็นเหตุที่ทำให้น้องเสียชีวิตซึ่งเป็นการไต่สวนตามพิธีการตามกฎหมาย เมื่อมีการไตรสวนเสร็จก็ต้องทำสำนวนส่งไปที่พนักงานอัยการเพื่อที่จะทำสำนวนว่าผู้ตายคือน้องน้องบุ้งเสียชีวิตเพราะอะไร หากมีใครทำให้ตายใครต้องรับผิดชอบ อัยการต้องทำสำนวนหรือญาติของผู้ตายพ่อ แม่ พี่น้อง ก็จะสามารถที่จะใช้สิทธิทางศาลเพื่อที่จะดำเนินคดีกับผู้ที่รับผิดชอบได้ 

ซึ่งในการเลื่อนการไต่สวนครั้งนี้พนักงานอัยการได้เตรียมพยานไว้ 6 คน มีทั้งหมอโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ตำรวจ ผอ.โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ผู้ผ่าศพนิติเวชโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ แพทย์ของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ที่เป็นหัวหน้านิติเวช แต่เนื่องจากมีพยานบางคนติดภาระกิจหลายท่านมาวันนี้ไม่ได้หลายท่านประกอบกับพยานเอกสารที่อัยการอ้างมันเป็นรายงานการรักษาว่าการเสียชีวิตของบุ้งทั้งโรงยาบาลราชทัณฑ์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ น้องมีอาการอย่างไรเสียชีวิตที่ไหนมีสัญญาณชีพหรือไม่มีสัญญาณชีพตั้งแต่เรือนจำแล้วซึ่งรายละเอียดอันนี้ทางญาติผู้ตายและฝ่ายผมไม่รู้มาก่อน มีสำนวนเป็นบึกที่พนักงานอัยการเตรียมมายื่นไว้นี้ทำให้เราไม่สามรถที่จะรู้และซักถามพยานได้ ซึ่งในสำนวนนั้นไม่มีกล้องวงจรปิด ทั้งโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ ผลการตรวจสอบเป็นยังไงก็ยังไม่มี ทางเราก็เลยร้องขอต่อศาลว่าถ้ามีการไตร่การตายสวนวันนี้เราน่าจะไม่ได้รับข้อเท็จที่ครบถ้วนและทางฝ่ายผู้ตายยังไม่ได้รับรายละเอียดที่เกิดขึ้นซึ่งทางเราทราบกันดีอยู่แล้วว่าในช่วงที่ผ่านมากว่าคดีจะมาถึงวันนี้ได้มีการขยายเวลาสอบสวนไปหลายครั้งกว่า90 วันนี้ซึ่งวันนี้ทางญาติของผุ้ตายยังไม่รู้สาเหตุการตายที่แท้จริงคืออะไร มีแต่สาเหตุการเสียชีวิตที่เรื่องที่ว่าค่าเกลือแร่ในร่างกายไม่สมดุลและหัวใจโตเราก็ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร ถึงแม้ว่าสาเหตุเกิดจากความจริงใจหรือไม่จงใจยังไงก็ต้องมีคนรับผิดชอบและผู้ต้องขังที่ถูกควบคุมตัวและยังเป็นผู้บริสุทธิ์นั้นถ้าศาลมาให้ประกันตัวและเสียชีวิตทุกทรมานนั้นซึ่งที่เราทำอยู่นี้เพื่อให้สังคมเปลี่ยนแปลงประเทศเราต้องมีการเปลี่ยนแปลงเราถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ไม่อยากให้เป็นเหมือนคดีตากใบ ซึ่งเราเลื่อนไปเป็นวันที่ 3 มีนาคม2568 เวลา09.00 น.ทางศาลก็เห็นด้วย