หนุ่มเสพยาหารถยนต์ไปอวดสาว เจอคนขับรถหลวงสุดชุ่ยจอดรถไปทำธุระ ไม่ล็อคประตูซ้ำเสียบกุญแจคาไว้เลยเข้าทางโจร
            

ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.อ.ปัญญา ท้วมศรี ผกก.สภ.เมืองชุมพร ว่า เมื่อเวลา 15.38 น.วันที่ 15 มกราคม 68
ทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร ได้รับแจ้งจาก นายประสาท ไกรวิลาศ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95/2 ม.3 ต.บางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร  ว่า ได้ขับขี่รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอน หมายเลขทะเบียน 5ชพ 7462 กรุงเทพมหานคร ของสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองชุมพร  ไปจอดที่ลานจอดรถสถานีรถไฟจังหวัดชุมพรแต่ไม่ได้ทำการดับเครื่องยนต์ จากนั้นเจ้าตัวได้ลงจากรถไปรับสินค้าที่ฝ่ายรับสินค้า โดยใช้เวลา เพียง 10 นาที และเมื่อทำธุระเสร็จแล้ว กลับมาไม่พบว่ารถยนต์แล้ว
        

พ.ต.อ.ปัญญา ท้วมศรี ผกก.สภ.เมืองชุมพร กล่าวว่า จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ต.ปิยพล ฉัตรภูมิ สว.สืบสวน สภ.เมืองชุมพร พร้อมกำลัง ลงพื้นที่เกิดเหตุเพื่อทำการตรวจสอบจากกล้อง CCTV บริเวณจุดเกิดเหตุพบว่าคนร้ายเป็นชายได้ลักเอารถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอน หมายเลขทะเบียน 5ชพ 7462 กรุงเทพมหานคร ที่จอดอยู่บริเวณลาดจอดรถยนต์สถานีรถไฟจังหวัดชุมพรไป จากนั้นได้ขับขี่หลบหนีออกจากที่เกิดเหตุ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองชุมพร ได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้เสียหายว่ารถยนต์คันดังกล่าวมี GPS ติดตั้งอยู่ที่ตัวรถ จึงได้ร่วมกันทำการตรวจสอบตำแหน่งของ GPS จากการตรวจสอบพบว่าคนร้ายได้หลบหนีโดยใช้เส้นทางถนนเพชรเกษมขาขึ้นมุ่งหน้าเข้าสู่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จึงได้แจ้งตำรวจประจำด่านตรวจจุดต่างๆเพื่อสกัดจับรถดังกล่าว
        

พ.ต.อ.ปัญญา ท้วมศรี ผกก.สภ.เมืองชุมพร กล่าวต่อว่า ต่อมาได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงหน่วยบริการบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่า พบรถยนต์คันดังกล่าวบนถนนสายเพชรเกษม ขาขึ้น และได้เลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าเข้าไปทางชายแดนประเทศเมียนม่า จึงได้ประสานด่านตรวจสกัดจุดร่วมทหารพรานและตชด.147 ซึ่งตั้งอยู่ก่อนถึงชายแดนเพียง 4 กม.ให้ช่วยสกัดจับ จนในที่สุดสามารถสกัดจับคนร้ายพร้อมของกลางไว้ได้ บริเวณใกล้กับโรงเรียน ตชด.คีรีล้อม ต.ช้างแรก อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.เมืองชุมพร จึงได้เดินทางไปรับตัวทราบชื่อ คือ นายวัฒนา  อายุ 32 ปี อยู่บ้าน ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร พร้อมรถยนต์ที่ถูกลักไปนำมา ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองชุมพร
           

จากการสอบสวนในเบื้องต้น นายวัฒนา ให้การว่า ตนเองมีอาชีพทำสวนทุเรียน กาแฟ บนเนื้อที่ 6 ไร่ ซึ่งอยู่บ้านคีรีล้อม ต.ช้างแรก อ.บางสะพาน จ.ประจวบฯ และตลอดที่อยู่ทำสวนที่นั้นกว่า 3 ปี ตนเองได้แอบรักหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งเป็นนักเรียนชั้น ม.5 และเป็นลูกสาวของเจ้าของร้านขายของชำในหมู่บ้าน ที่ผ่านมาตนเองก็จะแวะเวียนไปที่ร้านค้าเป็นประจำ เพราะอยากเห็นหน้าและอยากจะพูดคุยด้วย แต่ทุกครั้งที่ไปที่ร้านก็ไม่กล้าสักที

นายวัฒนา ให้การต่อว่า จนเมื่อวาน ตนเองได้ซื้อยาบ้า มาเสพ 4 เม็ด และเดินตระเวนหารถยนต์สักคันเพื่อจะลักแล้วขับไปหาหญิงสาวคนดังกล่าวเพื่อจะโชว์ แต่ตลอดทั้งวันของเมื่อวานไม่พบรถยนต์ที่จอดทิ้งไว้ที่จะสามารถลักได้สักคัน จนมาวันนี้ขณะที่ตนเองเดินอยู่บนชานชาลา ก็เห็นรถยนต์สี่ประตูจอดติดเครื่องไว้ จึงเดินไปยังรถทันทีและพบว่าเป็นรถยนต์ของทางราชการอีกด้วย จึงเปิดประตูรีบขับหนีออกมาทันที โดยมีเป้าหมายจะไปโชว์หญิงสาวที่ตนเองแอบรักและครั้งนี้ตนจะอยากจะถามว่าคิดอะไรกับตนหรือไม่ รักตนหรือเปล่า เมื่อเห็นว่าทำงานราชการ แต่ไม่ทันถึงบ้านหญิงสาวก็มาถูกจับเสียก่อน  

เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดในร่างกาย ซึ่งก็พบว่าเป็นสีม่วง จึงได้บันทึกจับกุมพร้อมได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า “ลักทรัพย์” และ “เป็นผู้ขับขี่รถยนต์ เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย  จากนั้นได้นำตัว พร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป