“เป็นหนึ่ง” บุกช่วยหญิงแฟนชาวต่างชาติหลังรับร้องเรียนพระสำนักปฏิบัติธรรมข่มขืนระหว่างไปปฏิบัติธรรม เผยพระทำโปรไฟล์หรูเชิญชวนคนทำกิจกรรม สาวเผยบินมาจาก ตปท.ไม่คิดว่าจะโดนแบบนี้ ต้นอ้อชี้คาดว่าน่าจะโดนไปแล้วหลายคน คาดตั้งสำนักขึ้นเพื่อหวังเครมอย่างเดียว

วันที่ 18 ม.ค.68 น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ หรืออ้อเป็นหนึ่ง มูลนิธิเป็นหนึ่ง ได้เดินทางไปที่ สภ.หนองสองห้อง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เพื่อพา น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 38 ปี ไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน  สภ.หนองสองห้อง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เพื่อเอาผิดกับพระสำนักปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่ง

หลัง น.ส.เอ ร้องเรียนผ่านมูลนิธิ ว่าถูกพระสำนักสงฆ์แห่งหนึ่งอยู่ในพื้นที่ ต.ลุมปุ๊ก อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ข่มขืนกระทำชำเรา เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมาระหว่างมาปฏิบัติธรรมที่สำนักสงฆ์

โดยข้อร้องเรียนของ น.ส.เอ เล่าถึงตอนที่ฟังคลิปของช่อง ยังทรง แชแนล เกี่ยวกับฆราวาสบรรลุธรรมจึงรู้สึกศรัทธา เพราะในคลิปนั้นเชิญชวนไห้มาปฏิบัติธรรมกับท่านที่สวนแสงธรรม กินฟรีอยู่ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ  สามารถฝึกให้หลุดพ้นทุกข์ได้ ตนซึ่งปฏิบัติธรรมอยู่แล้วจึงสนใจใช้เวลาหยุดพักผ่อน 2 เดือนเดินทางมากับสามี

ตอนที่ตนมาปฏิบัติธรรมได้เดินทางมาคนเดียวเพราะสามีพักผ่อนอยู่ที่พัทยา เดินทางมาถึงบุรีรัมย์เข้าพักรีสอร์ตเมื่อวันที่ 13 ม.ค.พระ ช.ได้โทรศัพท์ทางไลน์และทักไลน์มาโดยตลอด

วันที่ 15 ตนเข้าปฏิบัติธรรมที่สำนักสงฆ์คืนแรก กลางดึกพระ ช. ได้เข้ามาที่ตนพักอยู่ซึ่งเป็นซุ้ม มาลวนลามตอนนั้นยอมรับว่ากลัวแต่ไม่กล้าทำอะไรเพราะเกรงว่าเขาจะมีอาวุธ แล้วกระทำการข่มขืนตนสำเร็จความไคร่ไป 1 ครั้ง

พอรุ่งเช้าตนได้ไปปรึกษาแม่ที่อยู่ในสำนักสงฆ์ ว่าเหตุการณ์แบบนี้ควรจะทำอย่างไร วันเดียวกันพระ ช. มาพูดคุยเหมือนจะไม่ให้ตนกลับไปบอกว่า “ไม่ต้องไปนะเพื่อความรัก” จึงใช้โทรศัพท์อัดคลิปไว้เป็นหลักฐาน

น.ส.เอ เล่าหลังแจ้งความว่า หลังจากนั้นพระวิชัยได้เอาเงินให้ตน เขาเอาตังค์มาให้จำนวนหนึ่งซึ่งหนูก็รับประมาณ 8,000 บาท ส่วนตัวไม่อยากจะให้พระกระทำแบบนี้กับใครอีกจึงจะเอาเรื่องถึงที่สุด

ด้าน น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ หรืออ้อเป็นหนึ่ง กล่าวว่า จากข้อร้องเรียนของน้อง ตนได้พิจารณาประมาณ 4-5 ชม.เพราะสลับซับซ้อนพอสมควร ส่วนหนึ่งคิดว่าเป็นการสมยอมหรือไม่

แต่อีกส่วนหนึ่งเรามองว่าเรื่องแบบนี้เป็นความเชื่อ เป็นความนับถือซึ่งใครก็มีสิทธิ์โดนกระทำโดยไม่รู้ตัวได้จึงรับเรื่องแล้วเดินทางมาช่วยเหลือ และเชื่อว่าน่าจะมีคนถูกกระทำแบบนี้มาแล้วนอกจากเคสนี้

สำหรับพระ ช. ใช้ภาพโปรไฟล์ของตัวเองบนเฟชบุ๊คยืนคู่กับรถหรู แล้วชักชวนคนมาปฏิบัติธรรม มีความเป็นได้หรือไม่ว่า พระ ช.ตั้งสำนักขึ้นมาเพื่อหวังประโยชน์หลายด้านดคือทั้งหวังล่วงละเมิดหญิงที่มีความเชื่อ หรือหวังขุดทองกับหญิงที่มีฐานะ เคสนี้หญิงสาวมีแฟนเป็นชาวต่างชาติ โดยเฉพาะการพูดคุยกันก่อนหน้านี้ น.ส.เอ ได้เล่าทั้งหมดให้ฟังว่า “แฟนชราภาพและเป็นมะเร็งใกล้จะเสียชีวิต” ทำให้พระ ช.พยายามชักชวนให้เข้ามาปฏิบัติธรรม แล้วกระทำล่วงละเมิดเพื่อให้เหยื่อคิดว่าเป็นของเขาแล้วต้องอยู่หรือจะกลับมาอยู่ด้วยกัน