วันที่ 7 ก.พ.68 ที่โรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช ถ.สรรพสิทธิ์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี สถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย (ยท.) ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาจังหวัดอุบลราชธานี อำนาจเจริญ และเครือข่ายส่งเสริมศักยภาพเด็กและเยาวชน (คสย.) จัดกิจกรรม Kick OFF : ขับเคลื่อนจังหวัดอุบลราชธานีปลอดบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านกลไกแกนนำยุว อสม. ภายใต้แนวคิด “สานพลัง สร้างแกนนำ ตอกย้ำคนอุบลไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า” โดยพิธีเปิดได้รับเกียรติจาก ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี  “กิจกรรมที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ มีเป้าหมายผลักดันให้เกิดสมาชิกเครือข่ายยุว อสม. เพิ่มขึ้น ครอบคลุมทุกอำเภอของจังหวัดอุบลราชธานี ผ่านการจัดตั้งชมรมของโรงเรียน โดยตั้งเป้ามีแกนนำนักเรียนหรือนักศึกษาทั้งระดับมัธยมศึกษา อาชีวศึกษา และระดับอุดมศึกษา จาก 18 สถาบันการศึกษา กว่า 120 คน ทั้งนี้ภายหลังการอบรมพัฒนาศักยภาพทั้งมิติความรู้เกี่ยวกับภัยทางสุขภาพ มิติทักษะการเป็นผู้นำ จะสามารถปฏิบัติงานเป็นผู้ให้คำปรึกษาหรือให้คำแนะนำเบื้องต้นเกี่ยวกับสุขภาพต่อกลุ่มเพื่อนได้ทันที และจะเป็นส่วนสำคัญต่อการเฝ้าระวังร้านจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าโดยรอบสถานศึกษา เพื่อส่งข้อมูลให้ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีและผู้บังคับใช้กฎหมาย เพื่อปกป้องเด็กและเยาวชนจากภัยของบุหรี่ไฟฟ้าตามแนวคิด “สานพลัง สร้างแกนนำ ตอกย้ำคนอุบลไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า”
              
ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี  กล่าวว่า “ปัจจุบันสถานการณ์การสูบบุหรี่ไฟฟ้าของเด็กและเยาวชนในพื้นที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น แม้ที่ผ่านมาจังหวัดอุบลราชธานี จะมีมาตรการรณรงค์ให้ความรู้กับนักเรียน นักศึกษา หรือประชาชนทั่วไปอย่างต่อเนื่อง รวมถึงจัดกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองคุมเข้มมาตรการร่วมกับผู้บังคับใช้กฎหมายในการดำเนินคดีและจับกุมผู้กระทำความผิดฐานลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า แต่ร้านจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าเหล่านี้ก็มีความพยายามปรับตัวเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับด้วย เช่น การส่งสินค้าผ่านกล่องพัสดุหรือรถรับจ้างสาธารณะ ดังนั้นการบังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่องและผลักดันให้มีแกนนำภาคประชาชนหรือเครือข่ายเด็กและเยาวชนเข้ามามีบทบาทในการร่วมเฝ้าระวังและส่งข้อมูลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงนับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีซึ่งจะทำให้การแก้ไขปัญหาการสูบบุหรี่ไฟฟ้าของเด็กและเยาวชนลดลงจนเกิดผลสำเร็จ ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมาจังหวัดอุบลราชธานี พบผู้ป่วยเป็นเด็กนักเรียนหญิงอายุ 14 ปี ป่วยด้วยโรคจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพียง 6 เดือน แม้เป็นผู้ป่วยรายแรกที่เป็นเด็กนักเรียน แต่มีความกังวลว่าในอนาคตอาจจะมีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น การป้องกันบุหรี่ไฟฟ้าในทุกมิติจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกภาคส่วนต้องให้ความร่วมมือกัน ทั้งนี้ตนในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัด จะมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ นายอำเภอ หรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงาน สำหรับการกวดขันสิ่งผิดกฎหมายรวมถึงบุหรี่ไฟฟ้าด้วย”