วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 13:53 น.

ภูมิภาค

“ผัดจังโก้” ที่คนหนองคาย ทุกเพศทุกวัยจะรู้จักเป็นอย่างดี แต่ถ้าคนจังหวัดอื่นอาจจะเคยกิน แต่ไม่รู้จักคิดว่า มันคือ "ผัดขี้เมา"

วันจันทร์ ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568, 11.25 น.

นายนพดล ศรีพล เจ้าของสวนอาหารวีเอสหนองคาย เล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนย้อนหลังกลับไปตั้งแต่ตนเป็นเด็ก ก็ได้ยินคำว่า “ผัดจังโก้” จริงๆเมนูนี้ ตนเองทานเป็นประจำตอนดึก เพราะหนองคาย เมื่อก่อน จะเริ่มชำแหละเนื้อวัว กลางดึก ซึ่งคนหนองคาย มีวัฒนธรรมการกินที่เรียกว่า "กินเนื้อดึก" กล่าวคือ รอเวลาหลัง 00.00 น.  โรงฆ่าสัตว์ของเทศบาลเมืองหนองคาย จะมีการฆ่าวัว เพื่อจำหน่ายให้กับเขียงเนื้อในตลาดสด จะมีชาวบ้านหลายๆกลุ่มที่ทำงานหรือจัดงานเทศกาลเสร็จแล้ว ไปรอซื้อเนื้อสดๆ จากโรงฆ่าสัตว์ เพื่อไปประกอบอาหารเลี้ยงกันหลังเสร็จงาน เมนูยอดฮิตส่วนมาก คือ ก้อยเดิก ซกเล็ก ซอยห่าง และย่างน้ำตกแจ่วเพี้ย ซึ่งแจ่วเพี้ยนี้ก็ประกอบด้วย กระเทียม พริกสด ตะไคร้ มาโครกตำแล้วนำไปผัดออกมาเป็นแจ่วเพลี้ย  พอนานๆไปคนเริ่มขี้เกียจทำ บางเมนูมีวัตถุดิบหลายอย่างใช้เวลาในการประกอบอาหารนานเกินไป จึงดัดแปลงปรับเปลี่ยน โดยนำเอาเนื้อที่ย่างไม่ค่อยสุกที่หั่นแล้ว มาผัดรวมกันกับแจ่วเพี้ย ใส่ใบโหระพาหรือผักอื่นลงไป รสชาติก็จะยังคงเป็นเนื้อย่างจิ้มแจ่วเพี้ย และยังมีกลิ่นหอมของโหระพา และสามารถกินกับข้าวเหนียวหรือข้าวสวยได้ เป็นที่ชื่นชอบรสชาติถูกปาก และเป็นนิยมทำกินกันในหมู่คนที่ชอบวัฒนธรรมการกินเนื้อเดิก (ดึก)

ทางด้าน อ.ยอดยิ่ง ราชตั้งใจ ข้าราชการบำนาญ กล่าวว่า เมนูผัดเนื้อใส่แจ่วเพี้ย นี้ เดิมทีก็ยังไม่มีขายในร้านอาหาร จนมีร้านอาหารประเภทลาบ-ก้อย ชื่อร้าน "เจนจบทิศน้ำตก" ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนเจนจบทิศ ใกล้สี่แยกพญานาคในปัจจุบัน ได้ทำอาหารเมนูผัดเนื้อแจ่วเพี้ย แต่ด้วยข้อจำกัดในการปรุงอาหาร ซึ่งจะต้องทำทั้งแจ่วเพี้ย  ย่างเนื้อ หั่นเนื้อย่าง แล้วจึงจะมาผัด ทำให้เสียเวลาในการปรุง ทั้งอาหารออกค่อนข้างช้า จึงได้คิดกรรมวิธีที่สามารถเตรียมวัตถุดิบสำหรับปรุงอาหารไว้ทีละมากๆ แล้วปรุงทีละจาน  แต่ให้รสชาติและรสสัมผัส ยังคงเหมือนเนื้อย่างผัดแจ่วเพี้ย กล่าวคือใช้เนื้อสดหั่นเป็นชิ้นบาง นิยมใช้เนื้อขาลัง หรือขาลาย (shank) หรือเนื้อใบบัวติดมัน ผัดกับเครื่องพริกแกงที่ประกอบด้วย  ตะไคร้ หอมแดง กระเทียม  พริกสด  โขลกไม่ต้องละเอียดมาก ผัดเครื่องแกงกับน้ำมันให้หอม นำเนื้อลงไปผัดพอสุก ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล ผงชูรส พอได้รสที่ชอบแล้ว ใส่น้ำเพี้ยที่อุแล้ว (เพี้ยต้มกับน้ำเปล่าใส่เกลือเล็กน้อยเพื่อดับกลิ่น) ใส่ใบมะกรูดฉีก ใบโหระพา ตักใส่จานพร้อมเสริฟได้เลย ปัจจุบันมีการดัดแปลงสูตร สำหรับคนที่ไม่กินเพี้ย โดยใช้เป็นใส่น้ำมันหอยแทน รสชาติก็จะออกมาคล้ายๆผัดขี้เมา นอกจากนั้นยังมีการแปลงโฉมให้เกิดความงามของอาหารเช่น เติมพริกชี้ฟ้าแดง  เพิ่มความเผ็ดร้อนด้วยพริกไทยสด ฯลฯ อีกด้วย

อ.ยอดยิ่ง ราชตั้งใจ ยังบอกอีกว่า ทำไมจึงเรียกเมนูอาหารนี้ ว่า "ผัดจังโก้" ด้วยในยุคนั้น ภาพยนตร์คาวบอย เรื่อง "ดี จังโก้ ยอดนักเลง" (Django Unchianed ปี 1966) กำลังฉายเป็นที่โด่งดังในกลุ่มหนังกลางแปลง และหนึ่งในพ่อครัวของร้านเจนจบทิศผู้ทำเมนูนี้ ชอบแต่งกายเลียนแบบ Franco Nero พระเอกในเรื่อง คนที่ไปกินอาหารจึงเรียกเมนูอาหารนี้ว่า "ผัดจังโก้" แต่นั้นมา

สำหรับจุดเด่นและรสชาติอาหารจานนี้คือ ชื่อที่สดุดหู แปลกหู รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เป็นอาหารประเภทผัด แต่มีรสขมอ่ำล่ำ (รสขมอย่างกลมกล่อม ขมนวลๆ พอดิบพอดี) เป็นได้ทั้งอาหารจานด่วน  กับแกล้ม  อาหารหลัก รับประทานได้ทั้งกับ ข้าวสวย และ ข้าวเหนียว ชื่อเมนู “จังโก้”  รู้จักกันเฉพาะในจังหวัดหนองคาย (อาหารประจำถิ่น)  สามารถดัดแปลงรสชาติได้ตามพอใจของผู้รับประทานอีกด้วย.

หน้าแรก » ภูมิภาค